วันจันทร์, ธันวาคม 23, 2567
คุณอ้น : เหตุใดชาวราชภักดิ์ต่อต้านพระราชโอรสคนนี้มากขึ้น?
Royal World Thailand - รอยัล เวิลด์ ประเทศไทย
December 20
·
เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า คุณอ้น-วัชเรศร วิวัชรวงศ์ พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้กลับมาพำนักอยู่ในประเทศไทยถาวรแล้ว หลังจากที่ไม่เคยกลับมาเยือนบ้านเกิดมา 30 กว่าปี แม้จะยังมีการไปๆมาๆระหว่างประเทศไทยกับสหรัฐอเมริกาบ้างเป็นครั้งคราว ซึ่งประชาชนได้เห็นอดีตท่านชายไปร่วมออกงานในพื้นที่ต่างๆหลากหลายโอกาส
จากช่วงเวลาที่ผ่านมา มีผู้ที่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์จำนวนไม่น้อยที่ปรามาสและเคลือบแคลงสงสัยในตัวคุณอ้นมากขึ้น นอกเหนือจากไม่เป็นที่ชื่นชอบในกลุ่มที่ไม่พิสมัยในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระราชสำนักอยู่แล้ว จนวันเวลาผ่านไป ชะรอยว่าอดีตท่านชาย จะถูกวิจารณ์ ปรามาส ถึงขั้นก่นด่าหนักขึ้นไปอีก และอาจหนักหนาสาหัสสำหรับคุณอ้นมากขึ้นเรื่อยๆ ปัจจัยใดสนับสนุนให้เกิดภาวะเช่นนี้ขึ้น?
ตั้งแต่คุณอ้นกลับมาไทยครั้งแรก หลายคนตื่นเต้นและดีใจที่ได้เห็นหน่อเนื้อเชื้อกษัตริย์กลับมาอีกครั้ง และได้เห็นไปโชว์ตัวที่ต่างๆ เป็นกระแสตอบรับที่ดีอยู่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง ในช่วงเวลาที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอพระองค์ใหญ่ทรงประชวรกระทันหัน ทำให้ราชสำนักมีความหม่นหมองไม่น้อย เนื่องจากขาดพระกำลังสำคัญสนองพระเดชพระคุณ ประชาชนจึงหวังว่าการที่อดีตท่านชายกลับมา อาจหวนคืนสู่เส้นทางแห่งพระเกียรติยศอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณอ้นเลือกมาอยู่ในจุดนี้ แม้จะเป็นพระราชโอรสแต่ก็มิได้เป็นสมาชิกพระราชวงศ์แล้วหลังจากทูลกระหม่อมพ่อและหม่อมแม่แยกทางกันไป แต่ในฐานะบุคคลสาธารณะ ทุกอย่างย่อมถูกจับตามองจนกลายเป็นครหารายล้อมเต็มไปหมด จากที่เคยกล่าวไปในบทความก่อนหน้านี้ว่า คุณอ้นรับศึกจากทั้งสองด้าน ทั้งจากกลุ่มที่ไม่นิยมสถาบันฯ และกลุ่มที่จงรักภักดี จนตอนนี้ปฏิเสธมิได้ว่า กลุ่มคนรักสถาบันฯชะรอยจะทวีจำนวนต่อต้านคุณอ้นมากขึ้นและอาจมีมากกว่ากลุ่มไม่นิยมสถาบันไปแล้ว เหตุใดชาวราชภักดิ์ต่อต้านพระราชโอรสคนนี้มากขึ้น?
คุณอ้นถูกมองว่าเป็นตัวการทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์สั่นคลอน จุดแตกหักของความหวังและความเชื่อใจของกลุ่มคนรักสถาบันคือการที่เห็นคุณอ้นถ่ายภาพร่วมเฟรมกับนักวิชาการชื่อดังท่านหนึ่งที่ถูกมองว่าเป็นปฏิปักษ์กับสถาบันฯ เรื่องนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์มากในสังคมออนไลน์ว่าเหตุใดถึงไปเสวนากับบุคคลท่านนั้น แม้คุณอ้นเคยให้เหตุผลประการใดก็ไม่เคยสนใจ จึงเริ่มต้นคลางแคลงสงสัยในตัวคุณอ้นแต่นั้นเป็นต้นมา ว่าอาจมาทำให้พระบรมเดชานุภาพทูลกระหม่อมพ่อต้องหม่นหมอง
และการที่ถูกมองว่าทำตัวเสี่ยงต่อความมั่นคงของราชบัลลังก์นั้นไซร้ ผู้รักสถาบันจึงเริ่มปรามาสแรงขึ้นไปอีก กับประเด็นที่มีผู้คนคอยต้อนรับเสมือนเป็นการเฝ้ารับเสด็จเจ้านาย บางคนถึงขั้นใช้ราชาศัพท์ในฐานะพระราชโอรส แต่สถานะยังเป็นเพียงพลเรือน แม้คุณอ้นเคยกล่าวกับทุกคนว่าไม่ต้องใช้ราชาศัพท์ตั้งแต่การกลับมาไทยครั้งแรกแล้วก็ตาม สิ่งนี้ถือเป็นช่องโหว่ให้คนเข้ามาวิจารณ์หนัก เนื่องจากคุณอ้นถูกมองว่าชอบการต้อนรับแบบนี้ และไม่มีการบอกกล่าวโดยทั่วถึงว่าด้วยประเด็นนี้ จึงถูกก่นด่าแรงถึงขั้นว่าหิวแสง และกระเสือกกระสนอยากเป็นเจ้า
และอีกประเด็นสำคัญคือการถูกมองว่า #จะมาแย่งของน้อง กล่าวคือ กลุ่มคนรักสถาบันกลับคิดไกลว่า จะกลับมาเป็นเจ้านายอีกครั้ง ทำให้โอกาส #ส้มหล่น ที่จะได้เป็นพระรัชทายาท แม้มีความเป็นไปได้น้อยมาก แต่ปฏิเสธมิได้ว่า เป็นสิ่งที่หลายคนคิดในใจ และเคลือบแคลงสงสัยต่างๆนานา เนื่องจากทุกอย่างดูมีความเหมาะเจาะจนเกินไป ตั้งแต่การกลับมาไม่นานหลังพระเชษฐภคินีประชวร อดีตท่านชายกลับมามีบทบาทมากขึ้นจนดูผิดหูผิดตา จากก่อนหน้านี้หลายคนพยายามคิดไปในทางบวกว่า พี่น้องกลับมาเจอหน้ากันและรักกันดี จนตอนนี้กลุ่มคนรักสถาบันตั้งคำถามกันอย่างกว้างขวางว่าแท้จริงอดีตท่านชายต้องการอะไรกันแน่
และสิ่งที่กลุ่มคนรักสถาบันได้กล้ามาก เก่งมาก ขอบใจ คือการเปิดเผยพระราชหัตถเลขาของทูลกระหม่อมเมื่อครั้งยังทรงเป็นสมเด็จพระยุพราช พระราชทานแก่อาจารย์โรงเรียนและเอกอัครราชทูตที่อังกฤษในขณะนั้น ซึ่งมีการระบุถึงการทรงหย่าและการเปลี่ยนพระสถานะของพระโอรสทั้งสี่เป็นพลเรือน จากเดิมที่ไม่เคยคิดก้าวก่ายเรื่องส่วนพระองค์ แม้กระทั่งบางส่วนคิดว่าเป็นของปลอมและเรื่องไม่จริง จนตอนนี้กล้าเอามาเปิดเผยเพื่อให้เน้นย้ำสถานะที่คุณอ้นเป็นอยู่ตอนนี้ แม้อาจกระทบต่อพระบรมเดชานุภาพอยู่ไม่น้อย
รวมไปถึงประเด็นร้อนในกลุ่มคนรักสถาบันที่ถึงกับมีการท้ากันฟ้องร้องในชั้นศาลระหว่างฝั่งคุณอ้นกับนักวิชาการชื่อดังท่านหนึ่งผู้เป็นที่รู้จักในกลุ่มคนรักสถาบันว่าเป็นผู้จงรักภักดีอย่างยิ่งยวด ซึ่งได้เปิดเผยและตีแผ่เรื่องราวของคุณอ้นวันต่อวันไม่ลดละอย่างดุเด็ดเผ็ดมันส์ โดยเคลือบแคลงถึงเจตนาอันแท้จริงของคุณอ้น เรียกได้ว่าด่าหมดไม่สนลูกใคร แม้จะมีผู้สนับสนุนนักวิชาการท่านนี้ไม่น้อยกับการกระทำดังกล่าว แต่หลายคนคาดการณ์ว่าอาจกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตขึ้นในภายภาคหน้า
แน่นอนว่าอดีตท่านชายเองก็มิเคยตอบโต้อะไรเลย และยังมีคิวอีเวนต์โชว์ตัวตามงานต่างๆที่มีผู้เทียบเชิญไปร่วมงานที่อาจยาวเป็นหางว่าวไปจนถึงกลางปีหน้า เมื่อคุณอ้นเองที่เลือกมาอยู่ตรงจุดนี้ แน่นอนว่าอาจเข้าใจและรับมือกับสิ่งต่างๆได้ และไม่พ้นตกเป็นเป้าการโจมตีจากทั้งสองฝั่ง โดยเฉพาะฝั่งราชภักดิ์เองที่มองว่าคุณอ้นไม่เคยห้ามอะไรเลยที่มีคนใช้ราชาศัพท์ด้วย รวมไปถึงกลุ่มที่สนับสนุนที่โพสต์ลงโซเชียลและไม่เคยแก้ไขในจุดที่ไม่ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม หากมองอีกมุมหนึ่งแล้ว บางครั้งก็มิอาจรู้เห็นได้หมดว่ามีใครกระทำอะไรบ้าง ซึ่งก็ช่วยไม่ได้แม้จะเคยบอกกล่าวไปแล้วก็ตาม ถือว่ามองในมุมมองทั้งสองฝั่งเช่นกัน
คุณอ้นเองก็ถือว่ามีช่องโหว่ใหญ่มากให้ตกเป็นเป้าของการวิพากษ์วิจารณ์และโจมตี ทั้งเรื่องชีวิตส่วนตัว และหลายสิ่งอย่างที่กำลังคลุมเครืออยู่ตอนนี้ ซึ่งกลุ่มคนรักสถาบันที่โจมตีคุณอ้น กระทำไปเพียงเพราะต้องการให้ทุกอย่างเป็นไปตามทำนองคลองธรรมในแบบที่พวกเขาเห็นว่าสมควร ไม่สนใจว่าทุกอย่างจะกระทบต่อทูลกระหม่อมพ่อมากน้อยเพียงใด เพียงแค่กำจัดคนที่เขากล่าวว่าเป็น "ลูกนอกคอก" ออกไป เรียกได้ว่า อินยิ่งกว่าคนในครอบครัวเสียอีก
ขณะที่อีกกลุ่มคนที่รักสถาบันเช่นกัน แม้มีความคิดเห็นเหมือนกันหรือไม่ก็ตาม แต่พยายามไม่พูดถึงไม่สนใจ ไม่ต่างจากสถานะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไม่อยากร่วมก่นด่าด้วยเพราะยังไงก็เป็นพระราชโอรส โดยได้ตระหนักว่าทุกอย่างสามารถกระทบพระเกียรติยศของทูลกระหม่อมได้ และเชื่อว่าในอนาคตอาจมีการจัดการไปในที่ถูกที่ควรด้วยพระบรมราชวินิจฉัยเอง และยังมีกลุ่มที่รักสถาบันและสนับสนุนคุณอ้นด้วยที่มองว่า สิ่งที่อีกกลุ่มกระทำลงไปไม่ต่างจากกลุ่มที่ต่อต้านสถาบันเลย จนแบ่งฝักแบ่งฝ่ายไม่ต่างจากทีมสนับสนุนพระราชินี และทีมพระสนม
แม้ทรงทราบความเคลื่อนไหวมาตลอดตั้งแต่แรก ครอบครัวยังไงก็เป็นครอบครัว เลือดย่อมข้นกว่าน้ำ แม้ถูกมองว่าเลือดเป็นพิษหรือไม่ก็ตาม เรื่องภายในเป็นเรื่องที่คนนอกไม่มีทางรู้และอาจคาดไม่ถึง จนถูกคาดเดาหรือใส่สีตีไข่ไปเรื่อย ซึ่งทางพระราชสำนักเองก็มิได้มีความเคลื่อนไหวอันใด เพราะยังมีหลายอย่างต้องทำในการถวายงาน โดยเฉพาะงานใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในกาลต่อไป
ทั้งนี้ สิ่งที่กลุ่มคนรักสถาบันได้กระทำลงไปต่ออดีตท่านชายนี้ แม้จะถูกมองว่าเกินเบอร์และไม่ต่างจากกลุ่มปฏิกษัตริย์นิยม กลายเป็นคำถามปลายเปิดว่า บุคคลเหล่านี้ออกตัวแรงจนไม่คิดเผื่อหรือคำนึงถึงเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นต่อจากนี้หรือไม่ หากอนาคตมิได้เป็นอย่างที่คิด พวกเขาจะทำอย่างไรต่อไป จะด่าต่อหรือก้มหน้า หรือตีเนียนยินดีต้อนรับขับสู้อย่างเต็มอุรา เกมส์จะเปลี่ยนเล็กน้อยหรือไม่ เป็นเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นขึ้นมาในปีข้างหน้านี้ที่ต้องติดตามกันต่อไป #Whiteholeพรุ่งนี้ที่สดใสรอเราอยู่ #สวัสดี
----
Since Vacharaesorn Vivacharawongse, the ex-Prince and estranged son of His Majesty King Vajiralongkorn of Thailand has permanently resided in Thailand after making his first return in over 30 years. Though he travels back and forth to the United States, he still makes his public appearance in many events throughout the country.
After all this time, he is still even more disfavoured and insulted by many of royalists apart from the anti-monarchists movements who dislike The King and the Crown. What are factors supporting this incident occurred to the ex-Prince?
When ex-Prince “Aon” made his first return, royalists were delighted to see The King’s descendant back home and were eager to see him in public engagements while his half-sister was unexpectedly admitted to the hospital. As the Princess is still hospitalised, the royal court faced the paleness after losing one of the most important and active working royal members. His return was widely expected to be back on the royal pathway again.
As he chooses to be in this place, he is still regarded as public figure and thus not a member of the royal family after his parents divorced. He is kept an eye on every single step leading to controversial and scandalous news become leaked. “Aon” now handles battles from both sides, royalists and anti-royals. It is, however, undeniable that the ex-Prince receives negative feedbacks even more from royal supporters. Why do royalists now reject this second son of the Monarch?
Shaking the Crown: Vacharaesorn is considered destabilise the Crown and the Monarchy. He was heavily criticised when he was photographed with an academician who is famously condemned as anti-royalist and republican. Royalists all disregarded whatever reasons the ex-Prince specified and have even been condemned as traitor to his own father ever since.
Pretence: Although Vacharaesorn keeps saying he is now commoner, he is still being treated like a royal, becoming another controversy discussed among the royalists. He is thus questioned if he really likes being treated like when he was a Prince. He is heavily condemned with his eagerness to be back on royal track again by his own.
War of Throne: Many royalists are concerned if he would finally get the place of ‘his younger brother’ (or half-brother). They are even worried if he is finally back to the royal family and become heir to the throne. Though there is very low possibility, it is inevitable that many royalists including anti-royals speculate the same way. Everything around him has been ‘too fit’ since The King’s daughter and eldest child has been in the hospital. He is now questioned if he has any hidden agenda upon his return.
Royalists recently exposed letters written by The King (then-Crown Prince) to the Thai Ambassador to Britain and a British school teacher about his recent divorce with his second wife and declared to strip his sons of the royal titles becoming all commoners. The letters were widely leaked many years ago, but they were firstly rejected by royalists who wished not to be involved in the personal matter, or even condemned as fake news. Now they turned out to use these letters against the ex-Prince.
Almost every day, “Aon” faces criticism from royalists, led by an academician who is known for his great loyalty to the crown. He exposes every negative aspect and ongoing controversies against the ex-Prince regardless of who he is, with a large support in social media. However, most royalists try to avoid criticising anything related to the royal family due to concern in any possible big issues which could happen afterwards.
Vacharaesorn chooses not to respond anything against the criticism and still makes his public appearance in various scheduled events. He cannot avoid being gossiped or criticised on his private life and things surrounding him which are still regarded unclear. Royalists turn out to insult the ex-Prince as they would like the ‘institution’ to be on the way they want to. Seems they can do anything to eliminate this ‘estranged son’ out of the royal cycle.
However, other royalists whether they have the same perspective with another group against the ex-Prince, try to avoid criticising him as they still regard him as The King’s son and consider anything can affect The Monarch, relating to the Lèse-majesté law that criminalises the defamation of the Monarch (so-called Section 112 in Thailand). They believe that The King can manage this matter by his own and it is not their job to do with it. Another group of royalists also support Vacharaesorn also consider things other royalists do are not different from anti-royals.
The King acknowledges this matter and everything about his son’s return from the beginning. It is, nevertheless, a personal and private matter of which the public would not exactly know what really happens in the family. It is thus speculated in many ways the people can think of. The Royal House also expresses no comment about this matter, as they might prepare for some big upcoming events.
One question raised for the royalists who try to make Vacharaesorn vanished from the cycle if something would turn out to be a big change in the future beyond their expectation. If things happened in contrast with their wishes, what they would do next? It seems to be a bit more exciting to see the drama continuing in the coming year.
https://www.facebook.com/royalworldthailand/posts/1002864151874536