วันพฤหัสบดี, มิถุนายน 24, 2564

‘ดีเดย์’ อีกแระ 'วัคซีนพระราชทาน' หลังวัน ๘๙ ปีเปลี่ยนการปกครอง และโหวตแก้ 'สืบทอดอำนาจ'


เขาจะ ดีเดย์ฉีดวัคซีนอีกแล้วนะ หลังจากที่ ดี แค่วันเดียวไปเมื่อ ๗ มิถุนา พรุ่งนี้ ๒๕ มิ.ย. “ฉีดวัคซีนพระราชทาน ซิโนฟาร์ม” ประยุทธ์ไปทำพิธีเปิดให้เอิกเกริกเช่นกัน หวังว่าจะไม่เหลวเป๋วเหมือนเก่า โรงงานที่ ร.๙ ตั้งผลิตไม่ทัน แล้วมีคนโดนข้อหา ๑๑๒

คราวนั้น มาดามแป้งต้องออกมาแถลง เรารับจ้างผลิตให้บริษัทอังกฤษนะ คราวนี้วิทยาลัยจุฬาภรณ์ แค่เป็นนายหน้าจัดหาจัดซื้อตรงกับบริษัทจีนที่อนามัยโลกรับรอง แม้ประสิทธิภาพในการสู้กับไวรัสกลายพันธุ์ยังด้อย มิดีมิร้ายอย่างไรอย่าได้ฟ้องแก้เกี้ยวอีกล่ะ

เสร็จแล้วเรื่องเก่า โรงงานของพ่อก็ยังบ้อท่าเช่นเคย บอกว่าเดือนมิถุนานี่ส่งมอบ ๖ ล้านโด๊สเซส เมื่อวานซืน ๒๒ มิ.ย.ได้เพียง ๒ ล้าน ๑ แสนโด๊สเซส ธัชชัย ทนานนท์ ผู้ค้นข้อมูลบอกว่า “น่าจะรวมกับที่สั่งซื้อวัคซีนแอสตร้าจากเกาหลีมา ๕ แสนโดสด้วย”

ส่วนวัคซีนในฝันของชาวบ้าน ไฟ้เซอร์กับโมเดอร์น่า นั่นนับวันยิ่งห่างไกลความจริงออกไป องค์การเภสัชยอมรับแล้วไฟ้เซอร์จะมาได้ปลายปีโน่น แต่ก่อนยักท่าจะเอาพระราชทาน เปลี่ยนใจไปสั่งซื้อช้าต้องรอตามคิวน่ะสิ โมเดอร์น่ายิ่งหนักเข้าไปอีก

องค์การเภสัชฯ ชี้แจงแล้ว “ขณะนี้อยู่ระหว่างร่างสัญญา คาดว่าจะเริ่มทำสัญญากันในเดือนสิงหาคม” โน่นละ แล้วของจะมาได้เมื่อไรอีกเรื่อง ครั้นนักเล่าข่าว สรยุทธ สุทัศนะจินดา เอาไปบ่นทางโซเชียลว่าล่าช้า ทั่นรองฯ ฝ่ายสาธารณสุขก็เอาเชียวร้อนตัว

“การที่ อภ.เป็นตัวกลางเราไปเร่งอะไรไม่ได้” อนุทิน ชาญวีรกูล พูดคล้ายกรณีไฟ้เซอร์ อ้างง่ายๆ เราไม่ใช่ผู้ผลิต ไม่มีสิทธิเร่ง ความผิดของตนเองที่สั่งช้าไม่ยักพูดบ้าง ส่วน ซิโนแว็คซึ่งประชาชนบ่นมากนั้น “เราเป็นลูกค้าที่ดี” สั่งปุ๊บส่งปั๊บทันที

แต่ชาวบ้านคิดอีกอย่างนะ วัคซีนชนิดนั้นหลายประเทศไม่เอาแล้วเพราะคุณภาพห่วย แถมเมืองไทยซื้อได้ในราคาแพงกว่ายี่ห้อไหนๆ จะขนซื้อมาทำไมอีก ๒๘ ล้านโด๊สเซส แล้วเวลาฉีดต้องเพิ่มบู๊สเตอร์ โด๊สที่สามด้วย แพงขึ้นไปอีก

ขณะที่สถานภาพของการระบาดระลอกนี้พุ่งจี๋ทุกวัน ขนาด “แพทย์และบุคลากรการแพทย์โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ที่ฉีดวัคซีน sinovac ครบ ๒ โด๊สเซสแล้ว ติดเชื้อโควิดเพิ่มจากเมื่อวานที่ติด ๓๙ คน เพิ่มเป็น ๕๖ คน”

หัวหน้าสาขาโรคระบบหายใจของศิริราช นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล ยังบอกไม่ไหวแล้ว การระบาดซึมลึกเข้าถึงในครอบครัวและชุมชน “มีสัดส่วนผู้ป่วยเด็กมากขึ้นกว่าระลอกก่อนๆ” เสนอให้ “ล็อคดาวน์กรุงเทพอย่างน้อย ๗ วัน เพื่อเร่งจัดการปัญหาค้างคา”

และต้องลดปัญหาใหม่ที่จะพอกพูนเพิ่มขึ้นในสัปดาห์หน้า ด้วยการเตรียมใช้มาตรการ “ห้ามไม่ให้คนกรุงเทพแตกรังออกต่างจังหวัดเหมือนที่เราทำพลาดมาแล้วช่วงสงกรานต์” ซึ่งในวิธีการคิดอย่าง ตู่ คงไม่เอาหละ เพราะรู้ตัวดีว่าทำไม่ได้แน่

จะปิดเมืองทั้งหมดอย่างนั้นธุรกิจสะดวกซื้อจบสิ เปิด ๒๔ ชั่วโมงไม่ได้ ถ้าเป็นปิดกั้นม็อบว่าไปอย่าง เช่นก่อนย่ำรุ่งวันนี้ ตู้คอนเทนเนอร์ตั้งซ้อนเรียงรายเป็นกำแพงมหึมา เต็มบริเวณท้องสนามหลวงเพื่อรับมือคณะราษฎรจัดชุมนุมรำลึกวันเปลี่ยนการปกครอง

“ครบรอบ ๘๙ ปี การเปลี่ยนรูปแบบประเทศจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ไปเป็นราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ และเปลี่ยนรูปแบบการปกครองไปเป็นระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภา โดยคณะราษฎร” พร้อมไปกับการอภิปราย ครื้นเครงในสภาเกียกกาย

อันเป็นการพิจารณารอบสองของ ๑๓ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก่อนจะมีการลงมติในคืนนี้ ที่พวก สว.ตู่ตั้งค้านดะ เนื่องจากมีบทสำคัญให้ปิดสวิตซ์อำนาจฉ้อฉลของพวกสืบทอดรัฐประหาร ๒๕๐ คน ซึ่งถูกตั้งขึ้นมาเป็นคะแนนเสียงสนับสนุนหัวหน้า คสช.


ความครื้นเครงที่ว่าบังเกิดชนิดประธานฯ พรเพชร วิชิตชลชัย ยังอดขำไม่ได้ หลังจากที่ สว.(อะ) กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ ลุกขึ้นอภิปรายโต้ตอบ ด้วยถ้อยคำหยามหมิ่นต่อ ส.ส.พรรคก้าวไกลที่เรียกร้องให้โหวตปิดสวิตซ์ อำนาจวุฒิสภา

กิตติศักดิ์ คงคิดว่าตนมีสำบัดสำนวนสุดเจ๋ง เอ่ยถึง รังสิมันต์ โรม ว่าเป็น ส.ส.ปัดเศษแต่แล้วกลับโดน วิโรจน์ ลักขณาอดิสร เพื่อนพ้องของ ส.ส.รังสิมันต์ ย้อน ให้ว่า “ทั่นกำลังดูถูกคุณไพบูลย์ นิติตะวัน” อยู่นะครับ

(https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_2790703, https://www.facebook.com/Prachatai/posts/10158446685101699 และhttps://matichon.co.th/politics/news_2792714)