สองวันมานี่เห็นมีแต่ ‘social feeds’ ข่าวชาวบ้านเรื่องคนติดโควิด ป่วย หาเตียงโรงพยาบาลไม่ได้ ตาย เกลื่อนไปหมด มันบอกอะไร ถ้าไม่ใช่ความล้มเหลวไม่เป็นท่าของรัฐบาลประยุทธ์ พวกหมอลิ่วล้อไม่ต้องมาอ้างว่าด่าการเมือง ความจริงมันฟ้อง
๒๕ เมษา จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มทวีคูณจากวันละพันกว่า เป็นสองพันกว่า (วันนี้ ๒,๔๓๘ ราย เมื่อวาน ๒,๘๓๙ ราย) ชมรมแพทย์ชนบท ร้องว่า “โรงพยาบาลใกล้แตกแล้ว” หากถึงวันละ ๓ พันราย และต้องกักตัวอีก ๑๔ วัน เตียงไม่พอแน่ๆ
ขณะนี้มีแค่ ๒๘,๐๐๐ เตียง แต่จะต้องมีพอรองรับผู้ป่วย ๔๒,๐๐๐ เตียง จึงได้เกิดการเสียชีวิตระหว่างรอเข้าโรงพยาบาล ทำให้จำนวนผู้ตายจากโควิดระลอกนี้สะสม ๔๖ ศพ เฉพาะวันเดียวนี่ ๑๑ ราย สลิ่มชอบเอาไปเทียบอเมริกาว่าไทยตายจิ๊บจ้อย
อย่างที่ Pavin Chachavalpongpun ว่า “ประชากรของอเมริกา ๓๓๐ ล้านคนครับ แม้ตัวเลขผู้เสียชีวิตมาก แต่เค้าก็เข้าถึงวัคซีนได้เร็ว จนกลายมาเป็นประเทศที่จำนวนคนได้วัคซีนต่อจำนวนประชากร สูงสุดต้นๆ ของโลก” ถึงขนาดอะล้าสก้าเสนอวัคซีนฟรีให้นักท่องเที่ยว
คนติดคนตายนี่หลากหลาย ผู้ใหญ่ เด็ก อาม้า ลุง หนุ่มโปรแกรมเมอร์ หญิงพยาบาล ดารา ดาวตลก etc. แต่ไม่ยักมีรัฐมนตรีสักคน ไอ้ที่ติดจริงแต่โกหกก็เที่ยวไล่ฟ้องคนที่เอาข่าวมาปูด ส่วนนักกิจกรรมเรียกร้องปฏิรูปชุมนุมกันไม่รู้กี่หนไม่เคยติด
พอถูกจับยัดคุกแออัดกับนักโทษร้ายแรง รายหนึ่ง ‘จัสติน’ หรือ ชูเกียรติ แสงวงศ์ กลับติดโควิดต้องส่งโรงพยาบาลราชทัณฑ์ จึงต้องเป็นห่วงกันว่าที่เหลืออยู่ในคุกอีกกว่า ๒๐ คน จะพากันติดไปด้วย โดยเฉพาะ พริษฐ์ ชีวารักษ์ ที่อดข้าวประท้วง
เวลานี้เสียงด่ารัฐบาลเรื่องการบริหารจัดการโควิดห่วยแตกมากถึงมากที่สุด ไม่เพียงมาจากฟากประชาธิปไตยเท่านั้น ‘สายไบ’ พวกเหยียบเรือสองแคมเอาทั้งไม้ป่าเดียวกันและต่างภูมิทัศน์ ชักเริ่มด่าบ้างแล้ว แอบเลี่ยงไปฟัดเฉพาะ รมว.สาธารณสุข
เพราะขานี้มั่วมากไม่แพ้ส่วนหัวซึ่งส่ายไปส่ายมาเป็น ‘bob head dolls’ ตุ๊กตาเสียหัว อนุทิน ชาญวีรกูล ถูกเรียกร้องให้ลาออกจากความเหลวเป๋วในการแก้ปัญหาโควิด โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับการจัดหาวัคซีน กลุ่มที่เรียกตนว่า ‘หมอไม่ทน’ ทำการรณรงค์ทาง change.org
ขณะเขียนนี่จำนวนผู้ลงชื่อเข้าไปกว่า ๖๕,๐๐๐ ราย เมื่อถึงเวลาบทความนี้ตีพิมพ์ออนไลน์น่าจะไปถึง ๗๕,๐๐๐ ตามเป้าหมายของวันนี้ และพุ่งต่อไปอีกหลายวัน เมื่อความด้อยประสิทธิภาพในตำแหน่งหน้าที่ โผล่ออกมาให้เห็นเรื่อยๆ
เบาะๆ ดูได้จากตัวเลขที่ @workpointTODAY เอาออกมาตีแผ่ว่า “เงินกู้ ๑ ล้านล้านบาท มีส่วนที่เป็นงบฯ สาธารณสุข ๔๕,๐๐๐ ล้านบาท...อนุมัติไปแล้ว ๒๐,๔๙๘ ล้านบาท แต่เบิกจ่ายจริงแค่ ๒๔.๗% ของวงเงินอนุมัติ หรือประมาณ ๕,๐๖๕ ล้านบาท”
อย่าได้นึกว่า ดีนะเขามัธยัส ไม่เลย ต้องเรียกว่าไม่มีปัญญาใช้เงินให้เป็นประโยชน์ ในเมื่อ “ค่าใช้จ่ายสำหรับเตรียมความพร้อมสถานพยาบาล อนุมัติไป ๑๐,๓๑๒ ล้านบาท แต่เบิกจ่ายจริง ๐%” คือไม่ได้เตรียมการอะไรถึงได้เจอปัญหาเตียงคนไข้ไม่พอ
ครั้นไปถึงเรื่องวัคซีน รัฐมนตรีคุยอยู่หลัดๆ วันก่อนว่าคุยกับไฟ้เซอร์แล้วเรียบร้อย จะได้วัคซีนยี่ห้อนี้มาเพิ่มคลังแสงยาแก้โควิดอีก ๑๐ ล้านโด๊สเซส ชั่วข้ามคืนเสี่ยหนูออกมายอมรับว่า failed จะไม่ได้วัคซีนไฟ้เซอร์ในเดือนพฤษภานี้ดั่งที่คุยไว้
ตอนที่แถลงว่าได้จัดหาวัคซีนจากยี่ห้ออื่นๆ นอกเหนือซิโนแว็คซึ่งมีน้อย และแอสตร้าเซเนก้า ล็อตใหญ่ของจริงยังไม่ (ถึงเวลา) มา บอกว่าโฮ้ยไฟ้เซอร์นี่คุยไว้นานแล้วและต่อเนื่อง พอไม่ได้จริงๆ เขายืนยันส่งให้ตอนครึ่งหลังของปี ก็ต้องมาแก้หน้ากันอีก
คราวนี้ให้ ‘หมอลิ่วล้อ’ เล่นบทจ้อบ้าง คุณ ผอ.วัคซีน นพ.นคร เปรมศรี ขอแก้ข่าว “ที่มีผู้ออกมาระบุว่าเพราะโซเชียลมีเดียกดดัน การเมืองกดดันถึงทำให้รัฐบาล กระทรวงสาธารณสุขดิ้นหาวัคซีนเพิ่ม” น่ะไม่ใช่นะ “เรื่องนี้เราคุยกันมาตลอด
ทุกอย่างเป็นเรื่องของเวลา ถ้าเพิ่งมาเริ่มตอนนี้ไม่มีทางที่จะจบได้เร็ว ที่เจอกันเมื่อวันที่ ๒๒ เม.ย. ก็ไม่ใช่ครั้งแรก... มีอย่างที่ไหนที่ไม่เคยคุยอะไรกันมาเลย...จะเนรมิตมาได้อย่างไรถ้าไม่มีการคุยกันมาก่อน” ซ้ำพรรคการเมืองฝ่ายค้านวิจารณ์ให้เสีย
“ไทยจัดหาวัคซีนได้ล่าช้า ทำให้ประเทศขาดโอกาสไปหลายอย่าง” นั้น “ไม่ได้ช้าที่เรา แต่ช้าที่การผลิตวัคซีนมีไม่เพียงพอ” เอ๊ะ ยังไง ถ้าจองช้ามันก็ได้ช้าอยู่แล้วสิ ตอนที่คุยกับเขาครั้งแรก เห็นว่ายักท่าเกี่ยงเขามิใช่หรือ เพราะมี ‘ดีล’ แอสตร้าเซเนก้าอยู่แล้ว
รุ่งโรจน์ รังสิโยภาส อวดไว้เมื่อเดือนมกรา “บ้านเรานี่มันดวงจริง ๆ นะ สมเด็จพระสยามเทวาธิราชจริง ๆ สยามไบโอไซเอนซ์เพิ่งสั่งเครื่องจักรเข้ามาใหม่เผอิญเครื่องจักรที่สั่งเข้ามาเป็นรุ่นเดียวกับสายการผลิตของแอสตร้าเซนเนก้า
...สยามไบโอไซเอนซ์มีกำลังการผลิตประมาณ ๒๐๐ ล้านโดสต่อปี หรือฉีดได้ประมาณ ๑๐๐ ล้านคน คิดว่าพอไหวสำหรับอาเซียน” ยิ่งใหญ่ระดับภูมิภาคเชียวนา ถึงได้ไม่ตามเรื่องกับไฟ้เซอร์ ใช่ปะ หมอนครมาอ้างตอนนี้ “ก็เพราะไม่มีวัคซีน
วัคซีนจะเข้ามาก็ไตรมาส ๒ ไตรมาส ๓ เหมือนกันทั่วโลก แล้วอะไรคือความช้า” ความช้าคือการที่คุณกั๊กรอแอสตร้าเซเนก้านั่นละ ถ้าเหมือนกันทั่วโลกไฉนอังกฤษ-อเมริกาฉีดกันไปแล้วกว่าครึ่งล่ะ
(https://www.matichon.co.th/covid19/news_2688366, https://prachatai.com/journal/2021/04/92706 และ https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=4574012729292515&id=142436575783508)
