Yingcheep Atchanont
5h ·
วันที่ 7 เมษายน ผมได้เข้าไปในห้องพิจารณาคดี 704 ในฐานะทนายความของแอมมี่
ทนายผู้ใหญ่ไปคุยกับศาลใต้บัลลังก์ คุยอยู่นานเลยผมไม่ได้ยิน จนศาลบอกให้เอาแม่อานนท์ กับแม่ไมค์เข้ามาได้ แค่สองแม่ก่อน ผมเดินออกไปหาแม่ๆ ที่นั่งอยู่กับพื้นหน้าลิฟท์ บอกให้แม่พี่อานนท์เข้ามา แล้วมีคนบอกว่าแม่ไมค์อยู่ข้างล่างจะโทร.ตามให้ แม่กวิ้นที่ใส่เสื้อดำสกรีนเป็นรูปเพนกวิ้นชะเง้อตามองบอกว่า "แม่กวิ้นล่ะคะ?" ส่วนแม่แอมมี่ยืนอยู่ใกล้ๆ ทำหน้าไม่เข้าใจ ผมบอกแค่ว่า ไม่รู้อะไรเลย
แม่พี่อานนท์ไปยืนคุยกับศาลแสนนาน ก่อนที่จะไปนั่งคุยกับพี่อานนท์ ศาลว่า บอกให้เวลาคุย 10 นาทีแล้วให้ออก สักพักแม่ไมค์เดินขึ้นมาผมบอกให้แม่ไมค์ไปคุยกับศาล คุยแปบเดียวแล้วแม่ไมค์เดินมานั่งข้างๆ ไมค์ นี่น่าจะเป็นวันแรกที่เขาได้นั่งข้างกันนับตั้งแต่ 8 มีนาคม
รู้อยู่แล้วว่า ศาลบอกแม่ๆ ให้มีเวลา 10 นาทีไปคุยกับลูกให้ "ยอม" รับเงื่อนไข ซึ่งไผ่กับพี่สมยศ รับเงื่อนไขไปก่อนแล้ว ผมเห็นไมค์กับแม่จับมือกันแน่น สองคนกระซิบกระซาบคุยกัน มีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นั่งประกอบสองฝั่ง ไมค์ทำท่าเหมือนจะร้องไห้ ผมอยากคุยด้วย หรืออยากฟังด้วย แต่ราชทัณฑ์ไม่ให้คุย ผมดันเสร่อเดาไปเองว่า คนเป็นแม่ต้องอยากให้ลูกได้ออก เลยเดินเฉียดไปแล้วพยักหน้าให้ไมค์ทีนึง บอกไมค์ว่า "เอาๆ" หวังจะให้เขามั่นใจถ้าจะต้องตัดสินใจรับเงื่อนไข
สักพักหมดเวลา แม่เดินออกจากห้องไป
ไมค์ยกมือเรียกขอคุยกับผม ผมเดินไปนั่งย่อๆ ลงข้างๆ โดยราชทัณฑ์พยายามจะฟังอยู่ ไมค์บอกว่า "ผมรับไม่ได้หรอก ผมทิ้งมวลชนไม่ได้ ถ้าเขาอยากขังผมก็ให้ขังไป ไม่ใช่ให้เราเป็นฝ่ายถอย...ถูกมั๊ยพี่??"
แววตาไมค์มุ่งมั่นมาก แต่สีหน้ายังยิ้มแย้ม ไม่มีความเศร้าสร้อยหลงเหลือ เขารู้แล้วว่าข้างหน้าต้องเจอกับอะไร สงสัยมากว่า แม่ไมค์ที่เพิ่งมีเวลาคุยกับลูกแค่สิบนาที แล้วได้รับรู้ว่าลูกยืนยันจะไม่ออกจากคุก และไม่ยอม เมื่อแม่ต้องเดินออกไปข้างนอกคนเดียว คนเป็นแม่จะรู้สึกอะไร จะแบกรับอะไรไว้บนบ่ากับในอกบ้าง
ผมบอกไมค์แค่ว่า "ดีๆ นับถือๆ"
ผมไม่ได้สนิทอะไรกับไมค์มาก่อนเลย เคยคุยกันแค่ 2-3 ครั้ง
นาทีนั้นยกให้หมดใจ กับน้องคนนี้ที่เพิ่งเปิดหน้ามาเคลื่อนไหวไม่ถึงปี
รู้สึกตัวเองเสร่อมากที่คิดไปเองว่าพวกเขาจะรับ
ผมคงไม่ได้เจอพวกเขาในห้องพิจารณาอีกแล้ว ไม่ว่าใครก็ตามที่เป็นจำเลยที่ถูกคุมขัง เพราะพวกเขาไม่ต้องการทนายความ และศาลก็มีทีท่าแต่จะไม่ให้คนอื่นเข้าไปได้เลย
วันนี้แค่อยากยืนยันว่า ในช่วงไม่กี่นาทีที่บีบหัวใจนั้น "ไมค์คิดถูก"
.....
The Reporters
6h ·
UPDATE: ศาลอาญาแจง ศูนย์ทนายความ เสนอข่าวกระบวนการพิจารณาคดีคลาดเคลื่อน
ศาลอาญา ออกเอกสารแจงข้อเท็จจริง หลังศูนย์ทนายความฯ นำเสนอข่าวกระบวนพิจารณาคดี ว่ามีความคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง โดยชี้แจงข้อเท็จจริงว่า
1.คดีอาญาหมายเลขดำที่ อ 287/2564 ระหว่าง พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด โจทก์และนายพริษฐ์หรือเพนกวิน ชีวารักษ์ กับพวกรวม ๒๒ คน ศาลได้อนุญาตให้ญาติของจำเลย มวลชน ประชาชน ผู้แทนสถานทูตและองค์กรต่าง ๆ และสื่อมวลชนเข้าฟังการพิจารณาคดีดังกล่าวอย่างเต็มที่
แต่เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2564 เกิดเหตุการณ์ที่จำเลยและมวลชนบางคนถือโอกาสทำให้เกิดความวุ่นวาย เช่น ยืนแถลงการณ์ และขว้างปาสิ่งของในห้องพิจารณโดยไม่สนใจกฎระเบียบ อันเป็นการขัดขวางกระบวนการพิจารณาและประพฤติตนไม่เรียบร้อย
ทั้งมีบุคคลแอบถ่ายภาพในห้องพิจารณาและนำไปเผยแพร่ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ทำให้การพิจารณาคดีวันที่ 29 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา จำเป็นต้องคัดกรองผู้ที่จะเข้าไปในห้องพิจารณาเพื่อมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นอีก รวมถึงเคร่งครัดในเรื่องเครื่องมือสื่อสารทุกชนิดโดยให้ปิดการใช้งานและฝากไว้ตามจุดที่กำหนด แต่ได้อนุญาตให้ญาติของจำเลยที่ไม่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเข้าฟังในห้องพิจารณาคดีได้
2.ต่อมาเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) อย่างรุนแรงอีกครั้ง วันที่ 7 และ 8 เมษายน 2564 จึงจำเป็นต้องกำหนดจำนวนคนที่จะเข้าไปในห้องพิจารณาคดี โดยให้เฉพาะบุคคลที่จำเป็นเกี่ยวข้องในคดีเท่านั้น ได้แก่ จำเลยทั้งหมด 22 คน พนักงานอัยการ ทีมทนายความจำเลย และตัวแทนสถานทูตต่าง ๆ มีจำนวนเกือบ 50 คน นอกจากนั้นให้อยู่ในดุลพินิจของศาล เพื่อให้สามารถเว้นระยะห่างระหว่างกันได้ (Social Distancing และลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19)
3.ศาลได้จัดสถานที่ให้ญาติและผู้ที่จะเข้าฟังการพิจารณาเข้าไปรับฟังการถ่ายทอดภาพและเสียงด้วยระบบประชุมทางไกลทางจอภาพที่ห้องพิจารณาอีกห้องหนึ่งเพื่อให้ได้รับฟังการพิจารณาเช่นเดียวกับห้องพิจารณา
4.ศาลได้อนุญาตให้ญาติ มวลชน ผู้แทนสถานทูตต่าง ๆ และสื่อมวลชนเข้ารับฟังการพิจารณาได้ตลอดมา ให้สิทธิจำเลยที่จะพบทนายความและพูดคุยกับทนายความอย่างเต็มที่ และอนุญาตให้จำเลยพูดคุยกับบิดามารดาและญาติได้ หากขัดข้องอย่างไรแจ้งผู้พิพากษาได้ ซึ่งศาลอาญาถือว่าเป็นสิทธิที่สำคัญของฝ่ายจำเลยเสมอมาในทุกกรณี ไม่เคยเพิกเฉยตามที่มีการนำเสนอข่าวแต่อย่างใด
#TheReporters #เดอะรีพอร์ตเตอร์ #ศาลอาญา
.....
เห็นคำแถลงของศาลที่โต้ศูนย์ทนาย ที่บอกศาลเปิดให้เข้าฟังได้เต็มที่ ไม่ได้กีดขวาง ทูตก็ยังไปฟังกันหลายสิบคน ให้ปรึกษาทนายได้ตลอด แล้วเห็นว่าไงครับ
..
ได้เฉพาะวันแรกที่ออกศาลค่ะ วันต่อมาองค์กรสิทธิฯ ยังไม่ได้เข้า บิดเบือนข้อเท็จจริง น่ารังเกียจมาก
..
"มัน" ไม่ได้ออกมามั่วๆหรอกพี่ แต่ "มัน" ไม่แคร์ไม่สนใจ
กูจะโกหกตอแหลแล้วจะทำไม พวกมึงมีปัญญาทำอะไรกูได้
ไม่เคยคิดเลยว่าในชีวิตจะได้เห็นได้อยู่เป็นพยานกับสภาพสัวคมที่เหลือเชื่อ
..
นั่นสิ งงมากกว่าศาลอาญา ออกเพรสรีลีสมั่วๆซั่วๆแบบนี้มาได้ไง
..
ออกข่าวให้สลิ่มอ่าน แล้วสลิ่มก็จะเข้าใจว่าฝั่งเราโกหกสร้างเรื่อง
..
ความเห็นจากโพสต์