วันจันทร์, มิถุนายน 21, 2564

เถียงกันเรื่องนับคะแนนเลือกตั้งบัตรสองใบ เสียจนจะ ‘ตัดญาติขาดมิตร’ เหมือนดั่ง 'สลับภูมิทัศน์' กลุ่มการเมือง ไหม


พวกติ่งๆ เถียงกันเรื่องนับคะแนนเลือกตั้งบัตรสองใบอย่างไหนดีกว่า เสียจนเห็นมี ตัดญาติขาดมิตร กันไปแล้ว ทั้งที่เบื้องลึกจริงๆ มันแย้งกันเรื่อง หมวด ๑ หมวด ๒ มากกว่า ฝ่ายหนึ่งไม่กล้าพูดว่าไอ้สองหมวดนี่มันดียังไงถึงจะไม่แก้ นั่นแหละปัญหา

จะให้ออกมาบอกว่าแก้ไม่ได้ ของคู่บ้านคู่เมือง อีกทั้งเคยเป็นวัวเคยขา ม้าเคยขี่กันอยู่ ก็เขินนะ เสียยุทธศาสตร์ด้วย ในเมื่อรู้ดีว่ามวลชนที่ต้องการเป็นธารน้ำสำหรับวันข้างหน้า ก็พวกเด็กปากกล้า ก้าวร้าวนี่ละ ไม่งั้น เพื่อไทยจะจัดเวทีรุ่นเยาว์เหมือน ปชป.มี ยุวละหรือ

จะว่า รีเด็ม เสียมารยาทตัดต่อภาพ ต้องยอมรับว่ามันมีแก่นของประเด็นฝังอยู่ คนรุ่น ดันเพดาน กันต่อ (ในวันที่ ๒๔ มิถุนานี้) เขาไม่อินกับ สมบัติผู้ดี ยิ่งไปกว่าเจตนาเบื้องลึก ถึงได้ปักหลักฟัดกับความฉ้อฉลของ คราบเผด็จการ ตั้งแต่อนาคตใหม่ยันก้าวไกล

ยังดีที่ หมอเลี้ยบหาทางออกละลายความเข้มข้นของการบาดหมางเรื่องระบบเลือกตั้งบัตรสองใบ แบบ รธน.๔๐ หรือเยอรมัน ที่ขัดแย้งกันอยู่ “ระบบนั้นดีกว่าระบบนี้ ผลลัพธ์จะออกมาไม่แตกต่างกัน...อย่างไรก็ดีกว่าบัตร ๑ ใบปี ๖๐ แน่นอน”

เสียดายที่ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ไม่ยอมพูดถึงประเด็นหน้าสิ่วหน้าขวานกว่านั้น ที่ว่าจะบัตรสองใบให้เพื่อไทยกับ พปชร.นำโลด ก๊ก ประยุทธ์ ก็ยังมีพรรคเหนือพรรค ๒๕๐ คน คอยค้ำจุนการสืบทอดอำนาจอยู่ดี แม้จะ “ลงพื้นที่พบปะประชาชน และวางนโยบาย” อย่างคุณหมอแนะ

ภาพ ภูมิธรรม เวชยชัย ดุเด็กในรายการ หมาแก่เหมือนจะออกตัวแรงว่าพรรคของ โทนี่ ไปเองได้ ไม่แคร์อันดับสาม (ตอนนี้ขึ้นมาเป็น ๒) ที่ห่ามห้าวเกินรับ หากดูจากโพล นิด้า ล่าสุดที่บอกว่าเสียงส่วนมากในจำนวน ๒,๕๑๕ ตัวอย่าง ไม่เอาพรรคไหนเลย

แต่ก็มีลำดับเสียงส่วนย่อย ให้เพื่อไทยที่หนึ่ง (๑๙.๔๘%) รองลงไปเป็นก้าวไกล (๑๔.๕๑%) พลังประชารัฐที่เคยติดอันดับสองมาตั้งแต่ปลายปี ๖๓ บัดนี้หล่นไปอันดับสาม ข้อน่าสังเกตุอยู่ที่พรรคประชาธิปัตย์ อันดับสี่นั้น ดีวันดีคืนตั้งแต่ ธันวา ๖๓ ถึง มิ.ย.๖๔

อาจเป็นไปได้ว่าผู้ตอบคำถามโพลนิด้าจำนวนมากเป็นชนชั้นกลางในเมือง ที่ยังมีใจให้กับ ปชป. แม้จะน่าชื่นอกตรมกับการเป็นน้ำใต้ศอกกับการร่วมรัฐบาลสืบทอดอำนาจรัฐประหาร มาจะสามปียังไม่รู้ลูกผีลูกคน ทั้งที่ เมียรองเกือบจะได้เป็น เจ้าคุณพระ ตกกระป๋องไปจากโพลนี้

เรื่องนั้น สติธร ธนานิติโชติ นักวิชาการปกเกล้าฯ บอกกับสื่อ ประชาชาติ ว่า “ประชาธิปัตย์แค่เอาตัวรอดไปให้ได้ก่อน เมื่อขั้วการเมืองยังเป็นอย่างนี้” ถึงอย่างนั้นเขาแนะว่า สามพรรคที่เหมือนว่าเที่ยวหน้า ส้มไม่หล่น ผนึกกำลังกันได้ชูนายกฯ คนใดคนหนึ่ง

มันจึงมาถึงไอ้ระบบเลือกตั้งที่ฝ่ายนี้เถียงกันอยู่นี่แหละ นัยว่าพรรคเมียน้อยไม่ค่อยชอบ บัตรเลือกตั้งสองใบ แบบที่ พปชร.และ พท.ช่วยกันดัน ถ้ากลับไปหาแบบ วิชามารมีชัย ใบเดียวปัดเศษ ตักช้อนเสียงตกน้ำ จะดีกว่าสำหรับ ปชป. ภูมิใจไทย และชาติไทยพัฒนา

ข้อที่ Somsak Jeamteerasakul ทัก “ที่น่าคิดคือ หากภูมิทัศน์ทางการเมืองเปลี่ยนจะเกิดอะไรขึ้น กลุ่มแรกและกลุ่มที่สองอาจจะรวมกันอีก” เขาอ้างถึง “กลุ่มที่เชียร์ทักษิณอยู่ ได้แก่เพื่อไทย (และ) กลุ่มที่เคยเชียร์ทักษิณ ได้แก่ พลังประชารัฐ”

ถ้างั้นก็น่าคิดอีกเหมือนกันว่า ก้าวไกลถูกผลักให้ไปเกี๊ยเซี้ยกับพวกอกหัก พรรคใดพรรคหนึ่งหรือทั้งสอง-สามพรรค จะว่าไง ดูเหมือนติ่งเพื่อไทยนอกจากจะเป็นไม้เบื่อกับติ่งธนาธร แล้วยังเป็นไม้เมากับพวก ‘Re-Solution’ ที่มี ไอติม พริษฐ์ วัชรสินธุ ร่วม

จะบังเอิญหรือไม่บังเอิญก็สุดแท้ ผลงานของ รี-โซลูชั่นคือการเสนอร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ซึ่งต้องการรายชื่อสนับสนุนให้ครบ ๕ หมื่นคนโดยไว (ขณะนี้ได้แล้ว ๒ หมื่นกว่า) ลงชื่อออนไลน์ได้ที่ "Re-Solution ถึงเวลารัฐธรรมนูญใหม่"

ถ้าหากเห็นด้วยกับ อานนท์ นำภา ที่บอกว่า “ชนชั้นนำไทยไม่ได้กลัวรัฐธรรมนูญฉบับเพื่อไทยหรือก้าวไกลหรอก เขากลัวรัฐธรรมนูญฉบับของพวกเราที่ช่วยกันร่างจนเสร็จเมื่อปีที่แล้ว”

(https://twitter.com/careorth/status/1406532826904764428, https://www.prachachat.net/politics/news-693610 และ https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/944411KTo)