วันอาทิตย์, ธันวาคม 29, 2567

The Reporters ลงพื้นที่ ฐานหนองหลวง-ว้าแดง รุกล้ำดินแดนไทย ชาวบ้านไม่อยากเห็นการสู้รบ อยากให้รัฐบาลหาวิธีการแก้ปัญหาที่ยืดเยื้อนี้ด้วย ถ้าปล่อยแบบนี้ไปนานๆ ชาวบ้านก็ไม่ไหว เพราะเข้าไปบริเวณนั้นไม่ได้ ไม่ปลอดภัย


The Reporters
13 hours ago
·
SPEACIAL:เปิดพื้นที่ฐานหนองหลวง-ว้าแดง รุกล้ำดินแดนไทย ชาวบ้านอะโก๋แสนคำลือ-ปางมะผ้า ไม่อยากเห็นการสู้รบ แต่ห่วงผลกระทบสิ่งแวดล้อม เพราะเป็นพื้นที่ต้นน้ำลาง ได้รับผลกระทบทหารว้าห้ามเข้าพื้นที่ทั้งๆที่เป็นประเทศไทย
วันที่ 28 ธ.ค.67 The Reporters ลงพื้นที่บ้านอะโก๋แสนคำลือ ต.ถ้ำลอด อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งพบที่ตั้งฐานหนองหลวงของกองกำลังว้าแดง ที่ตั้งเข้ามาในประเทศไทยประมาณ 1-2 กิโลเมตร ห่างจากแนวสันเขาที่เป็นแนวเขตแดนไทย-เมียนมา เมื่อเทียบกับพิกัดใน google earth พบว่าตั้งอยู่ในดินแดนประเทศไทย อย่างชัดเจน นอกจากฐานทหารว้าแดงที่อยู่บริเวณสันเขาอีกจุดหนึ่ง ซึ่งบริเวณนี้ไม่มีฐานทหารไทย
นายป่าตา มนตรีสถิตย์กุล ผู้ใหญ่บ้าน ม.2 บ้านแอโก๋แสนคำลือ ตำบลถ้ำลอด อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน บอกว่า เห็นการตั้งฐานหนองหลวงของกลุ่มว้าแดงมา 5-6 ปีแล้ว ที่ชาวบ้านไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่ได้ เพราะกำลังทหารว้าสั่งห้ามเข้า ชาวบ้านจึงหวาดกลัว ไม่กล้าไปหาของป่า หรือนำสัตว์เลี้ยงเข้าไป ซึ่งพื้นที่บริเวณนั้นเป็นต้นน้ำแม่น้ำลาง หลายปีที่ผ่านมาได้รับผลกระทบที่พบว่า ปลาในแม่น้ำรางน้อยลง ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่ามีการใช้สารเคมีเป็นต้นน้ำหรือไม่ และยิ่งได้รับผลกระทบมากตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ที่พบว่าทหารว้าแดงออกมาลาดตระเวนในพื้นที่โดยรอบ ทำให้ชาวบ้านที่เคยได้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ไม่สามารถเข้าไปได้ทั้งๆที่เป็นพื้นที่ประเทศไทย
“ที่จริงเขามาอยู่ตรงนั้น 5-6 ปีแล้ว ชาวบ้านก็ไม่กล้าพูดอะไร เราเข้าไปแถวนั้นไม่ได้เลย ยิ่งตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา มีทหารว้ามาลาดตระเวนแถวนั้น ชาวบ้านก็กลัว ไม่กล้าไปหาของป่า หรือเลี้ยงสัตว์ ซึ่งตรงนั้นเป็นต้นน้ำแม่น้ำลาง เราเจอปัญหาในแม่น้ำลาง ที่ปลาลดลด เพราะข้างบนใช้สารเคมีอะไร พอลงมาในน้ำก็จะกระทบกับสิ่งแวดล้อมในแม่น้ำลาง ที่เป็นน้ำสำคัญในปางมะผ้า”
ผู้ใหญ่บ้านแอโก๋แสนคำลือ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน แต่ไม่กล้าออกมาพูดอะไรเพราะเป็นพื้นที่ชายแดน และได้รับผลกระทบมากขึ้น จึงอยากให้รัฐบาลและฝ่ายความมั่นคง เร่งเจรจาหาข้อยุติอย่างสันติวิธี ไม่อยากให้มีการสู้รบ เพราะชาวบ้านก็จะเดือดร้อน แต่หากปล่อยไว้ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าภายในพื้นที่หนองหลวง ต้นน้ำลาง ซึ่งเป็นต้นน้ำสำคัญของอำเภอปางมะผ้า อาจส่งผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อมตามมาได้
สำหรับบ้านแอโก๋แสนคำลือ เป็นหมู่บ้านที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินมาเยี่ยมเยียนราษฎรเมื่อปี 2513 ชาวบ้านที่นี่จึงมีชีวิตที่ดีขึ้นและร่วมกันพัฒนาชุมชนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดทางอำเภอปางมะผ้า ได้แจ้งให้ชุมชนซักซ้อมแผนการอพยพหากเกิดสถานการณ์สู้รบ ที่เป็นแผนปกติที่ชาวบ้านไม่อยากให้เกิดขึ้น
“ตอนนี้ชาวบ้านก็เก็บของจำเป็นในกระเป๋า ถ้ามียิงกัน ก็ต้องอพยพ ชาวบ้านไม่อยากไปหรอก ไม่อยากให้รบกัน แต่ถ้าปล่อยแบบนี้ไปนานๆ ชาวบ้านก็ไม่ไหว เพราะเข้าไปบริเวณนั้นไม่ได้ ไม่ปลอดภัย ก็อยากให้รัฐบาลหาวิธีการแก้ปัญหาที่ยืดเยื้อด้วย” อาเขอะ แชตุกุ กรรมการหมู่บ้านแอโก๋แสนคำลือ กล่าวย้ำ
รายงาน : ฐปณีย์ เอียดศรีไชย
#TheReprters #เดอะรีพอร์เตอร์ #ว้าแดง #แม่ฮ่องสอน

https://www.facebook.com/TheReportersTH/posts/953117017010334