‘อุ๊งอิ๊ง’ แถลงผลงาน ๓ เดือน ใช้เงินไปแล้ว ๓ แสนล้านบาท ลงไปในโครงการต่างๆ นัยว่าเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ตามนโยบายที่ตั้งไว้ บอกปีหน้าจะเป็นปีทองในทุกๆ ด้านแน่ๆ แม้ว่าหลายต่อหลายอย่างที่เงินลงไปยังลูกผีลูกคน
เอาที่เห็นๆ เพราะประโคมมากก่อน อย่างการแจกเงินหมื่น หมดไปแล้ว ๑๔๕,๕๕๒ ล้านบาท เฟสแรกให้คนพิการ ๑๔.๕๕ ล้านคน และว่าเฟสสองกำลังมา สำหรับคนชราแค่ ๔-๕ ล้านคน ส่วนเฟสสามที่ว่ามาแน่ ยังไม่มีรายละเอียด
นอกนั้นบางเรื่องไม่ค่อยฮือฮา แต่ว่าก็ใช้ไปเยอะ เช่นมาตรการพักชำระหนี้ ให้แก่ลูกหนี้รายย่อย ระยะที่สองและสาม รวมทั้งฟื้นฟูลูกหนี้ ธกส. รวมวงเงิน ๒๒,๙๗๒ ล้านบาท กับระดับพันล้าน ก็มี ๗,๑๒๕ ล้านเพื่อสนับสนุนมาตรการรถไฟฟ้า
อีก ๖,๓๗๒ ล้านกว่าๆ เพื่อภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่บอกว่า “สร้างโอกาสให้กับผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลางได้เข้าถึงสินเชื่อที่อยู่อาศัยภายใต้เงื่อนไขที่ผ่อนปรน” และจำนวน ๕,๙๒๔ ล้าน นี่ใช้ยกระดับ ๓๐ บาทรักษาทุกโรค เป็นบัตรใบเดียวรักษาทุกที่
กับที่ดูดีเหมือนกันคือ แจกหมื่นบาทให้ชาวนา (เรียกชื่อทันยุคว่า ‘เกษตรกรผู้ปลูกข้าว’) งบกลางหมดไปอีก ๓๘,๕๗๘ ล้านบาท ช่วยได้ ๔.๖๘ ล้านครัวเรือน ก้อนใหญ่อีกส่วนก็สร้างถนน โครงการมอเตอร์เวย์วงแหวนรอบนอก ๔๗,๕๒๑ ล้าน
และปลีกๆ ย่อยๆ อีกเยอะแยะ ล้วนแต่เป็นลักษณะ ‘ประชานิยม’ ลดแลกแจกแถมเกือบทั้งนั้น ส่วนที่เป็นโครงสร้างพื้นฐาน เช่นการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น ๔๐๐ บาทต่อวัน ยังไปไม่ไกลนัก ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนรอคณะกรรมการไตรภาคีถกกันอยู่
เรื่องนี้ก็ติดกึกติดกักพอประมาณแหละ เพราะพวกนายจ้างตั้งแง่ว่า จะขึ้น ๔๐๐ เท่ากันหมดทั้งประเทศไม่ได้นะ สภาหอการค้าตัวตั้งตัวตีค้านหัวชนฝา บอกต้องดูปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ก่อน “เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจยังคงมีความผันผวนและเปราะบาง”
อ้างโน่นอ้างนี่แหละ พวกพ่อค้าแม่ขายเอาแต่กำไร ในสังคมปากกัดตีนถีบก็หยั่งงี้ ปลัดกระทรวงแรงงานเองก็ยังไม่รู้ บอร์ดไตรภาคีจะออกหัวหรือก้อย จะประชุมกันนัดแรกวันที่ ๑๒ ธันวา ข่าวดีมีแต่ว่าสามารถนัดให้ทั้งฝ่ายลูกจ้าง นายจ้าง และภาครัฐ มาคุยกันได้แล้ว
(https://www.facebook.com/watch?v=1628219127766534 และ https://prachatai.com/journal/2024/12/111646)