จากกรณีที่นายจิรชัย มูลทองโร่ย รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดจากโครงการรับจำนำข้าว ที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ถูกกล่าวหา เปิดเผยถึงกรณีส่งข้อสรุปความเห็นการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว เมื่อวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า โครงการนี้ไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย แต่อดีตนายกรัฐมนตรีมีความผิดเรื่องพฤติการณ์ในการกำกับดูแล
และภายในวันเดียวกัน สำนักข่าววอลสตรีท เจอร์นัล ได้รายงานบทสัมภาษณ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์เกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าวที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยืนยัน โครงการการรับจำนำข้าว ไม่ใช่สิ่งผิดกฎหมาย เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร แต่เธอกลับกำลังถูกดำเนินคดีจากนโยบายที่ได้มีการหาเสียงเอาไว้ และผ่านการนำเสนอกับสภาผู้แทนราษฎรตามกฎหมาย
พร้อมย้ำว่า ถึงเวลาแล้วที่เธอจะลุกขึ้นพูดบ้าง เพราะตั้งแต่เหตุการณ์รัฐประหาร เธอไม่เคยคิดหนี และเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบทุกขั้นตอน ทั้งนี้ ที่ผ่านมาได้พยายามใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆมาโดยตลอด เพราะผู้มีอำนาจคิดว่าเธอคือต้นเหตุแห่งความขัดแย้ง
ที่มา wsj
ติดตามข่าวสารที่น่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่ news.mthai.com
MThai News
....
อดีตนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์สำนักข่าววอลสตรีท เจอร์นัล เกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าว ในช่วงเวลาเดียวกันกับหัวหน้าทีมสอบสวนข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดจากโครงการรับจำนำข้าว สรุปผลการสอบสวนว่า โครงการนี้จะไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย แต่อดีตนายกรัฐมนตรีมีความผิดในการกำกับดูแล
.
สำนักข่าววอลสตรีท เจอร์นัล รายงานบทสัมภาษณ์นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อวานนี้ (10 ก.พ.59) เกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าวที่กำลังถูกตรวจสอบในขณะนี้
.
นางสาวยิ่งลักษณ์ระบุว่า ผู้มีอำนาจคิดว่าเธอคือต้นเหตุแห่งความขัดแย้ง เธอจึงพยายามใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา และยืนยันว่าโครงการการรับจำนำข้าว เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร ไม่ใช่สิ่งผิดกฎหมา แต่เธอกลับกำลังถูกดำเนินคดีจากนโยบายที่ได้มีการหาเสียงเอาไว้ และผ่านการนำเสนอกับสภาผู้แทนราษฎรตามกฎหมาย
.
การให้สัมภาษณ์นี้ เกิดขึ้นในวันเดียวกันกับที่ นายจิรชัย มูลทองโร่ย รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าทีมสอบสวนข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดจากโครงการรับจำนำข้าว สรุปผลการสอบสวนว่า แม้โครงการจะไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย แต่อดีตนายกรัฐมนตรีมีความผิดในการกำกับดูแล
.
นางสาวยิ่งลักษณ์ ย้ำกับสำนักข่าววอลสตรีท เจอร์นัล ว่าการกระทำแบบนี้ถือเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แต่เธอยืนยันไม่เคยคิดจะหนี ตั้งแต่การรัฐประหารก็ตาม แต่เห็นว่าช่วงเวลาที่ผ่านมา เธออยู่อย่างเงียบ ๆ มานานเกินพอแล้ว จึงถึงเวลาที่จะลุกขึ้นพูดบ้าง
.สำนักข่าววอลสตรีท เจอร์นัล ยังสัมภาษณ์อาจารย์ปวิน ชัชวาลพงพันธ์ อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ สหราชอาณาจักร ด้วย โดยอาจารย์ปวินให้ความเห็นว่า รัฐบาลและคสช .ต้องหาเหตุผลเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับการรัฐประหาร แต่เขามองว่า จากกรณีนี้ รัฐบาลและคสช.อาจจะโดนกระแสต่อต้านจากผู้สนับสนุนอดีตนายกรัฐมนตรี และการดำเนินคดี อาจทำให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองระลอกใหม่
Thailand’s Former Leaders Raise Pressure on Ruling Junta
Yingluck Shinawatra and her brother Thaksin re-emerge to challenge graft charge and army’s role
By JAMES HOOKWAY
.
สำนักข่าววอลสตรีท เจอร์นัล รายงานบทสัมภาษณ์นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อวานนี้ (10 ก.พ.59) เกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าวที่กำลังถูกตรวจสอบในขณะนี้
.
นางสาวยิ่งลักษณ์ระบุว่า ผู้มีอำนาจคิดว่าเธอคือต้นเหตุแห่งความขัดแย้ง เธอจึงพยายามใช้ชีวิตอยู่อย่างเงียบๆ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา และยืนยันว่าโครงการการรับจำนำข้าว เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร ไม่ใช่สิ่งผิดกฎหมา แต่เธอกลับกำลังถูกดำเนินคดีจากนโยบายที่ได้มีการหาเสียงเอาไว้ และผ่านการนำเสนอกับสภาผู้แทนราษฎรตามกฎหมาย
.
การให้สัมภาษณ์นี้ เกิดขึ้นในวันเดียวกันกับที่ นายจิรชัย มูลทองโร่ย รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าทีมสอบสวนข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดจากโครงการรับจำนำข้าว สรุปผลการสอบสวนว่า แม้โครงการจะไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย แต่อดีตนายกรัฐมนตรีมีความผิดในการกำกับดูแล
.
นางสาวยิ่งลักษณ์ ย้ำกับสำนักข่าววอลสตรีท เจอร์นัล ว่าการกระทำแบบนี้ถือเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แต่เธอยืนยันไม่เคยคิดจะหนี ตั้งแต่การรัฐประหารก็ตาม แต่เห็นว่าช่วงเวลาที่ผ่านมา เธออยู่อย่างเงียบ ๆ มานานเกินพอแล้ว จึงถึงเวลาที่จะลุกขึ้นพูดบ้าง
.สำนักข่าววอลสตรีท เจอร์นัล ยังสัมภาษณ์อาจารย์ปวิน ชัชวาลพงพันธ์ อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ สหราชอาณาจักร ด้วย โดยอาจารย์ปวินให้ความเห็นว่า รัฐบาลและคสช .ต้องหาเหตุผลเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับการรัฐประหาร แต่เขามองว่า จากกรณีนี้ รัฐบาลและคสช.อาจจะโดนกระแสต่อต้านจากผู้สนับสนุนอดีตนายกรัฐมนตรี และการดำเนินคดี อาจทำให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองระลอกใหม่
ooo
By JAMES HOOKWAY
Feb. 10, 2016
WSJ
BANGKOK—Since Thailand’s army ousted Yingluck Shinawatra’s government from office, the former leader has largely kept a low profile, visiting temples and rarely talking about prosecutors’ charge that she wasted billions of dollars subsidizing rice farmers.
But now Ms. Yingluck and her brother Thaksin Shinawatra, another overthrown former Thai prime minister, are thrusting themselves back into public view to challenge the charge and the military’s deepening hold on power.
“People in power thought I would be an obstacle or a source of conflict, so I kept quiet,” Ms. Yingluck said in an interview here Wednesday.
Ms. Yingluck doesn’t appear to be trying to make a political comeback; the legislature last year banned her from politics for five years. Rather, she said, her change of tack reflects a new effort to prove her innocence during her trial, which began last month. A conviction carries a penalty of up to 10 years in prison.
Her brother Mr. Thaksin, a billionaire businessman whose swagger transformed Thai politics before he was ousted in a 2006 coup, has instructed supporters in a Lunar New Year message from abroad to organize themselves after a long hibernation and distributed calendars and coffee-table books eulogizing his premiership.
The siblings’ growing profile in this tropical Buddhist kingdom is adding pressure on the country’s military leaders. Junta chief Gen. Prayuth Chan-ocha recently swore at a local press briefing when reporters asked him if he was sticking to his plan to hold elections in 2017. Members of the country’s main political parties have criticized a new draft constitution that would enhance judicial powers to remove elected leaders. The country’s economy has been troubled, too, with exports contracting in 2014 and 2015 and foreign investment falling.
From afar, the U.S. is looking on with concern, and in response is scaling back annual military exercises with Thailand, the latest of which began Tuesday. U.S. Ambassador Glyn Davies told reporters at the launch that he hoped the relationship between the two countries would improve if Thailand returned to democracy after 2014’s coup.
But political analysts say Ms. Yingluck’s trial is reopening the country’s deep political wounds. Adding to the divisions, a junta-picked panel is drafting a new constitution that critics say will limit the power of elected leaders.
Pavin Chachavalpongpun, a Thai academic based at Cambridge University in England, said the junta will push hard for Ms. Yingluck’s conviction in the rice-subsidy case. “They need to get that justification for the coup,” he said, but warned that Gen. Prayuth might face a significant backlash from Ms. Yingluck’s supporters.
Michael Montesano, a visiting fellow at the Institute for Southeast Asia Yusof Ishak Institute in Singapore, suggests the trial and possible conviction of Ms. Yingluck are a way to set a new standard for prosecuting corruption sought by many of the Shinawatras’ opponents. In 2008, Mr. Thaksin fled the country before he could be convicted and imprisoned in an earlier corruption case which he said was politically motivated. “In this sense the trial is one more way of introducing the new Thai order that is the ambition of so many of these people—introducing it by means of demonstration,” Mr. Montesano said.
It is a risky option, however. Drought is afflicting many parts of rural Thailand, devastating crops in many parts of the country where Ms. Yingluck and her free-spending policies are still wildly popular, so much so that the junta is now replicating some of her price supports. Prosecuting Ms. Yingluck for a policy tailored to boosting farmers’ incomes could, Mr. Montesano said, be “the making of, if not yet a martyr, then at least someone who will sacrifice for the cause.”
Ms. Yingluck said she didn’t break any laws by buying rice from farmers at up to double market prices to boost farmers’ living standards. The policy helped her sweep to a landslide election win in 2011 as her brother’s proxy.
“Other countries have subsidy programs to help support their economies, but I’m being prosecuted for a policy which we campaigned on and which was approved by parliament,” she said in the interview. “This is abnormal.”
Thailand was the world’s largest exporter of the grain at the time. Ms. Yingluck’s plan was to store rice in warehouses to drive up global prices. For a while, the trickle-down effect of higher rice prices filtered through much of Thailand’s rural heartland, strengthening smaller businesses. Later, though, the plan unraveled when India and Vietnam stepped up their shipments, driving down prices and leading to mass protests against Ms. Yingluck’s government.
By the time the military ousted Ms. Yingluck in May 2014, Thailand had racked up $15 billion in paper losses and a criminal trial loomed. She also faces a civil complaint in which the government aims to seize her assets to partly pay for state funds spent on the rice program. The former leader said she would continue to fight the charges in Thailand.
“I’ve never once thought about running away, even after the coup,” Ms. Yingluck said. “But I’ve stayed quiet for long enough, and I need some space to give my side.”
BANGKOK—Since Thailand’s army ousted Yingluck Shinawatra’s government from office, the former leader has largely kept a low profile, visiting temples and rarely talking about prosecutors’ charge that she wasted billions of dollars subsidizing rice farmers.
But now Ms. Yingluck and her brother Thaksin Shinawatra, another overthrown former Thai prime minister, are thrusting themselves back into public view to challenge the charge and the military’s deepening hold on power.
“People in power thought I would be an obstacle or a source of conflict, so I kept quiet,” Ms. Yingluck said in an interview here Wednesday.
Ms. Yingluck doesn’t appear to be trying to make a political comeback; the legislature last year banned her from politics for five years. Rather, she said, her change of tack reflects a new effort to prove her innocence during her trial, which began last month. A conviction carries a penalty of up to 10 years in prison.
Her brother Mr. Thaksin, a billionaire businessman whose swagger transformed Thai politics before he was ousted in a 2006 coup, has instructed supporters in a Lunar New Year message from abroad to organize themselves after a long hibernation and distributed calendars and coffee-table books eulogizing his premiership.
The siblings’ growing profile in this tropical Buddhist kingdom is adding pressure on the country’s military leaders. Junta chief Gen. Prayuth Chan-ocha recently swore at a local press briefing when reporters asked him if he was sticking to his plan to hold elections in 2017. Members of the country’s main political parties have criticized a new draft constitution that would enhance judicial powers to remove elected leaders. The country’s economy has been troubled, too, with exports contracting in 2014 and 2015 and foreign investment falling.
From afar, the U.S. is looking on with concern, and in response is scaling back annual military exercises with Thailand, the latest of which began Tuesday. U.S. Ambassador Glyn Davies told reporters at the launch that he hoped the relationship between the two countries would improve if Thailand returned to democracy after 2014’s coup.
But political analysts say Ms. Yingluck’s trial is reopening the country’s deep political wounds. Adding to the divisions, a junta-picked panel is drafting a new constitution that critics say will limit the power of elected leaders.
Pavin Chachavalpongpun, a Thai academic based at Cambridge University in England, said the junta will push hard for Ms. Yingluck’s conviction in the rice-subsidy case. “They need to get that justification for the coup,” he said, but warned that Gen. Prayuth might face a significant backlash from Ms. Yingluck’s supporters.
Michael Montesano, a visiting fellow at the Institute for Southeast Asia Yusof Ishak Institute in Singapore, suggests the trial and possible conviction of Ms. Yingluck are a way to set a new standard for prosecuting corruption sought by many of the Shinawatras’ opponents. In 2008, Mr. Thaksin fled the country before he could be convicted and imprisoned in an earlier corruption case which he said was politically motivated. “In this sense the trial is one more way of introducing the new Thai order that is the ambition of so many of these people—introducing it by means of demonstration,” Mr. Montesano said.
It is a risky option, however. Drought is afflicting many parts of rural Thailand, devastating crops in many parts of the country where Ms. Yingluck and her free-spending policies are still wildly popular, so much so that the junta is now replicating some of her price supports. Prosecuting Ms. Yingluck for a policy tailored to boosting farmers’ incomes could, Mr. Montesano said, be “the making of, if not yet a martyr, then at least someone who will sacrifice for the cause.”
Ms. Yingluck said she didn’t break any laws by buying rice from farmers at up to double market prices to boost farmers’ living standards. The policy helped her sweep to a landslide election win in 2011 as her brother’s proxy.
“Other countries have subsidy programs to help support their economies, but I’m being prosecuted for a policy which we campaigned on and which was approved by parliament,” she said in the interview. “This is abnormal.”
Thailand was the world’s largest exporter of the grain at the time. Ms. Yingluck’s plan was to store rice in warehouses to drive up global prices. For a while, the trickle-down effect of higher rice prices filtered through much of Thailand’s rural heartland, strengthening smaller businesses. Later, though, the plan unraveled when India and Vietnam stepped up their shipments, driving down prices and leading to mass protests against Ms. Yingluck’s government.
By the time the military ousted Ms. Yingluck in May 2014, Thailand had racked up $15 billion in paper losses and a criminal trial loomed. She also faces a civil complaint in which the government aims to seize her assets to partly pay for state funds spent on the rice program. The former leader said she would continue to fight the charges in Thailand.
“I’ve never once thought about running away, even after the coup,” Ms. Yingluck said. “But I’ve stayed quiet for long enough, and I need some space to give my side.”