วันศุกร์, เมษายน 30, 2564

เสียงจาก แพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่ รพ.



Boonchoun Muelad

เรียนท่าน นายกรัฐมนตรีลุงตู่ คะ
_เรียนท่าน รมว อนุทิน คะ
_เบี้ยเลี้ยง เสี่ยงภัย. ของแพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่ รพ.
_มีเหมือน ตำรวจ ทหารชายแดน ไหมคะ ถ้ามีงบประมาณ.กรุณา จัดให้ แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ รพ ด้วยคะ(กำลังใจได้แล้วค่ะขาดเงิน)
_เสี่ยงตาย เหมือนออกรบชายแดนเช่นกันนะคะ น่าสงสาร คะ. ขอบคุณมากค่ะ

นพดล มุเส็มสะเดา
ต้องมีและต้องได้อย่างด่วนเลย และต้องมากด้วย ไม่มีพวกคุณแล้วใครจะทำงานนี้ .

ดนุพล คงสวัสดิ์
จริงครับแถมควรจะต้องเพิ่มเบี้ยเสี่ยงภัย พร้อมค่าล่วงเวลาให้กับบุคลากรทางสาธารณสุขทุกฝ่ายทุกคนอย่างเร่งด่วน

Khunuch Viriyanivit
ต้องให้ครับทั้งเบี้ยเลี้ยง เบี้ยเสี่ยงภัยสำหรับบุคคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานจริงจริง อย่าเกมือนจนท สามจังหวัดชายแดนใต้ที่บางคนมีแต่ชื่อ แต่ตัวไม่ได้ทำงาน
.....
นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ
April 27 at 7:39 PM ·

ฟาวิพิราเวียร์ ยาโควิดที่จะล้มรัฐบาลประยุทธ์ได้
ยาฟาวิพิราเวียร์ เป็นยาสำคัญที่ใช้รักษาโรคโควิด วันนี้เช้ายาตัวนี้ขาดแคลนอย่างหนัก น้องแพทย์ที่โรงพยาบาลได้ขอเบิกยานี้เพื่อใช้กับผู้ป่วยที่จะนะ ทราบว่า ที่คลังโรงพยาบาลหาดใหญ่ที่เป็นจุดสำรองยาของจังหวัดสงขลาเหลือเพียง 150 เม็ด ดีที่รัฐบาลสั่งยามาจากญี่ปุ่นทันเวลา 2 ล้านเม็ด
เล่นเอาใจหายใจคว่ำ ซึ่งเชื่อว่า หากอัตราการใช้เป็นเช่นปัจจุบัน 2 ล้านเม็ดนี้ก็ใช้ได้ไม่เกิน 3 เดือน
ยาฟาวิพิราเวียร์ ในผู้ป่วยโควิด 1 คน จะต้องใช้คนละ 50 เม็ด คือวันแรกทาน 9 เม็ด ทุก 12 ชั่วโมง และอีก 4 วันถัดมาทาน 4 เม็ดทุก 12 ชั่วโมง ดังนั้นยา 2 ล้านเม็ดก็จะใช้ได้กับผู้ป่วย 40,000 คนเท่านั้น ไม่ได้มากมายในสถานการณ์การระบาดเช่นนี้
ประเด็นของยาฟาวิพิราเวียร์ที่อาจเป็นเหตุให้รัฐบาลสะดุดขาตนเองจนรัฐบาลล้มได้ก็คือ เรื่อง การผูกขาดยาจากการขอจดสิทธิบัตรยาของบริษัทเจ้าของยาจากประเทศญี่ปุ่น
บริษัทญี่ปุ่นเป็นผู้ผลิตยาตัวนี้ ยานี้ไม่มีสิทธิบัตรยาตั้งต้นในประเทศไทย แต่บริษัทมายื่นขอจดสิทธิบัตรรูปแบบเม็ดเล็กของยาฟาวิพิราเวียร์ต่อกรมทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งคำขอสิทธิบัตรลักษณะนี้ ไม่มีทั้งความใหม่และนวัตกรรมที่สูงขึ้น จึงไม่สมควรได้รับสิทธิบัตร แต่กรมทรัพย์สินทางปัญญาก็ยึกยักไม่ยอมปฏิเสธคำขอนี้ไปเสียที ทั้งที่ภาควิชาการได้เคยไปยื่นข้อมูล ระบุเหตุที่ควรปฏิเสธตั้งแต่เดือนมกราคม 2564 แล้ว
อีกทั้งองค์การเภสัชกรรมมีความพร้อมในการผลิตได้ยื่นขอขึ้นทะเบียนยาเบื้องต้นกับสำนักงานคณะกรรมอาหารและยา (อย.) ไปแล้วด้วย รัฐบาลควรประกาศสนับสนุนองค์การเภสัชกรรมให้เร่งผลิตยาตัวนี้อย่างเป็นทางการ หากกรมทรัพย์สินทางปัญญาไม่ปฏิเสธคำขอนี้ โอกาสที่จะถูกฟ้องในอนาคตก็มี ฉะนั้นรัฐบาลจึงควรแสดงความกล้าหาญทางการเมืองหนุนหลังองค์การเภสัชกรรมผลิตยาเพื่อประชาชน และควรมีนโยบายชัดเจนไปที่กรมทรัพย์สินทางปัญญาให้ทำหน้าที่เพื่อช่วยสู้ภัยโควิด ปฏิเสธคำขอสิทธิบัตรยาฟาวิพิราเวียร์เสีย
ราคายาฟาวิพิราเวียร์ ปัจจุบันราคาเม็ดละ 150 บาท ต้องใช้ 50 เม็ดต่อคนก็คิดเป็นค่ายาคนละ 7,500 บาท หากองค์การเภสัชกรรมผลิตเองได้ ค่ายาก็จะลดลงได้ครึ่งหนึ่ง ทั้งประหยัดงบประมาณ และเรามีความมั่นคงทางยา ไม่ดีตรงไหน
ภาวะการขาดแคลนยาฟาวิพิราเวียร์ในสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น เส้นยาแดงผ่าแปดมากๆ สถานการณ์โควิดก็จะยังหลอกหลอนประเทศไทยไปอีกถึงปีหน้า การออกประกาศสนับสนุนให้องค์การเภสัชกรรมเป็นผู้ผลิตยาฟาวิพิราเวียร์อย่างเป็นทางการ คือคำตอบที่ใช่ ซึ่งไม่ยาก เพราะรัฐบาลได้รวบโอนอำนาจจากกระทรวงต่างๆมาไว้ที่นายกรัฐมนตรีหมดแล้ว จึงต้องการความกล้าหาญทางการเมืองนิดหน่อยจากนายกรัฐมนตรีเท่านั้นเอง
หากอนาคตมีการระบาดหนักจนยาขาดแคลน คนป่วยตายเพราะไม่มียารักษา คงไม่ใช่แค่หมอไม่ทน แต่คนไทยคงไม่ทนด้วย รัฐบาลจะล่มเพราะโควิดอย่างแน่นอน
Cr. เพจ ชมรมแพทย์ชนบท
...
Law Inspiration
April 27 at 10:00 PM ·

เรื่องนี้น่าสนใจ เดี๋ยวมีเวลา ต้องไปหาข้อมูลจากกรมทรัพย์สินทางปัญญาว่าจริงหรือไม่เรื่องการขอสิทธิบัตร
===========
ไปแอบถามมาละ สรุปประมาณนี้
1) ยาฟาวิพิราเวียร์ สิทธิบัตรหมดแล้วจริง
2) ที่บริษัทญี่ปุ่นได้ไป คือ การทำยาให้เม็ดเล็กลง ทำให้ทานง่ายขึ้น ซึ่งเป็นการประดิษฐ์ที่สูงขึ้น และประเทศอื่น ๆ ยกเว้นอินเดีย ก็ให้สิทธิบัตรตัวนี้ทั้งนั้น
3) กรมทรัพย์สินทางปัญญาแนะนำไปแล้วว่าจะผลิตยาฟาวิพิราเวียร์แบบเดิมทำได้ ไม่ละเมิดแต่อย่างใด แต่ที่ทำไม่ได้ คือ จะไปทำแบบเม็ดเล็กซึ่งละเมิดสิทธิบัตรเขา
@Harvey