วันจันทร์, มิถุนายน 28, 2564

ความโกรธของประชาชนต่อผู้นำ ‘ไม่เต็ม’ เพิ่มขึ้นร้อยเท่าทวีคูณ


ความโกรธของประชาชนต่อผู้นำ ไม่เต็มเพิ่มขึ้นร้อยเท่าทวีคูณ หลังจากที่ ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพวกลิ่วล้อ พากันหัวร่อครื้นเครงกับมุขไม่ตลกของประยุทธ์ ตอนแถลงปิดแค้มป์แรงงาน และห้ามสถานจำหน่ายอาหารเปิดรับลูกค้านั่งรับประทานในร้าน

มันอาจจะทำให้กลายเป็น “Take มึง home, country road.” ไปในไม่นานเกินรอก็ได้ เมื่อพบว่าคนที่ระบายความอัดอั้นไม่พอใจกับการบริหารจัดการสกัดกั้นเชื้อไวรัสโคโรน่าของประยุทธ์และพวก นั้นมาจากคนที่เคยบ่อนทำลายรัฐบาลเลือกตั้ง เรียกคณะรัฐประหารเข้ามา

ไม่ว่าจะเป็น ป้าแจ๋วยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์ ผู้กำกับหนังคนดัง ที่บ่นออกข่าวว่ากองถ่ายทำละครของเขาเสียหายหนักจากสถานการณ์โควิดขณะนี้ หรือ นิ้วกลม สราวุธ เฮ้งสวัสดิ์ นักเขียนยอดนิยมโพสต์ข้อความแสบ “ได้ยินเสียงร้องไห้ของประชาชนบ้างไหม”



และที่หนักหนาและสะเทือนใจคนทั่วไปอย่างล้ำลึก เป็นการตายของ ประกายฟ้าจากการกระโดดตึกคร่าชีวิตตนเอง ด้วยความเครียดหนักที่ตกงานมาแล้ว ๒ เดือน หางานใหม่ไม่ได้เลย ขาดรายได้ แล้วยังการปิดแค้มป์แรงงานที่กลายเป็นสุมไฟวิกฤต

นอกจากความเดือดร้อนของคนเล็กคนน้อย เช่นกรณีโพสต์โอดของผู้ใช้นาม Panattaya Chatchana เล่าถึงพ่อซึ่งทำงานในแค้มป์ก่อสร้าง ที่มีเพื่อนร่วมห้องพักติดโควิด ตัวเขาอยากไปตรวจดูเชื้อแต่ออกไปไหนไม่ได้ “เขาให้ทหารมาคุม”

ถามว่าแล้วกินอยู่อย่างไร “มีข้าวกล่องให้ ๕๐ กล่อง แต่คนในแค้มป์ ๔๐๐ กว่าคน” ผู้โพสต์รำพัน “แม้แต่ชีวิตตัวเองยังเลือกไม่ได้เหรอวะ มันเกินไปไหมวะ บริหารแบบนี้ตายอย่างเดียว คนไทย” กับในส่วน Nick@DrSuwadee เอามาเล่า

ว่า “วันนี้คุยกับผู้บริหารแคมป์คนงาน เค้าโกรธรัฐบาลมาก ทำไมไม่ส่งหมอพยาบาลมาด้วย ทำไมส่งมาแต่ทหารตำรวจมา” ขณะที่สถิติคนติดเชื้อเพิ่มของวันนี้ ๕,๔๐๖ ราย และรักษาได้ ๓,๓๔๓ ราย ที่ ศบค.ใช้เน้น ก็ยังมีส่วนต่างกว่า ๒ พันรอเตียง

อีกทั้งความยากเข็ญของบรรดาร้านอาหารขนาดเล็กๆ ร้านเหล่านั้นเปิดขายได้เฉพาะให้ลูกค้าซื้อออกไปจากร้าน โดยสามทุ่มต้องปิดจำหน่าย แต่ร้านสะดวกซื้อแฟรนไชส์ของเจ้าสัว ที่ขายอาหารหลายอย่างซื้อเสร็จเอาเข้า เวฟ กินได้ทันที

กลับเปิดได้ทั้งวันทั้งคืน สมกับที่ Baphoboy@Baphoboyz ทวี้ตเหน็บ “หิวเมื่อไหร่ก็แวะมา เพราะโควิดไม่เคยเข้าเซเว่น เราเลยยินดีต้อนรับ ๒๔ ชั่วโมง” นอกจากความยากลำบากแล้วยังปรากฏแจ่มแจ้งในความเหลื่อมล้ำ

เป็นการตอกย้ำให้เห็นว่าผู้นำไม่ได้มีใจให้แก่ประชาชน ยิ่งถ้านำเอาถ้อยความในโพสต์ของ Thanapol Eawsakul มาคำนึง ข้อที่ว่าถึงจะอย่างไรก็ “ทำอะไรประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ได้ เพราะแบคอัพประยุทธ์นั้นใหญ่มาก” เห็นภาพใครคนนั้นกับไป๊ป์

“ถ้าปล่อยให้สถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ อะไรที่ไม่เคยเห็นก็จะได้เห็น อะไรที่เคยเห็นก็จะไม่ได้เห็นอีกต่อไป” ในเมื่อความสั่นสะเทือนคืบไปทุกหย่อมหญ้า แม้นว่าคำสั่งห้ามทำการก่อสร้างต่างๆ เป็นเวลา ๑ เดือน กลัวจะเป็นแหล่งบ่มเพาะคลัสเตอร์

ทว่า “ห้ามก่อสร้าง ๑ เดือน กระทบมากกว่านายกฯ สั่งปิดแคมป์คนงาน” ประธานกรรมการอสังหาฯ เปิดเผยว่าความเสียหายนั้น ตกเดือนละกว่า ๓ หมื่น ๕ ถึง ๔ หมื่นล้านบาท ยังไม่รวมมูลค่าองค์ประกอบ เช่นค่าวัสดุ งานตกแต่ง และส่วนของภาครัฐอีก

ด้านหอการค้าฯ ออกมาแจ้งความเสียหายที่เกิดแก่ตนเช่นกันว่า เบาะๆ ไม่ต่ำกว่า ๖ หมื่นล้านบาทต่อเดือน คือเสียหายเพิ่มจากเดิมวันละ ๑-๒ พันล้านบาท ซึ่งเดิมนั้น “ผ่อนคลายให้ประชาชนกลับมานั่งทานในร้านอาหารได้ ๕๐% เมื่อไม่นานมานี้

คราวนี้ความเสียหายต่อธุรกิจเพิ่มแน่ๆ เป็นเดือนละ ๓-๖ หมื่นล้าน ซึ่งกระทบกับทั้งการจ้างงานและกับผลผลิตที่จะได้ แล้วกระทบต่อไปถึงมูลค่าเศรษฐกิจไทย หรือมูลภัณฑ์รวมผลิตผลในประเทศ (จีดีพี) จะถูกทอนไปอีก ๐.๑-๐.๓%

จากที่คาดหมายแย่มากแล้ว ว่าจีดีพีไทยตอนสิ้นปีนี้อย่างดีสุดอยู่ที่ ๑.๘%

(https://www.facebook.com/btimesch3/posts/1424413197924541 และ  https://matichon.co.th/entertainment/news_2797863)