วันจันทร์, เมษายน 26, 2564

ดนตรีมันไม่ควรเป็นอาวุธ จริงเหรอ ?



โสตศึกษา
22h ·

ดนตรีมันไม่ควรเป็นอาวุธ จริงเหรอ ?
ก่อนจะมาเขียนอะไรหล่อๆ เขาพอจะรู้มั้ยว่าดนตรีบลูส์ มันคือดนตรีที่กลั่นมาจากความคับแค้นของคนผิวสีสมัยที่ยังถูกจองจำเป็นทาส
ดนตรีโฟล์คมาจากความยากแค้นของความไม่เท่าเทียมของประชาชน
ดนตรีร็อค ดนตรีพังค์ มาจากความเกรี้ยวกราดที่มาจากความอยุติธรรมของสังคม
ดนตรีแร็พมาจากการถูกกดทับที่ภาครัฐมีต่อประชาชน
กระทั่งเพลงรักหลายๆเพลงเขายังแฝงความคิดเห็นทางการเมืองฉาบเคลือบความหวานเพื่อก่อเกิดพลัง เรียกร้องความเท่าเทียมจะด้วยเพศสภาพหรือการถูกเหยียดหยามกดทับคนที่อ่อนแอกว่าก็มีมาแล้ว
กว่าที่ดนตรีกระแสหลักที่เต็มไปด้วยเพลงรัก รากฐานของมันล้วนถือกำเนิดมาจากการเมืองแทบทั้งสิ้น นั่นเพราะอะไร เพราะเพลงคือบทบันทึกขนาดสั้นที่ทรงพลังพอที่จะปลุกประโลมใจให้คนที่เจ็บปวดในโลกแห่งความเป็นจริงอันมัวหมองให้พวกเขาได้สู้กันต่อ จะสู้ด้วยวิธีการใดก็ตาม แต่มันไม่ได้ทำหน้าที่แค่ผ้าเช็ดหน้าไว้ซับน้ำตาคนอกหัก หรือเป็นกำลังใจปลอมๆให้บุคลากรทางการแพทย์อย่างที่ศิลปินในประเทศนี้เข้าใจอย่างแน่นอน
เพลงที่ดีควรจะเป็นเกราะกันกระสุนให้คนที่ถูกกดขี่ เป็นตัวแทนให้ผู้ทุกข์ยากในยามวิกฤติ ไม่ใช่เพียงคำปลอบใจแห้งๆให้คนผิดหวังในความรักเท่านั้น มันควรเป็นบังเกอร์หรือที่พักใจให้ความเจ็บปวดจากชีวิตที่ปวดร้าวจากโครงสร้างอันเลวร้ายที่รัฐมีต่อประชาชน หรือตบไหล่เพื่อเป็นพลังสู้ต่อไปในวันข้างหน้าด้วย
การที่คุณจะเดินเล่นบนทุ่งลาเวนเดอร์มันไม่มีใครว่าเลย ถ้าไม่มีคนบริสุทธิ์ติดคุกเพียงเพราะเขาเรียกร้องความยุติธรรม ถ้าไม่มีคนตกทุกข์ได้ยากหรือตกงานจากการบริหารงานอันเลวร้าย เอาแค่เพื่อนร่วมอาชีพคุณที่ตกงานกันและมองเป็นจำเลยสังคมคุณยังข่มตานอนหลับไปได้อย่างไร รุ่นน้องคุณบางคนถึงขั้นต้องจำนำเครื่องดนตรีเพื่อเอาเงินมาซื้อข้าวกันแล้ว คุณยังมัวแต่มองโลกแค่ด้านสวยงามด้านเดียวได้ลงคออีกหรือ ไม่ต้องพูดถึงนักดนตรี เอาแค่เพื่อนศิลปินร่วมอาชีพที่รับไวรัสจากความหละหลวมของภาครัฐและเหล่าพริวิเลจ คุณรู้ไหมว่าปอดเขาไม่มีวันกลับไปเหมือนเดิมแล้ว
ดังนั้นคุณจะหากินกับเพลงรักของคุณก็ไม่เป็นไร จะแต่งเพลงให้เหล่านักรบชุดกาวน์ของคุณกี่ร้อยเพลงก็ไม่ว่า แต่อย่ามองการเมืองด้วยสายตาอันไร้เดียงสาแบบนี้ เพราะการเมืองมันอยู่ในทุกมิติของชีวิตและควรทำความเข้าใจด้วยว่าบทเพลงมันคืออาวุธที่ทรงพลานุภาพขึ้นอยู่กับคนที่จะใช้มัน แม้กระทั่งความเงียบหรือการนิ่งดูดายเห็นคนบาดเจ็บล้มตายต่อหน้าต่อตามันก็เป็นอาวุธที่ทิ่มแทงจิตใจได้ไม่ต่างกัน
ทุกวันนี้ไถหน้าจอแค่มีเรื่องจากรัฐบาลที่ทำกับประชาชนตาดำๆชีวิตก็เฮงซวยจนแทบจะทำงานทำการไม่ได้แล้ว การที่ต้องมานั่งผิดหวังซ้ำซากกับศิลปินที่เคยรักมาแสดงทัศนคติที่แย่มันก็เจ็บปวดพอๆกันนะ
ป.ล. คุณควรเขินนะ เพราะกระทั่งเพลง Baby Shark เขายังเอาไปทรมานนักโทษจนเจ้าหน้าที่เรือนจำถูกตั้งข้อหาว่าทารุณกรรมนักโทษเลย...เพลงเด็กน้อยแสนไร้เดียงสายังกลายเป็นอาวุธได้เลย