วันพฤหัสบดี, ตุลาคม 13, 2559

สนช.ใหม่ทหารเพียบ!!! คสช.ลั่นไม่ได้ตอบแทน แต่เลือกที่ความรู้ความสามารถ!!?? + กรมสวัสดิการฯเตรียมงบ 1.3 พันล้านปรับเงินเดือนรัฐวิสาหกิจ 1.8 แสนราย!!!





BY SARA BAD ON OCTOBER 11, 2016
Ispace Thailand


ผ่านไปอย่างเงียบๆ ท่ามกลางกระแสทริปเหมาลำฮาวายกับคาเวียร์บนเครื่อง สำหรับการทูลเกล้าฯรายชื่อ 33 สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มจำนวนสนช.ตามการแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราว 2557 จาก 220 คนเป็น 250 คน และแทนสนช.เดิมที่เสียชีวิตไปอีก 3 คน





ทั้งนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. เป็นผู้คัดเลือกสนช.ใหม่ทั้ง 33 คนด้วยตนเอง โดยรายชื่อสนช.ใหม่ทั้ง 33 คนนั้น พบว่ามีถึง 26 คนที่เป็นทหาร มีตำรวจ 2 คน และพลเรือนอีก 5 คน ซึ่งทหารส่วนใหญ่ที่ได้รับแต่งตั้งคืออดีตนายทหารระดับสูงที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว

ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม กล่าวถึงการแต่งตั้งสนช.ใหม่ทั้ง 33 คนว่า สนช.ที่เป็นทหารนั้นจะไปพยายามผลักดันกฎหมาย พร้อมทั้งไปเพิ่มเติมในส่วนของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ชุดต่างๆ อย่างไรก็ตามรายชื่อ สนช.ชุดนี้ทุกคนก็มีความรู้ความสามารถทั้งนั้น แต่ถ้าตนไปเอาใครก็ไม่รู้เข้ามาเป็น สนช.ก็จะตีกันวุ่นวายไปหมด เพราะฉะนั้นต้องเอาคนที่มีประสบการณ์และรู้จักเข้ามาเป็น สนช.

“ผมขอยืนว่าการแต่งตั้ง สนช.ที่เป็นทหารนั้นไม่ได้เป็นการตอบแทนใดๆทั้งสิ้น เพียงแต่เอาคนที่อยู่ใกล้ๆ กรุงเทพฯหรืออยู่ในเขตปริมณฑล แล้วสามารถเข้ามาประชุมได้ ไม่ใช่ไปตั้งคนที่ไม่เข้าประชุม แล้วยังติดราชการ อย่างนี้ก็ไม่ไหว ซึ่งการตั้ง สนช.ครั้งที่แล้วทหารก็เยอะ เพราะอยู่ในช่วงนี้ ขอให้รอจบโรดแมปก่อนมีการเลือกตั้งทุกอย่างก็จบ เดินตามรัฐธรรมนูญ” พล.อ.ประวิตรกล่าว





สิ่งที่น่าสนใจก็คือ เมื่อหน้าที่หลักของสนช. และกรธ.คือการพิจารณาร่างกฎหมายต่างๆ การที่แต่งตั้งนายทหารจำนวนมากเข้ามารับหน้าที่สนช.นั้นดูจะไม่ตรงสายอาชีพ ประสบการณ์หรือความสามารถแม้แต่น้อย เพราะจากรายชื่อส่วนใหญ่นายทหารระดับสูงที่ถูกแต่งตั้งเป็นสนช.ไม่ได้มาจากสายอาชีพทางกฎหมาย การจะอ้างว่ามีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ มารับหน้าที่ก็ดูจะไม่สมเหตุสมผลเท่าใดนัก

เมื่อพิจารณาเงินเดือนและค่าตอบแทนของสนช.พบว่ามีการกำหนดเงินประจำตำแหน่งไว้ที่ 71,230 บาท เงินเพิ่ม 42,330 รวม 113,560 บาท ยังไม่รวมเบี้ยประชุมต่างๆจากการเข้าไปรับตำแหน่งกรรมาธิการต่างๆ ซึ่งรายได้นับแสนบาทต่อเดือนก็ถือว่าสูงทีเดียวสำหรับเศรษฐกิจในยุคนี้





อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าสนช.ชุดใหม่นี้จะแต่งตั้งเพราะความรู้ความสามารถ ความใกล้ชิด หรือการตอบแทนผลประโยชน์ ประชาชนก็คงทำได้เพียงแค่วิพากษ์วิจารณ์เท่านั้น อย่างที่พล.อ.ประวิตร กล่าวไว้ว่า อยากคิดอะไรก็คิดไป!!!

Reference
http://www.matichon.co.th/news/315567

http://www.isranews.org/isranews-news/item/50665-snchzz33ooo.html

ooo



ooo

กรมสวัสดิการฯเตรียมงบ 1.3 พันล้านปรับเงินเดือนรัฐวิสาหกิจ 1.8 แสนราย!!!





BY SARA BAD ON OCTOBER 12, 2016
ISPACE THAILAND

ถือเป็นข่าวดีสำหรับลูกจ้างรัฐวิสาหกิจทั้ง 64 แห่งของประเทศไทย หลังจากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน(กสร.) เตรียมปรับค่าจ้างลูกจ้างรัฐวิสาหกิจจำนวน 1.8 แสนราย ย้อนหลังถึง 1 ธันวาคม 2557 ตามมติครม.โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณ 1,383 ล้านบาท

นายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) แถลงถึงการปรับค่าจ้างรัฐวิสาหกิจ ว่า เมื่อวันที่ 4 ต.ค. ที่ผ่านมา ว่า ครม. ได้เห็นชอบ ปรับค่าจ้างลูกจ้างรัฐวิสาหกิจที่มีเงินเดือนต่ำกว่า 43,890 บาท โดยรัฐวิสาหกิจที่มีโครงสร้างเงินเดือนแบบช่วงปรับขึ้นไม่เกิน 2% และรัฐวิสาหกิจที่มีโครงสร้างเงินเดือนแบบขั้น ปรับขึ้นไม่เกิน 0.5 ขั้น ซึ่งจะมีลูกจ้างรัฐวิสาหกิจที่อยู่ในเกณฑ์ได้รับการปรับขึ้นเงินเดือน 188,881 คน จากลูกจ้าง 295,009 คนในรัฐวิสาหกิจทั้ง 64 แห่ง





“การปรับเงินเดือนครั้งนี้ เพราะข้าราชการชั้นผู้น้อยได้ปรับเงินเดือนไปแล้วเมื่อปี 2557 รัฐวิสาหกิจจึงร้องขอปรับขึ้นบ้าง เพราะไม่ได้ปรับขึ้นมาตั้งแต่ปี 2554 จากนี้ บอร์ดของรัฐวิสาหกิจ 64 แห่ง ต้องไปพิจารณาตามหลักเกณฑ์ของแต่ละแห่งว่า จะจ่ายยังไง และการปรับขึ้นค่าจ้างครั้งนี้ไม่ครอบคลุมย้อนหลังไปถึงคนที่เกษียณอายุแล้ว ส่วนแรงงานทั่วไปที่เรียกร้องปรับค่าแรงขั้นต่ำนั้น มั่นใจว่ารัฐบาลจะไม่ทอดทิ้งแน่นอน” นายสุเมธกล่าว

เรื่องนี้แม้ว่าจะเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับลูกจ้างรัฐวิสาหกิจ แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าการปรับขึ้นเงินเดือนในเวลานี้ถือว่าเหมาะสมหรือไม่ เพราะแม้จะไม่มีการปรับฐานเงินเดือนรัฐวิสาหกิจมาตั้งแต่ปี 2554 แต่การเลื่อนตำแหน่งก็ได้รับเงินเดือนเพิ่มขึ้น รวมทั้งได้โบนัสตามผลประกอบการของรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งอยู่แล้ว ในขณะที่รัฐวิสาหกิจหลายแห่งยังคงประสบปัญหาขาดทุนจนต้องมีแผนฟื้นฟูกิจการ

ด้านผู้ใช้แรงงาน เมื่อไม่กี่วันก่อนได้มีการเดินรณรงค์ “Decent Work Day” เรียกร้องให้รัฐบาลมีการปรับค่าแรงขั้นต่ำจาก 300 บาทต่อวัน เป็น 360 บาทต่อวัน ซึ่งค่าจ้างขั้นต่ำนี้ไม่ได้ปรับมาเป็นเวลาหลายปีแล้วเช่นกัน จึงทำให้เกิดปัญหารายได้ของผู้ใช้แรงงานไม่เพียงพอกับค่าครองชีพ




นับตั้งแต่รัฐบาลคสช. เข้ามาบริหารประเทศมีการปรับขึ้นเงินเดือนของข้าราชการ ทหาร ตำรวจ และล่าสุดคือลูกจ้างรัฐวิสาหกิจ แต่ภาคแรงงานยังคงไม่มีการแสดงท่าทีที่ชัดเจนว่าจะมีการปรับค่าจ้างเพื่อช่วยเหลือหรือไม่ อย่างไร ทั้งที่ผู้ใช้แรงงานคือคนกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งของสังคมไทย





เมื่อเป็นเช่นนี้จึงอาจเกิดคำถามในใจของประชาชนผู้เสียภาษีได้ว่า เหตุใดรัฐบาลจึงเอาใจใส่ข้าราชการ และลูกจ้างรัฐวิสาหกิจมากเป็นพิเศษ??? ในขณะที่ภาคแรงงาน และประชาชนกลับไม่ได้รับการเอาใจใส่เท่าที่ควร???

Reference
http://www.thairath.co.th/content/750397

http://www.thairath.co.th/content/746496#cxrecs_s