วันเสาร์, มิถุนายน 26, 2564

ถีงเวลาแล้วหรือยัง ในภาวะการบริหารจัดการโควิดที่ห่วยแตกของรัฐ แพทย์หรือนักวิทยาศาสตร์จะรวมตัวกันจริงๆ เสนอทางออกอย่างเป็นระบบ คล้ายๆ องกรณ์ Independent SAGE ในอังกฤษ

Independent SAGE is a group of scientists who are working together to provide independent scientific advice to the UK government and public

Sarinee Achavanuntakul - สฤณี อาชวานันทกุล
9h ·

จริงๆ คิดมาหลายปีแล้วว่า นักวิทยาศาสตร์และแพทย์ในเมืองไทยควรจะรวมตัวกันตั้งองค์กรอย่าง Union of Concerned Scientists (UCS) ในอเมริกา หรือ Independent Sage ในอังกฤษ (กลุ่มหลังนี้เพิ่งตั้งช่วงโควิด-19 ด้วย) เพื่อสื่อสารประเด็นวิทยาศาสตร์ที่มีผลกระทบต่อสังคม เพราะนักวิทยาศาสตร์และแพทย์ที่มีจิตสาธารณะหลายคนสุ่มเสี่ยงจะถูก "เล่นงาน" ถ้าออกมาวิพากษ์วิจารณ์ผู้มีอำนาจ (โดยเฉพาะในยุคอำนาจนิยมอย่างทุกวันนี้) เพราะอยู่กันกระจัดกระจาย ถ้ารวมตัวกันแล้วพูดในนามองค์กรจะปลอดภัยกว่า -- ไว้จะเขียนถึงบทบาทและความสำคัญของ UCS และ Sage ในคอลัมน์นะคะ แต่ระหว่างนี้ ถ้ามีแพทย์หรือนักวิทยาศาสตร์คนไหนสนใจจะรวมตัวกันจริงๆ ยินดีช่วยคิดเท่าที่ทำได้

Manop Pithukpakorn
23h ·

“เวลาเห็นหมอออกมาแสดงความคิดเห็นเรื่องการบริหารจัดการวัคซีนที่ผิดพลาด รู้สึกเป็นห่วงทุกครั้ง
ที่รู้สึกเป็นห่วง เพราะอยู่ไทยมานานจนเข้าใจวัฒนธรรมไทยดีว่า การออกมาวิพากษ์วิจารณ์ไม่มีผลดีกับตัวเอง แต่สามารถส่งผลเสียได้หลายทาง
ผลเสียอาจเป็นเรื่องของความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน การโดนตำหนิจากองค์กร
นอกจากผลเสียในด้านการงาน ยังมีผลเสียอื่น เช่น คนอื่นอาจมองว่าเป็นคนคิดลบ ชอบตำหนิ ชอบจับผิดคนอื่น
ผมเห็นบางคนแชร์ธรรมะทำนองว่า ช่วยทำไม่ได้ก็ให้กำลังใจ ช่วยให้กำลังใจไม่ได้ก็ให้เงียบ คนที่เชื่อแบบนี้อาจจะมองว่า คนที่ออกมาแสดงความคิดเห็นนอกจากไม่ช่วยทำแล้ว ยังบั่นทอนคนอื่นอีก
ส่วนตัวผมเอง เคยคิดจะวิจารณ์หนังสือที่เขียนหรือแปลผิดๆ
ที่คิดอยากจะทำแบบนี้ เพราะคิดว่า ถ้ามีคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ หนังสือที่เขียนหรือแปลผิดๆ จะขายได้น้อยลง คนขายก็จะต้องปรับปรุงคุณภาพให้ดีขึ้น นอกจากนั้น คนอ่านก็จะสามารถแยกแยะได้มากขึ้น
ถ้ามีคนวิจารณ์มากพอ สุดท้าย คุณภาพหนังสือในประเทศจะดีขึ้น ความรู้คนในประเทศก็จะดีขึ้นตามมา ซึ่งนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในสังคมที่พัฒนาแล้ว
แต่พอผมคิดกลับไปกลับมา ทำไปตัวเองไม่มีผลดี ผมก็ไม่ได้อ่านหนังสือไทยมากอยู่แล้ว จะเขียนจะแปลผิดๆ ถูกๆ ผมก็ไม่กระทบ
แต่ผมอาจจะถูกมองว่า เป็นคนชอบจับผิด ชอบตำหนิคนอื่น ไม่ธรรมะ ไม่ให้กำลังใจ แต่บั่นทอนคนอื่น
ผมคิดว่า การที่บอกว่า ช่วยทำได้ให้ช่วยทำ ช่วยทำไม่ได้ ให้ช่วยให้กำลังใจ ช่วยให้กำลังใจไม่ได้ ให้นิ่งเฉย ใช้กับบริบทที่คนทำตั้งใจดีและพยายามทำอย่างดีที่สุดแล้ว
แต่ในกรณีของคนที่ตั้งใจไม่ดี หรือไม่ตั้งใจทำ การไม่มีคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ นอกจากจะเป็นการเปิดทางให้คนเหล่านี้ทำสิ่งไม่ดีได้อย่างสะดวกแล้ว ยังเป็นเสมือนการสนับสนุนให้คนเหล่านี้คิดทำสิ่งไม่ดีอีกในอนาคต
ที่สำคัญ ทั้งหมดนี้จะบั่นทอนกำลังใจของคนที่ตั้งใจดี ตั้งใจทำ แถมยังเป็นการสร้างตัวอย่างขึ้นมาในสังคมว่า ความสำเร็จ เงิน อำนาจ อยากได้ ใช้วิธีไหนก็ได้
แล้วตัวอย่างเหล่านี้ก็จะส่งต่อถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน กลายเป็นวัฒนธรรม
เป็นวัฒนธรรมของสังคมที่ลูกหลานเราต้องอยู่
บางคนบอกว่า เราไม่ต้องไปวิจารณ์หรอก คนทำสิ่งไม่ดีจะไม่สบายใจ จะร้อนใจ สำหรับคนที่คิดแบบนี้ ผมขอให้ไปศึกษาเรื่อง cognitive dissonance หรือดูตัวอย่างที่เกิดขึ้นจริง แล้วลองคิดทบทวนอีกที
บางคนบอกว่า เราไม่ต้องทำอะไร ปล่อยให้เวรกรรมจัดการ ก็แล้วแต่ครับ
ส่วนตัวผมเชื่อว่า มีคนจำนวนหนึ่ง เวลาเห็นสิ่งไม่ถูกต้อง ถ้าไม่ทำอะไร จะรู้สึกผิด รู้สึกว่าตัวเองนิ่งเฉย
ท้ายที่สุด ผมขอเป็นกำลังใจให้คุณหมอทุกท่านที่ออกมาแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาตามข้อมูลและหลักวิชาการ ทั้งๆ ที่อาจจะเกิดผลเสียกับตัวเอง
สำหรับผม ท่านคือตัวอย่างที่ดีในสังคม
ผมเชื่อว่า นอกจากข้อมูลที่ท่านให้แล้ว ท่านยังมีส่วนช่วยกระตุ้นคนอื่นให้มีความกล้า ให้มีจุดยืน ให้คิดถึงความถูกต้อง ไม่ใช่คิดถึงแต่ประโยชน์ของตัวเองเพียงอย่างเดียว
ในสังคมที่แห้งผาก ในสังคมที่คนจำนวนมากเลือกที่จะนิ่งเฉย ถ้าผมจะบอกว่า ท่านคือวีรบุรุษ ก็ไม่น่าจะเป็นการกล่าวเกินจริงไปนัก
ขอเป็นกำลังใจให้คุณหมอทุกท่านที่มีความกล้า
ขอบคุณมากครับ” - แชร์มาจากโพสต์พี่เวบ พรชัยครับ