way magazine
December 21 at 8:00 PM ·
“สวีเดนควรออกจากยุคกลางได้แล้ว...เห็นได้ชัดว่าระบอบกษัตริย์ไม่สามารถเข้ากับระบอบประชาธิปไตยได้ เพราะบทบาทของประมุขคือการสืบทอดของตระกูลตระกูลหนึ่ง ถึงเวลาแล้วที่ประมุขแห่งรัฐต้องเสริมสร้างวิถีประชาธิปไตยด้วยสมรรถนะและความสามารถ” - ส่วนหนึ่งจากคำกล่าวของ ส.ส. พรรคสังคมนิยมประชาธิปไตยของสวีเดน
แม้ราชวงศ์สวีเดนจะเป็นหนึ่งในราชวงศ์ต้นแบบที่ขึ้นชื่อเรื่องการวางตัว ทว่าก็มีข้อครหามากมายถึงการมีอยู่ของสถาบันกษัตริย์ที่ส่วนใหญ่คือคำวิพากษ์วิจารณ์ของประชาชนผู้เป็นเจ้าของภาษี ซึ่งต้องจัดสรรเงินภาษีถึงราว 136 ล้านโครนา หรือประมาณ 500 ล้านบาทต่อปี ให้แก่ราชวงศ์
บทความนี้เป็นการไล่เลียงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงบทบาทและสถานะของกษัตริย์ตั้งแต่ยุคระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ในสวีเดนเข้าปกคลุมอาณาจักร จนมาถึง ‘ยุคแห่งเสรีภาพ’ (The Age of Liberty) ที่กษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ หรือที่เรียกว่า ‘ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ’ (Constitutional Monarchy) ที่แม้ประชาชนจะได้รับสิทธิเสรีภาพ ทว่าการเมืองการปกครองที่ผันผวนของสวีเดนก็ทำให้อำนาจยังคงอยู่ในมือกษัตริย์และราชวงศ์ดังเดิม
จนมาถึงยุคปัจจุบันที่ประชาธิปไตยในสวีเดนเฟื่องฟู ทำให้ราชวงศ์สวีเดนหมดอำนาจใดๆ ในทางการเมือง แม้แต่กระบวนการตรากฎหมายของรัฐสภาก็ไม่จำเป็นต้องขอให้พระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธย สิ่งเดียวที่สถาบันกษัตริย์สวีเดนต้องพยายามรักษาไว้ให้มั่นคือ ภาพลักษณ์ เพื่อไม่ให้สถานะการเป็นประมุขต้องสั่นคลอน
---
สวีเดน: การพิสูจน์ตัวตนของราชวงศ์ ภายใต้คำถามกษัตริย์มีไว้ทำไม
https://waymagazine.org/monarchy-of-sweden/
text: ธัญชนก สินอนันต์จินดา
---
ชวนอ่านซีรีส์ Monarchy in Motion: ในความเคลื่อนไหวของ ‘สถาบันกษัตริย์’ ตลอดเดือนธันวาคมนี้จนถึงต้นปีหน้า ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสถาบันกษัตริย์ยุคใหม่ทั่วโลก ท่ามกลางความท้าทาย แรงเสียดทาน ข้อครหา และการรักษาภาพลักษณ์หรือความจำเป็นสำหรับการมีตัวตนอยู่ในโลกปัจจุบันที่กำลังหันหน้าไปสู่ประชาธิปไตยที่เสรี