วันศุกร์, สิงหาคม 02, 2562

วิษณุห้วน “ไม่ตอบครับ” ปมประยุทธ์ถวายสัตย์ขาดตก ทั้งที่เคยเขียนไว้ว่า "อาจจะต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ"


ดูท่าจะ นิวนอร์มอล ของ คสช.๒ นะ อะไรที่จวนตัว จะเข้าเนื้อ ผิดแน่ๆ แต่เป็นพวกตนเองก็ “ไม่ตอบครับ” จะถามอย่างไรก็ไม่ตอบเสียอย่าง ซ้ำยังทำเป็นลาฉลาด เสียอีก ทนายหน้าหอ ๘ นายกฯ ๑๒ รัฐบาลปากคอเราะรานย้อนแรง “เป็นเรื่องสอดรู้”

ปมการอ่านคำถวายสัตย์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ไม่ว่าจะอ่านข้าม พิมพ์ตก หรือเป็นมาดใหม่ คสช.๒ ไม่ต้องปฏิบัติตามครรลองที่เป็นมาทุกรัฐบาลก็ตาม

ประโยคสำคัญสำหรับการปกครองระบอบประชาธิปไตยฯ ไทยๆ นี่ละ “ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตามซึ่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ” สั้นๆ ง่ายๆ แค่นี้หายไปได้” โดยเอาคำว่า “ตลอดไป” มาปิดท้ายแทน

อันนี้อดีตคณบดีนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ Panat Tasneeyanond เห็นว่าเป็นการ “จงใจละเว้น ไม่กล่าวให้ครบ” แน่นอน เรื่องผ่านมาเป็นอาทิตย์ หลังจากที่ ปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่อภิปรายทักท้วงไว้ตั้งแต่ ๒๕ กรกฎา

สื่อมากหลาย นักวิชาการมากนาย ล้วนแต่ตั้งข้อกังขากันว่าทำอย่างนี้ไม่ได้นะ แม้ว่าถ้วนหน้าตระหนักดีว่าถึงจะเปลี่ยนผ่านมาสู่เผด็จการประชาธิปไตย มีเลือกตั้งแล้ว คสช.ก็ยังกำอำนาจล้นหลามแตะเพดานฟ้า แต่จะมักง่ายขนาดนี้ไม่ได้
 
กระทั่งนักวิชาการสายสลิ่มอย่าง เจษฏ์ โทณะวณิก ยังอดไม่ได้ที่จะชี้ว่าเป็นเรื่อง “ไม่น่าจะพลาดได้” จะทำให้การตั้งรัฐบาลเป็นโมฆะ แม้นว่าปิยบุตรเจ้าของกระทู้เองที่แรกระบุว่าอาจเข้าข่ายผิดหลักการมาตรา ๑๖๑ ยังอลุ่มอล่วยให้ว่า

“ช่วยยืนยันหน่อย คือถ้าผิดก้ผิดครับ ก็บอกว่าผิดพลาดก็คือผิดพลาด แล้วท่านก็แก้ไข ก้ขอพระบรมราชานุญาตถวายสัตย์ใหม่...แต่ปัญหาคืออย่าปล่อยให้คลุมเครือ แล้วเล่นไม่ตอบอย่างนี้” ใช่ หลายครั้งหลายหน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ พูดห้วนๆ “ไม่ตอบครับ”

พอนักข่าวซักต่อไม่ย่นย่อ ก็ได้เนื้อถ้อยเพิ่มมาอีกหน่อย “มันผ่านไปแล้ว หาเรื่องให้เขาเอากลับขึ้นมาพูดอีกทำไม” นักข่าวยังเซ้าซี้อาจารย์ช่วยกล่าวให้เป็นความรู้หน่อย วิษณุใช้คำพูดแบบ ‘Smart Ass’ เสียนี่ “ไม่ใช่เรื่องของความรู้ แต่เป็นเรื่องสอดรู้”

โอวนี่ การถวายสัตย์รัฐบาล คสช.๒ เป็นของสูงหรือสิ่งปกปิดหรือไร สื่อถามไม่ได้ ประชาชนไม่ควรทราบงั้นสิ ทั้งที่นักข่าวก็พยาย้ามพยายามป้อนคำถามที่จะให้ทั่นรองฯ สนองบ้าง เช่นเป็นการเตรียมเอกสารผิดพลาดให้ทั่นนายกฯ หรือเปล่า ไรนั่น

ทั่นรองฯ กลับตอบแบบมีนัยยะในระดับเดียวกับที่อดีตหัวหน้าคณะรัฐประหารที่ยึดอำนาจแล้วปล่อยให้นายทหารคนอื่นเอาไปกิน พล.อ.สนธิ บุณยรัตกลิน พูดไว้ในการปาฐกถาที่สถาบันพระปกเกล้าฯ เมื่อ ๒๑ มีนา ๕๕ ว่า “คำถามบางประการตายแล้วก็ตอบไม่ได้”
 
ส่วนถ้อยประวัติศาสตร์ของวิษณุ เครืองาม เป็นว่า “แล้วสักวันจะรู้ว่าทำไมไม่ควรพูด” แหม่ ลี้ลับซับซ้อนประมาณนั้นเชียวหรือ แต่ว่าประเทศไทยในยุคที่ประชาชนมีน้ำอดน้ำทนกับรัฐบาลของคณะรัฐประหาร คสช.มากว่า ๕ ปี มันต่างกับยุคหลังจากการครองเมืองของรัฐบาล รสช. อยู่เยอะ

ในเมื่อฝ่ายรัฐบาลทำไม่รู้ไม่ชี้ และบางคนใน คสช.๒ พูดแบบรู้มากอวดดี ประชาชนก็ต้องขวนขวายหาคำตอบด้วยตนเอง ไม่มีจ่าเฉยอย่างเมื่อก่อนอีกแล้ว ขอบคุณปิยบุตรอีกหนที่ขุดค้นเจอลายแทงพอให้ทำความเข้าใจกับมาดของทั่นรองฯ ได้บ้าง

@Piyabutr_FWP แจ้งว่าวิษณุ “เคยเขียนถึงการถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ของนายกฯ ไว้ในหนังสือ หลังม่านการเมือง หน้า ๒๕-๕๓ ตีพิมพ์เมื่อปี ๒๕๕๔ โดย นสพ.มติชน” มีเนื้อความบางตอนว่า
 
“...การถวายสัตย์ปฏิญานนั้นเป็นอีกขั้นตอนหนึ่ง เป็นเรื่องของการเปล่งวาจากล่าวคำพูดแสดงความตั้งใจ ถ้าว่าตามธรรมชาติแล้วควรเป็นเรื่องที่ออกมาจากใจ ใครจะพูดอะไรก็น่าจะได้ แต่ถ้ายอมให้ทำอย่างนั้นก็จะเป็นเรื่องสับสน” เช่นที่เป็นขณะนี้

วิษณุเขียนอีกว่านายกฯ ที่ไปปฏิญานนั้นต่างกันไปบางคนพูดคล่องบางคนเหนียมอาย จึงปล่อยตามธรรมชาติไม่ได้ “ต้องเอาหลักกฎหมายมาจับ โดยกำหนดถ้อยคำเป็นระเบียนแบบแผนเข้าไว้ ใครจะพูดน้อยหรือยาวกว่านี้ไม่ได้”

ทั่นรองฯ ในครั้งนั้นคมคายในคารมไม่ด้อยกว่าครั้งนี้ เขียนถึงการปฏิญานว่าจะผิดจากโพยไม่ได้ ใครท่องจำไม่เก่ง (อย่างนายกฯ ชวน) ก็อ่านทีละวรรค “ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีพิมพ์ลงบัตรแข็ง ซึ่งดูปลอดภัยกว่าการจำ เพราะจะไม่ผิดพลาด”

ขนาดที่ว่า “ขืนท่องจำผิดๆ ถูกๆ ตกคำว่าและ คำว่าหรือ ไปสักตัว ก็อาจจะต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าได้ถวายสัตย์ฯ ครบถ้วนหรือยัง จะยุ่งเปล่าๆ” แต่คราวนี้ที่จริงแล้วมันก็ยุ่งอยู่ เพียงแต่วิษณุใช้วิธีปัดสวะสะเปะสะปะเสียจน จะปนเปื้อนไปทั้งข้อง