ยังไม่ทันได้ชนะเลือกตั้ง 'แลนด์สไล้ด์' พลังประชารัฐได้เป็น 'เผด็จการรัฐสภา' ไปแล้ว

ท่าทางของพรรคพลังประชารัฐ และเลยไปถึงรัฐบาลประยุทธ์โดยรวม มันเป็นอย่างเดียวกันกับพวกกวักมือเรียกคณะรัฐประหารเคยว่าพรรคไทยรักไทยและรัฐบาลทักษิณ ‘เผด็จการรัฐสภา’ แต่นี่ชัดเจนกว่า เพราะสมาชิก ๑ ใน ๓ ของรัฐสภา มาจาก ‘ตู่ตั้ง’

นอกเหนือจากนั้นกิริยาอาการต่างๆ ออกแนวเผด็จการแจ่มแจ้ง ดังเช่นกรณีการประชุมกรรมาธิการงบประมาณฯ เมื่อวานนี้ (๑๗ มิ.ย.) องค์ประชุมไม่ครบ เพราะ ส.ส.พปชร.โดดงานกันเกือบเกลี้ยง เดินทางไปขอนแก่นเพื่อประชุมพรรค

วางท่าว่าเป็นเรื่องสำคัญ มีการเลือกกรรมการบริหารชุดใหม่ การเลือกแค่พิธีรีตอง ในเมื่อมีเตี๊ยม เตรียมไว้พร้อมแล้วใครจะไป ใครจะแทน และใครยังอยู่ อนุชา นาคาสัย เลขาธิการลาออกเปิดทางให้ ‘พ่อค้าแป้ง’ ผู้มาแรงเข้าสวมได้อย่างสะดวก

“อนุชาให้เหตุผลในการลาออกว่า ไม่ต้องการให้หัวหน้าพรรค พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อึดอัดใจ และไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งในพรรค” อีกทั้งไม่ต้องการเห็นการโหวตแข่งกัน เป็น “ภาพการจัดเกณฑ์สมาชิกพรรคสองฝ่ายมาโหวต” แต่นั่นคือวิถีประชาธิปไตย

เช่นกันกับการประชุมกรรมาธิการ กำหนดวันเวลาเอาไว้แล้ว ควรรักษามารยาท จำเป็นจริงๆ ก็ควรแจ้งที่ประชุมล่วงหน้า เปลี่ยนวันขอเลื่อนออกไปหน่อยได้ ไม่ใช่มาจวกฝ่ายค้านว่า “ดราม่า...มาขยันอะไรตอนนี้” แล้วเหน็บซ้ำ “พูดให้น้อยลง การประชุมก็เดินหน้าได้เร็ว”

ไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.ปัดเศษยุบพรรคเพื่อย้ายเข้า พปชร. รับงานเป็นองครักษ์ ‘ตู่’ ถนัดทางหัวหมอ คอยไล่เห่า และไว้ฟัดฝ่ายตรงข้ามไม่ให้ระคายเคืองรัฐบาล พูดอย่างนั้นแสดงถึงความสามหาว ถือดีว่าอยู่ข้างผู้กำอำนาจสืบทอดเผด็จการ

สภาในระบอบประชาธิปไตยมีไว้ให้ถกเถียงกัน เพื่อได้ทางออกสมบูรณ์ ไม่ใช่ไว้ ‘ข่มเขาโคกินหญ้า’ ถ้าพูดน้อยฝ่ายนำก็จะรวบรัดเอาง่ายๆ ไม่มีฝ่ายค้านมีแต่ ‘ขี้ข้า’ รอรับสั่งการ เหมือนดั่งบรรดาลิ่วล้อตู่ตั้ง ในสภา ๒๕๐ คน ซึ่งนับวันยิ่งแสดงให้เห็นว่าเป็น ‘สวะ’ เช่นเขาว่า

สว.สองสามคนที่ ‘ไอลอว์’ ระบุว่าเป็น 'ขาประจำ' ในการขวางลำการแก้รัฐธรรมนูญ อันเสนอโดยภาคประชาชน รวมถึงการแก้มาตรา ๒๗๒ เพื่อ ‘ปิดสวิตซ์’ ไม่ให้เป็นสภาที่คอยค้ำจุนและสืบทอดอำนาจของประยุทธ์และพวกนักยึดอำนาจ

สมชาย แสวงการ คนหนึ่งที่ออกมาตอบโต้ข้อเสนอของกลุ่ม Re-Solution ว่า “สว.ทำผิดอะไรถึงต้องมาปิดสวิตซ์” คำตอบที่คล้องจองกันส่วนใหญ่อยู่ที่ เป็นพวกที่คณะรัฐประหารแต่งตั้งมาเพื่อค้ำจุนอำนาจโดยแท้ ยังไม่เห็นทำประโยชน์แก่ประชาชนส่วนใหญ่สักนิด

อีกคน กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ อ้างว่า “เรา เป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย ดูแลความเรียบร้อยของบ้านเมืองด้วย” จะแก้ไขรัฐธรรมนูญกำจัดออกไปไม่ได้นะ “แล้วบ้านเมืองไม่สงบขึ้นมาทำไง” นี่ก็เพ้อฝัน เหลิงอำนาจเสียเหลือเกิน เป็นตัวแทนตู่ ดูความเรียบร้อยให้ประยุทธ์ น่ะใช่

“ทำกันแบบนี้ผมว่ามันเกินไปหน่อย มันไม่เห็นหัวประชาชนเลย” ปิยบุตร แสงกนกกุล แห่งคณะก้าวหน้ากล่าวถึงญัตติพรรครัฐบาล ที่เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะ “แพ้ภัยกติกาตัวเอง ก็จะแก้กติกาเพื่อจะกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง”

เขาแจงชั้นเชิงกลับกลอกของพวกประยุทธ์ว่า “จะมีการเปิดประชุมรัฐสภาในวันที่ ๒๒ มิ.ย.นี้ มีวาระที่ค้างอยู่คือร่างกฎหมายประชามติ และร่างกฎหมายยาเสพติด ซึ่งตนได้ข่าวมาว่ามีการวางคิวก็เรียบร้อยแล้ว ว่าวันที่ ๒๒ มิ.ย.จะเคลียร์ให้จบ

“แล้ววันที่ ๒๓ มิ.ย. จะเป็นคิวของร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมรายมาตรา และวันที่ ๒๔ มิ.ย. นี้จะทำการลงมติกันในวาระ ๑ รับหลักการกันเลย วางแผนกันไว้เสร็จสรรพว่าจะตั้งกรรมาธิการอะไรต่างๆ พิจารณาให้จบทันปิดสมัยประชุมสภา”

ไม่บังเอิญที่ชั้นเชิงเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพลังประชารัฐ เพื่อเปลี่ยนระบบเลือกตั้งกลับไปหาแบบที่รัฐธรรมนูญ ๒๕๔๐ เคยทำให้พรรคไทยรักไทยชนะท่วมท้น และครั้งนี้พรรคเพื่อไทยจะได้อาณิสงค์ไปด้วย แต่พรรคก้าวไกลจะเสียเปรียบกลายเป็นปลาซิวปลาสร้อย

เป็นธรรมดา ของพรรคการเมืองแม้อยู่ในกระบวนเดียวกัน ย่อมต้องการจำนวน ส.ส.ให้ได้มากที่สุด ข้อถกเถียงระหว่าง ‘ติ่ง’ เรื่องพรรคหนึ่งจะเอาแบบเยอรมัน อีกพรรคไม่แตะหมวด ๑ กับหมวด ๒ มันเป็นความต่างที่สามารถไปด้วยกันได้

ข้อเสนอของ ‘มิตรสหายท่านหนึ่ง’ ผ่านทาง Nithinand Yorsaengrat ที่ว่าถ้าก้าวไกลต้องการ ‘เปลี่ยนแปลง’ “มันต้องเป็นแนวทางที่ได้รับเสียงชัยชนะเด็ดขาดเท่านั้น” ยุให้ไปเอาชนะแบบ ‘แลนด์สไล้ด์’ เสียเลย รู้แล้วรู้รอดไป

ทางติ่งโน้น ผ่านทาง Srin Pukdeerasd ตอบว่า พรรคแบบ “ระดมทุนจากการขายของ (ต่อมาโดนห้าม) กับกู้หัวหน้าพรรค ๑๐๐ กว่าล้าน (ต่อมาหัวหน้าพรรคถูกสอย)...มันแลนด์สไลด์ไม่ได้อยู่แล้วค่ะ” (เช่นกันกับที่คุณโทนี่ถามหาเมื่อเร็วๆ นี้)

ทั้งคู่ต้องพึ่งพาซึ่งกันและกัน จึงจะนำไปสู่ชัยชนะเหนือฝ่ายสืบทอดอำนาจ ยุทธวิธีบ้านน้อยติดสอยห้อยตามบ้านใหญ่ น่าจะไม่ได้ผลแล้วสำหรับยุคนี้ ที่คนรุ่น ๓๐>๗๐ เหลืออดกับการปักเสากินรีบนเส้นทางโคลนตม ที่คนรุ่น ๗๐<๓๐ ติดยึด

(https://voicetv.co.th/read/Rz1Lq118m8Z4, https://www.matichon.co.th/politics/news_2782482, https://www.prachachat.net/prachachat-top-story/news-692578fxLs และ https://www.facebook.com/VoiceOnlineTH/posts/10161873500934848)