วันพฤหัสบดี, กันยายน 17, 2563

อิอิ อุอุ ศาลรัฐธรรมนูญช่วยเรียกแขก - ตลก.ศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้องไว้พิจารณาว่า ไมค์-อานนท์-รุ้ง เข้าข่าย ‘ล้มการปกครอง’ หรือไม่ กรณีปราศรัย 10 สิงหาคม 2563 ที่ธรรมศาสตร์



ศาล รธน. รับวินิจฉัย ชุมนุมปราศรัย 10 ส.ค. ล้มล้างการปกครองหรือไม่

16 กันยายน 2563
ประชาชาติธุรกิจ

ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องวินิจฉัย กรณีกิจกรรมชุมนุมปราศรัย “ธรรมศาสตร์จะไม่ทน” เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ที่ ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต ล้มล้างการปกครองหรือไม่ หลัง “ณฐพร” ยื่นคำร้อง

วันนี้ (16 ก.ย.) ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งรับคำร้องเพื่อวินิจฉัยกรณีที่ นายณฐพร โตประยูร เป็นผู้ยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุดขอให้พิจารณาเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคสอง เกี่ยวกับการจัดการชุมนุมปราศรัยของคณะบุคคลในวันที่ 10 สิงหาคม 2563 ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต

นายณฐพร ร้องว่าการชุมนุมดังกล่าว รวมถึงกิจกรรมชุมนุมอื่นๆ ของกลุ่มบุคคลต่างๆ ระหว่างวันที่ 3-30 สิงหาคม เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรมนูญ มาตรา 49 หรือไม่

คำร้องดังกล่าวระบุว่า การชุมนุมปราศรัยในวันดังกล่าวมีผู้กล่าวปราศรัย 3 คน ที่มีการกระทำตามที่ผู้ร้องกล่าวอ้าง คือ อานนท์ นำภา ภานุพงศ์ จาดนอก และ ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ทนายอานนท์ นำภา และ ภานุพงศ์ จาดนอก หลังถูกปล่อยตัวจากเรือนจำเมื่อวันที่ 7 ก.ย. ที่ผ่านมา

ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งรับคำร้อง การกระทำของผู้ถูกร้องทั้งสามที่ชุมนุมปราศรัยเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2563 ไว้พิจารณาวินิจฉัย และแจ้งให้ผู้ร้องทราบ

ทั้งนี้ นายณฐพร โตประยูร เคยปฏิบัติหน้าที่ที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน และเป็น 1 ใน 14 ผู้ถูกกล่าวหาคดีฟอกเงิน กรณีการขายที่ดินนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์คลองจั่นฯ 477 ล้านบาท ตามข้อมูลจากสำนักข่าวอิศรา

นอกจากนี้ นายณฐพรยังเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ร้องคดี “คดีอิลลูมินาติ” ที่เขากล่าวหาว่า พรรคอนาคตใหม่ กระทำการล้มล้างการปกครอง ตามมาตรา 49 แห่งรัฐธรรมนูญ จนนำไปสู่การยุบพรรคเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
...
อานนท์ นำภา
3h ·

จริงๆไม่ว่า ตลก.ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยว่าการชุมนุมเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม เป็นการล้มล้างการปกครองหรือไม่ ก็ล้วนแต่เป็นคุณต่อการต่อสู้ทั้งสิ้น
สิ่งที่จะต้องทำต่อไปคือการผลักดันข้อเสนอปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ให้เป็นวาระของคนทั้งประเทศ แก้ไขรัฐธรรมนูญ จัดวางสถาบันกษัตริย์ให้อยู่ในร่องในรอยของระบอบ
ที่สำคัญ การต่อสู้ครั้งนี้จะไม่มีทางสำเร็จ ถ้าเราไม่ร่วมมือกัน เดินไปด้วยกัน
#ให้มันจบที่รุ่นเรา
...

ภาณุพงศ์ จาดนอก
7h ·
# ปราศรัยเรื่องสถาบัน ศาล รธน. บอกล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แล้วพวกรัฐประหารแบบไอ้ประยวยหัวคุด ฉีกรัฐธรรมนูญ ผิด มาตรา 113 เป็นกบฎอย่างชัดเจนไม่ผิดใช่ไหม ? หรือเพราะมีคนเซ็นเลยทำอะไรไม่ได้
#หมดศรัทธาศาลไคฟง
..
Thanapol Eawsakul
5h ·
ถ้าอยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ต้องให้ ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า อานนท์ นำภา, ภาณุพงศ์ จาดนอก และ ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ใช้เสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49
เนื่องจากจัดปราศรัยในวันที่ 10 สิงหาคม 2563...

Atukkit Sawangsuk
3h ·

แค่ปราศรัยเรียกร้องปฏิรูปสถาบัน 10 ข้อ เข้าข่ายล้มล้างระบอบการปกครองได้?
:
1.นี่เป็นการปราศรัย ไม่ได้ใช้กำลังอาวุธล้มล้าง
เป็นการเรียกร้องให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ กฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง
ซึ่งผู้ปราศรัยไม่มีอำนาจทำเองได้
ได้แต่ปราศรัยใช้เหตุผลใช้ความคิด ชักชวนให้ประชาชนเห็นด้วย เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
ถ้าประชาชนเห็นด้วยก็แสดงว่าข้อเรียกร้องนั้นมีเหตุผล
:
2.ข้อเรียกร้อง 10 ข้ออยู่ในกรอบระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ไม่ได้บอกให้เปลี่ยนประเทศเป็นสาธารณัฐไม่มีกษัตริย์
ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขมีขอบเขตที่กว้าง และปรับเปลี่ยนได้ ไม่ต้องอ้างแบบฝรั่ง ในเมืองไทยก็ปรับเปลี่ยนมาตลอด แม้แต่สมัย ร.9 ก็ปรับเปลี่ยนตลอด 70 ปี (มีการแก้รัฐธรรมนูญหมวด 2 หลายต่อหลายครั้ง)
:
หากศาลชี้ว่า เรียกร้องไม่ได้ ให้หยุดเรียกร้อง
ก็เท่ากับศาลตีความว่า ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ต้องเป็นอย่างปัจจุบันเท่านั้น
เปลี่ยนไม่ได้เลย
ทั้งที่รัฐธรรมนูญมีชัยก็ไม่ได้ห้ามแก้หมวด 2 (แต่บังคับให้ทำประชามติ)
ถ้าศาลบอกว่าเรียกร้องให้แก้ไม่ได้=ล้มล้างการปกครอง
ก็คือศาลบังคับห้ามรณรงค์แก้รัฐธรรมนูญหมวด 2 ทั้งที่ตัวรัฐธรรมนูญไม่ห้าม
:
3.แถมนิดเรืองล้มล้างการปกครอง
รัฐธรรมนูญ 40 อวดฉลาด (บวรสาก)
เขียนห้ามล้มล้างการปกครอง ซึ่งในความเป็นจริง ก็คือทหารทำรัฐประหารฉีกรัฐธรรมนูญ
ซึ่งแม่-ไม่เคยมีใครห้ามได้เลย รัฐประหารเป็นรัฏฐาธิปัตย์ ศาลยอมรับอีกต่างหาก
แล้วไม่ทราบไปก๊อปเยอรมันมาหรือเปล่า
เขียนห้ามพรรคการเมือง ซึ่งเมืองไทยไม่เคยมี มีแต่พรรคนาซีเยอรมัน (พรรคคอมมิวนิสต์ก็ไม่มาต่อสู้ในรัฐสภา)
แล้วก็กลายเป็นเครื่องมือทางกฎหมาย
แบบขู่เอาผิดพรรคเพื่อไทยห้ามแก้รัฐธรรมนูญ
เพราะระบอบการปกครองในรัฐธรรมนูญ=ระบอบที่รัฐประหารล็อกไว้
ศาลตีความเมื่อไหร่ การแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยก็จะขัดรัฐธรรมนูญ ล้มล้างการปกครอง (ที่รัฐประหารล็อกไว้) ทุกที
:
รธน.50 ก๊อปมาจาก 40 ยังให้ไปร้องอัยการสูงสุด เพื่อชั่งน้ำหนักก่อน ว่ามีเหตผลสมควรหรือไม่ (แต่ศาล รธน.ไพล่ตีความ "และ" เป็น "หรือ")
รัฐธรรมนูญ 60 แม่-แก้ใหม่ ร้องอัยการ 15 วันไม่ได้ทำอะไรให้มาร้องศาลเลย
คราวนี้นายหมูนายหมาไม่พอใจใครก็ร้องได้หมดสิ
:
เรื่องประชาชนฟ้องเองได้นี่ แก๊งร่างรัฐธรรมนูญแม่-อ้างสวยหรูบอกว่าเพิ่มอำนาจประชาชน
แต่มีประชาชนไม่กี่คนหรอก ร้องปุ๊บเข้าล็อกปั๊บ
จริงๆ มันเป็นการเพิ่มอำนาจศาล
ให้เข้าไปชี้ได้ทุกเรื่องโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการกลั่นกรอง
สมมตินะ สมมติ ศาลขัดหูขัดตาเรื่องไหน กระซิบบอกใครสักคนมาร้อง ก็รับวินิจจฉัยได้เลย
ศาลยุติธรรมยังต้องกำหนดว่า ต้องเป็นผู้เสียหายจึงฟ้องเองได้
(แต่ศาลปกครอง ยะใสร้องค้านแถลงการณ์ร่วมอ้างว่าเป็นคนศรีสะเกษผูกพันประสาทวิหารมาแต่เล็ก ศาลรับเฉยเลย)