ไม่ว่าพวกสืบทอดอำนาจเผด็จการจะมาไม้ไหน ประชากรประชาธิปไตยพออุ่นใจกันได้ในตอนนี้ ที่การล่ารายชื่อ ๕ หมื่นคนเพื่อยื่นขอแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยตรงจากประชาชน ได้เกินเกณฑ์แล้ว แสดงว่าความเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีกว่าจะมาได้รวดเร็วแน่ๆ
ต้องชื่นชมกับทีม ‘ไอลอว์’ ที่ไม่ย่นย่อ ไปตั้งโต๊ะรับลายเซ็นต์ตามสถานที่ชุมนุมต่างๆ เกือบทั่วประเทศอย่างได้ผลในเวลาไม่ถึงเดือน จุดล่าสุดหมาดๆ ที่ลพบุรี อุตส่าห์สะกดใจยืนตากหน้าฟังพวกสวมเสื้อเหลืองต่อต้าน #ลูกหลานจอมพล ป.ด่าไร้สาระ
“ตอนนี้รายชื่อถึง ๕๓,๐๐๐ แล้ว สัปดาห์นี้ทีมงานไม่เปิดโต๊ะใหม่เอง เพราะขอจัดการเอกสารที่ได้มาแล้วก่อน ขอให้ผู้พร้อมเข้าชื่อส่งมาทางไปรษณีย์ หรือเจอกัน ๑๙ กันยายน จะเปิดโต๊ะใหญ่อีกครั้งเป็นครั้งสุดท้าย” @iLawclub แจ้ง
และเพื่อความแน่นอน เผื่อเหลือเผื่อขาด “หลังเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสาร เปิดให้คัดค้าน อาจมีบางส่วนถูกคัดออก” จึงยังรับรายชื่อเพิ่มให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ “เผื่อไว้อย่างน้อย ๕,๐๐๐-๑๐,๐๐๐...ยิ่งร่วมกันเข้าชื่อมาก ยิ่งมีพลังส่งถึงสภา”
ใครยังไม่ได้ลงชื่อ รีบไปที่ https://50000con.ilaw.or.th/ “ร่วมกันเติมดวงดาวให้ทั่วท้องฟ้า เพื่อเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ รื้อระบอบอำนาจของ คสช. สร้างหนทางกลับสู่ประชาธิปไตย และเปิดทางให้ร่าง รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จากการมีส่วนร่วมของประชาชน”
เนื่องเพราะมารผจญยังดาหน้ากันออกมาไม่ขาด วันนี้ ไพบูลย์ นิติตะวัน ระดับ ‘ลูกไล่’ คสช.ในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งถูกดึงเข้าไปเป็นรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเพื่อเล่นแร่แปรธาตุกฎหมาย คอยห้ำหั่นฝ่ายค้าน เผยไต๋วิชามาร
“จะยื่นเรื่องต่อนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เพื่อคัดค้านการบรรจุญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ๔ ญัตติของพรรคร่วมฝ่ายค้าน” ว่า “มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ เนื่องจากมี ส.ส.ลงลายมือชื่อซ้ำกัน”
อ้างหลักเกณฑ์มาตรา ๒๕๖ (๑) หนึ่งในญัตติที่ฝ่ายค้านขอแก้นั่นละ “กรณีนี้ศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำวินิจฉัยไม่รับคำร้องของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ปมเสียบบัตรแทนกัน สาเหตุเพราะพบว่า ส.ส.ที่ลงชื่อท้ายคำร้องไปซ้ำกับคำร้องของพรรคเพื่อไทย”
อีกรายเป็น สว.สายทหาร ‘ตู่ตั้ง’ ออกมาคัดง้างกระบวนการ ปิดสวิทช์ สว.กรณีอำนาจในการร่วมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี แต่ใช้ตรรกะเหตุผลอย่างผิดๆ ที่ว่า “ส.ว.เสนอชื่อไม่ได้ ถ้าพรรคการเมืองไหนไม่ต้องการให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรีอย่าเสนอชื่อเขาเข้าไป”
ตอนประยุทธ์ได้เป็นนายกฯ ก็เพราะพรรคดูดของ คสช.เสนอชื่อ แม้ตอนนั้นเสียงน้อยกว่าฝ่ายค้าน แต่ก็ได้เสียง สว.ลิ่วล้อ คสช.ทั้งโขยงโหวตให้ไง ดังนี้จะมาพูดถึงเรื่องเผด็จการรัฐสภาในอดีตน่ะ ควรฟัง พรสันต์ เลียงบุญเลิศชัย เล็คเชอร์บ้างนะ
“ยังไม่ต้องพูดถึงว่าตัวคุณสมเจตน์ (บุญถนอม) เข้าใจดีพอหรือไม่ กับคำว่า ‘เผด็จการรัฐสภา’” อาจารย์จุฬาฯ ท่านนี้ว่า “คุณสมเจตน์จะเถียงกับผมไหมครับว่า ภายใต้รัฐบาลชุดนี้เป็นทั้งหมดตามที่คุณสมเจตน์พูดเลย และมากกว่าอีก
คือทั้งเผด็จการทหาร เผด็จการรัฐสภา สภาผัวเมีย สภาญาติพี่น้อง สภาพรรคพวกเพื่อนพ้อง” แถมให้อีกอย่างว่า สภาขี้ข้าขี้ครอกของคณะทหารยึดอำนาจ ซึ่งบริหารประเทศไม่เป็นสับปะรดแล้ว ยังถลุงเงินทองในคลัง และกู้หนี้ยืมสินเป็นว่าเล่น
ดังนั้นถึงเวลาที่ต้องเข้าสู่กระบวนการกำจัดเหลือบเกาะกินบนหลังประชาชนตัวสำคัญ ในร่างแปลงมาจากคณะรัฐประหาร ด้วยกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เริ่มจากสามสี่ญัตติไปสู่การยกเครื่องทั้งกระบิ ในการเลือกตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งดุ้น
นอกจากกำจัดอำนาจ สว.ที่ตู่ตั้ง และลบล้างผลพวงรัฐประหารทั้งยวงแล้ว ควรที่จะล้างบางแขนขาเผด็จการที่แฝงอยู่ในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเรียกกันว่า ตลก. ภิวัฒน์ด้วย จากกการอภิปรายทางวิชาการเมื่อวาน ทำให้เห็นความชั่วช้าเกี่ยวกับ ‘ศาลรัฐธรรมนูญ’
ธีระ สุธีวรางกูร นักกฎหมายมหาชนผู้อภิปรายคนหนึ่งบอกว่า ตลก.ได้รับอำนาจมากเกินความเหมาะสม “ทำให้เข้าไปตรวจสอบเรื่องการเมืองค่อนข้างมาก” จนกลายเป็นว่าศาลรัฐธรรมนูญ “กุมทิศทางการปกครองของประเทศได้ทั้งหมด”
ปิยบุตร แสงกนกกุล ผู้อภิปรายอีกคนพูดถึงศาลรัฐธรรมนูญว่า “วินิจฉัยปลดนายกรัฐมนตรี ๒ คน, ล้มการเลือกตั้ง ๒ ครั้ง และขวางการแก้รัฐธรรมนูญ ๒ ครั้ง” อัน “เป็นปัญหาพัวพันวิกฤตการณ์การเมือง มีผลสืบเนื่องจนนำมาสู่การรัฐประหาร”
ปิยบุตรเสนอทางแก้ไขปัญหาไว้สองทาง หนึ่งต้อง ‘ฉีดยาแรง’ คือยุบศาลรัฐธรรมนูญชุดนี้ทิ้งแล้วตั้งต้นกันใหม่ทั้งหมด หรือสอง ‘ฉีดยาชา’ คือแก้ไขที่มาของ ตลก.ทั้งหลายต้องยึดโยงกับประชาชน แล้วสำคัญอย่างยิ่งต้องสร้างระบบตรวจสอบศาลฯ
“เอาระบบถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญโดยรัฐสภากลับมาใช้ใหม่ และยกเลิกกฎหมายละเมิดอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ” เหล่านี้ล้วนเป็นต้นตอทำให้ศาลรัฐธรรมนูญไม่ใช่ตุลาการภิวัฒน์ดังอ้าง แต่เป็น ‘ตุลาการรัฐประหาร’ ไปเสียฉิบ
(https://www.dailynews.co.th/politics/795152Omt56ms, https://www.matichon.co.th/politics/news_2346518 และ https://www.matichon.co.th/politics/news_2346874)