วันจันทร์, เมษายน 26, 2564
เรื่องของพี่โทนี่ ผู้มาก่อนกาล ปากตรงกับใจ ไม่เปลี่ยนแปร
Atukkit Sawangsuk
April 23 at 8:48 PM ·
สมัยเป็นนายกฯ ทักษิณเคยพูดในงานเสวนาของศาล
ปากตรงกับใจ ไวไปหน่อย
ทำไมผู้พิพากษาเงินเดือนสูงกว่าหมอ
ทั้งที่คนเก่งๆ สอบเข้าหมอมากกว่าเข้านิติศาสตร์
จำคำพูดไม่แม่น แต่ทำนองนี้แหละ
พวกผู้พิพากษาแค้นโคตร
มาว่ากรูโง่กว่าหมอทำไมเงินเดือนสูงกว่า
(หลังรัฐประหารจึงไม่ใช่แค่ใบสั่ง)
:
ภาพลักษณ์ทักษิณในสายตาผู้พิพากษาตรงข้ามกับชวน
ผู้ประเคนเงินเดือนศาลปี 2543
+ทัศนะแบบขุนนางจารีต
เห็นชวนเป็นปูชนียบุคคลทางกฎหมาย
อบรมเสวนาของศาล ของเนฯ
ก็จะอัญเชิญไปปาฐกถาแทบทุกปี
ทั้งที่ชวนไม่ใช่คนตรงไปตรงมาทางกฎหมาย
เป็นแค่ทนายการเมืองที่อ้างหลักการเมื่อตัวเองได้ประโยชน์
:
แล้วที่ทักษิณพูดก็ถูกจริงๆ
แม้จะมีคนแย้งว่าหมอไปรับจ็อบ รพ.เอกชน หรือเปิดคลินิกได้ แต่หมอที่ไม่ทำก็เยอะไป
เงินเดือนคือค่าตอบแทนที่หมอต้องทำงานเต็มเวลาราชการ เลิกงานแล้วไปหาเงินเพิ่มก็เรื่องของเขา (อย่างน้อยหมอก็ไม่เอาเบี้ยประชุม)
เงินเดือนศาลแต่เดิมก็สูงนะ บวกค่าสันโดษสมถะไว้แล้ว แต่ปี 43 นั่นมันสูงจนทำลายโครงสร้างเงินเดือนราชการทั้งระบบ
:
ถ้าจะอ้างว่าคนละสายกัน สายวิทย์สายศิลป์
เมื่อก่อนนิติก็ไม่ใช่อันดับหนึ่ง
จนปรับเงินเดือน คะแนนสอบเข้าจึงสูงปรี๊ด
แล้วก็ทำให้เงินเดือนราชการสายกฎหมายสูงปรี๊ดตามกันหมด
อัยการ องค์กรอิสระ โหนเพดานเดียวกัน
กลายเป็นประเทศที่พวกหากินกับการตีความกฎหมายให้รัฐ ได้เงินเดือนสูงกว่าข้าราชการทั่วไป เป็นข้าราชการอภิสิทธิ์อีกชั้นหนึ่ง
:
(ติวเตอร์สอบเข้า ปปช. กกต. เปิดเต็มเมือง ไม่ใช่มีอุดมการณ์อยากปราบโกงหรืออยากเป็นประชาธิปไตยอะไรหรอก แค่เงินดี อาชีพมั่นคง มีอำนาจเอาผิดข้าราชการอื่น ทำงานปปช. ถ้าคบคนเป็น พาครอบครัวไปเที่ยวทะเลเดี๋ยวตำรวจบริการทุกระดับประทับใจ)
::
หน่วยงานอื่นก็อ้างสมองไหล นิติกรไม่เป็นอันทำการทำงาน เอาแต่ดูหนังสือสอบผู้พิพากษา ต้องมีเงินเพิ่มให้
ทั้งที่ก็ไม่ทำการทำงานเอาแต่หวังสอบได้อยู่นั่นแหละ พออายุ 35 หมดสิทธิก็หมดอาลัยตายอยาก
...
โพสต์ข้างล่างหลายปีแลัว
Thaksin Shinawatra
April 22, 2016 ·
ทุกวันนี้ผมเงียบมาตลอด ตั้งใจที่จะไม่ออกความคิดเห็นในเรื่องใดๆ และอยากให้ทุกฝ่ายตั้งใจแก้ไขปัญหาให้ประชาชน แต่อยู่ดีๆ ผมกลับถูกพาดพิงอย่างรุนแรง จนต้องเสียความตั้งใจ เลยต้องขอพูดสักครั้ง
การแก้ปัญหาของประเทศ ภายใต้รัฐบาลทหารของไทยในขณะนี้ มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นก็โทษคนอื่น โดยตนเองไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย ไม่เคยทำอะไรผิด ตัวเองดีทุกอย่าง เช่นน้ำแล้งก็บอกว่า เป็นเพราะรัฐบาลก่อน ราคาพืชผลเกษตรตกต่ำ ขายไม่ออกอย่างยางพารา ก็บอกให้ไปขายดาวอังคาร บริหารประเทศแบบนี้ใครๆ ก็เป็นได้ครับ นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย
รัฐบาลนี้ได้อำนาจมาจากการรัฐประหาร ได้เข้ามาปกครองประเทศแล้วร่วม 2 ปี ได้ทำประโยชน์อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ให้ชาวโลกเขาได้เห็นบ้าง ภาพลักษณ์ที่เผยแพร่ออกไป มีแต่การใช้อำนาจในการละเมิดสิทธิประชาชน และกฎหมายสากลอย่างไม่เคยเกิดในประเทศไทยมาก่อน เมื่อนานาอารยประเทศ และองค์กรสากลต่างๆ เขาเห็นว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องเขาก็ออกมาเตือน เป็นเรื่องปกติทั่วไป ที่เกิดขึ้นในประเทศที่ผู้นำฯ ใช้อำนาจในทางที่ไม่ถูกต้อง
เมื่อผู้นำของประเทศเราไม่สนใจคำเตือน ประเทศอื่นเขาย่อมใช้มาตรการที่รุนแรงขึ้นครับ ไม่ว่าจะเป็นการระงับการค้าการลงทุน มาตรการปิดกั้นและกีดกันต่างๆ รวมถึงการย้ายถิ่นฐานการผลิตไปยังประเทศที่ 3 กระบวนการเหล่านี้ จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างรุนแรง และโมเมนตัมนี้จะส่งผลกระทบต่อเนื่องไปอีกนานหลายปี..
แต่..แทนที่ผู้นำเราจะยอมรับความผิด แก้ไขปัญหาเหล่านั้น และทำให้มันถูกต้องเสีย กลับออกมาโทษว่า เป็นเพราะผมไปจ้างล็อบบี้ยิสต์ เพื่อล็อบบี้ประเทศต่างๆ ให้แอนตี้ บอยคอตประเทศไทย โถ..ช่างคิดไปได้
อยากจะบอกว่า ผมไม่จำเป็นต้องไปจ้างใคร ให้เสียเงินเสียทอง เพื่อประจานนายกฯ ไทย ให้เสียภาพลักษณ์ประเทศหรอกครับ ประวัติศาสตร์มีให้เห็นอยู่เสมอว่า เผด็จการฯที่ลุแก่อำนาจ ด่ากราดคนที่พูดจาไม่ถูกใจ ดูถูกคนยากจนว่าโง่ ใช้อำนาจเกินขอบเขต และปกครองประเทศโดยไม่เห็นหัวประชาชนนั้น ล้วนแล้วแต่แพ้ภัยตัวเองทั้งนั้น
อยากจะเป็นผู้นำประเทศ ถ้าอารมณ์ของตัวเองยังควบคุมไม่ได้ ใช้อารมณ์ด่ากราดผู้คนเพื่อเอาชนะ ตะคอกใส่นักข่าวให้เขาสงบปากสงบคำ และเขียนข่าวให้ถูกใจตน ทำแบบนี้บอกเลย อย่าหวังว่าจะทำให้คนส่วนใหญ่ของประเทศคล้อยตาม
ถ้าอยากรู้ว่าตัวเองแย่แค่ไหน ลองเอาเทปที่คุณพูดทุกวันมาฟังย้อนหลังดูซิครับ แล้วคุณจะรู้ว่า
"ไม่มีล็อบบี้ยิสต์ในโลกคนไหนที่จะมีความสามารถทำลายคุณได้ เท่ากับคุณทำลายตัวคุณเอง"
เพราะฉะนั้น เมื่อคุณมั่นใจว่าเป็นคนดี ก็จงก้มหน้าก้มตาเป็นคนชอบแก้ไขไปเถอะ อย่าทำตัวเหมือนที่ผ่านมาเลย