วันจันทร์, ธันวาคม 23, 2567

เปิดอาณาจักรยาเสพติดในซีเรียที่หล่อเลี้ยงระบอบอัสซาด ต่อไปนี้จะเป็นอย่างไร ผู้นำกลุ่มกบฏซีเรียจะสามารถทลายอาณาจักรยาเสพติดนี้ได้หรือไม่

นักรบฝ่ายต่อต้านซีเรียเทยาเสพติดแคปทากอน จากมอเตอร์ไฟฟ้าปลอมที่โรงงานผลิตยาแคปตากอนที่อยู่มาก่อนการล่มสลายของระบอบอัสซาด ในเมืองดูมา (Douma) ทางทิศตะวันออกของกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย เมื่อ 14 ธ.ค. 2567

อาณาจักรยาเสพติดในซีเรียที่หล่อเลี้ยงระบอบอัสซาดจะเป็นอย่างไร หลังอดีตผู้นำถูกโค่นล้ม

เอมีร์ นาเดอร์
บีบีซี อาย อินเวสติเกชันส์ (BBC Eye Investigations)
22 ธันวาคม 2024

เมื่ออาเหม็ด อัล-ชาอะรา ผู้นำกบฏซีเรีย เดินทางมาถึงกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรียและประกาศชัยชนะทันทีหลังจากปฏิบัติการทางทหารสายฟ้าแลบขยายไปทั่วประเทศและโค่นล้มการปกครองของอดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด คำกล่าวหนึ่งที่ไม่ได้รับความสนใจมากนัก คือ สิ่งที่ผู้นำกบฏอ้างถึงยาเสพติดผิดกฎหมายที่แพร่ระบาดในตะวันออกกลางในช่วงสิบปีที่ผ่านมา

"ซีเรียกลายเป็นผู้ผลิตยาเสพติดแคปทากอนรายใหญ่ที่สุดในโลก" เขากล่าว "และวันนี้ซีเรียจะชำระล้างมันออกไปด้วยพรของพระเจ้า"

แคปทากอน (Captagon) เป็นยาเม็ดคล้ายกับแอมเฟตามีน หรือยาบ้า ซึ่งส่วนใหญ่แล้วไม่ค่อยเป็นที่รู้จักจากภายนอกภูมิภาคตะวันออกกลาง

การผลิตยาดังกล่าวแพร่หลายในซีเรียท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำจากสงคราม การถูกคว่ำบาตร และสถานการณ์การอพยพชาวซีเรียจำนวนมากไปยังต่างประเทศ ทางการของประเทศเพื่อนบ้านต้องดิ้นรนเพื่อรับมือกับการลักลอบขนยาเสพติดชนิดนี้จำนวนมหาศาลข้ามพรมแดน

จากหลักฐานทั้งหมดชี้ให้เห็นว่า ซีเรียเป็นแหล่งค้ายาเสพติดแคปทากอนแหล่งหลัก ซึ่งธนาคารโลกระบุว่ามูลค่าต่อปีอยู่ที่ 5.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือราว 192,256 ล้านบาท)


ภาพมุมสูงที่ถ่ายโดยโดรนแสดงให้เห็นโรงงานผลิตยาแคปทากอน

ด้วยขนาดการผลิตยาแคปทากอนและการส่งขาย ประเด็นที่น่าสงสัย คือ การผลิตและค้ายาในระดับนี้ไม่น่าจะทำได้อย่างง่ายดายโดยแก๊งอาชญากรรมทั่วไป แต่เป็นระดับอุตสาหกรรมที่ควบคุมโดยรัฐบาลซีเรียเอง

หลายสัปดาห์หลังจากคำปราศรัยของผู้นำกบฏ อัล-ชาอะรา ภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจหลายภาพได้ปรากฏขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าข้อสงสัยดังกล่าวเป็นความจริง

จากวิดีโอการบุกค้นทรัพย์สินที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นโชว์รูมของญาติอดีตประธานาธิบดีอัสซาดซึ่งถ่ายทำไว้ได้โดยชาวซีเรีย พบว่าในห้องดังกล่าวเต็มไปด้วยยาที่ถูกผลิตและมีการบรรจุเป็นแพ็กเกจอย่างดี โดยซุกซ่อนอยู่ในผลิตภัณฑ์ยาปลอม

ฟุตภาพวิดีโออื่น ๆ ยังแสดงให้เห็นเม็ดยาจำนวนมากในสถานที่ที่ดูเหมือนเป็นฐานทัพอากาศของซีเรีย ซึ่งถูกกลุ่มกบฏจุดไฟเผา

บีบีซีสืบสวนเรื่องราวของยาบ้าแคปทากอนเพื่อผลิตสารคดีให้กับบีบีซี เวิลด์ เซอร์วิส มานานหนึ่งปี และพบว่ายาเสพติดชนิดนี้กลายเป็นที่นิยมของหนุ่มสาวผู้มั่งคั่งในประเทศอ่าวอาหรับหลายประเทศอย่างเช่น ซาอุดีอาระเบีย รวมถึงในหมู่ชนชั้นแรงงานในประเทศอย่างจอร์แดนด้วย

"ผมเริ่มเสพยาแคปทากอน ตอนอายุ 19 ปี และหลังจากนั้นชีวิตผมก็เริ่มพังทลาย" ยาสเซอร์ เยาวชนชายซึ่งอยู่ในสถานบำบัดในกรุงอัมมาน เมืองหลวงของจอร์แดน กล่าว "ผมเริ่มจากการไปสังสรรค์กับคนที่เล่นยานี้ คุณทำงาน และอยู่โดยไม่ได้กินอะไร ฉะนั้นร่างกายผมจึงพัง"

แล้วอาเหม็ด อัล-ชาอะรา ผู้นำกบฏซีเรีย และขบวนการฮายัต ทาห์รีร์ อัล-ชาม (Hayat Tahrir al-Sham - HTS) ของเขา จะจัดการกับคนที่ติดยาเสพติดในซีเรียจำนวนมากอย่างไร รวมถึงผู้เสพในภูมิภาคตะวันออกกลาง เนื่องจากยาเหล่านี้หายไปจากตลาดยาเสพติด

แคโรไลน์ โรส ผู้เชี่ยวชาญซึ่งติดตามการค้ายาเสพติดในซีเรียแห่งสถาบันนิวไลนส์ แสดงความกังวลถึงเรื่องนี้

"ความกลัวของฉันคือ พวกเขาจะปราบปรามการผลิตอย่างจริงจัง และไม่ได้ดำเนินการใด ๆ เพื่อลดความต้องการเสพ"

แต่ยังมีคำถามกว้าง ๆ ถึงเรื่องนี้ว่า การสูญเสียการค้าที่ทำกำไรมหาศาลนี้ จะส่งผลต่อเศรษฐกิจของซีเรียอย่างไร และเมื่อผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังถอนตัวออกไปแล้ว อัล-ชาอะราจะป้องกันไม่ให้อาชญากรรายอื่น ๆ ที่รออยู่ เข้ามาแทนที่พวกเขาได้อย่างไร

สงครามยาเสพติดในตะวันออกกลาง

การแพร่ระบาดของยาบ้าแคปทากอนผลักให้ตะวันออกกลางเข้าสู่สงครามยาเสพติดอย่างแท้จริง

ระหว่างที่บีบีซีถ่ายทำทหารจอร์แดนที่ตรึงกำลังอยู่ในทะเลทรายชายแดนซีเรีย เราได้เห็นว่าทหารได้เสริมกำแพงชายแดนของพวกเขาและยังได้รับทราบเกี่ยวกับเพื่อนร่วมงานที่เสียชีวิตจากการปะทะกับผู้ลักลอบขนส่งยาบ้าแคปทากอน โดยทหารจอร์แดน กล่าวหาด้วยว่าทหารซีเรียข้ามแดนมายังประเทศของพวกเขาเพื่อช่วยผู้ลักลอบขนยาด้วย

ประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค ก็ถูกรบกวนจากการค้ายาเสพติดเช่นเดียวกัน

ถุงยาเสพติดที่พบในรางน้ำหน้าบริษัทขายรถยนต์ซีเรีย ซึ่งเป็นของเครือญาติของนายอัสซาด

ในช่วงหนึ่งซาอุดีอาระเบียได้ระงับการนำเข้าผักและผลไม้จากเลบานอน เพราะเจ้าหน้าที่ตรวจพบว่ามียาบ้าแคปทากอนซุกซ่อนอยู่ในผลไม้บ่อยครั้งเช่น ทับทิม ที่ถูกคว้านไส้และมีถุงยาแคปทากอนยัดไส้อยู่ภายใน

บีบีซีได้เดินทางเข้าไปถ่ายทำที่ประเทศในตะวันออกกลาง 5 ประเทศ รวมทั้งดินแดนในซีเรียทั้งส่วนที่ฝ่ายรัฐบาลและกลุ่มกบฏยึดครอง โดยการปรึกษาหารือกับแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ และได้เข้าถึงบันทึกลับในคดีที่อยู่ในศาลของเยอรมนีและเลบานอน

บีบีซีสามารถยืนยันชื่อของกลุ่มหลัก 2 กลุ่ม ซึ่งมีส่วนร่วมในการค้ายา ได้แก่ เครือญาติของอดีตประธานาธิบดีอัสซาด และกองทัพซีเรีย โดยเฉพาะกองพลที่ 4 ที่ควบคุมโดย "มาเฮอร์" น้องชายของนายอัสซาด


ยาเสพติดถูกยัดไว้ในผลไม้

หลายคำถามต่อน้องชายอดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด

มาเฮอร์ อัล-อัสซาด อาจเป็นชายที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในซีเรีย รองจากบาชาร์ อัล-อัสซาด พี่ชายของเขา

เขาถูกคว่ำบาตรจากชาติตะวันตกหลายชาติจากการใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมในช่วงการลุกฮือของประชาชนที่เรียกร้องประชาธิปไตยเมื่อปี 2011 ซึ่งเป็นจุดชนวนให้เกิดสงครามกลางเมืองนองเลือดในเวลาต่อมา ผู้พิพากษาฝรั่งเศสยังออกหมายจับสากลต่อเขาและน้องชาย จากข้อกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการโจมตีด้วยอาวุธเคมีในซีเรียเมื่อปี 2013

จากการเข้าถึงข้อความสนทนาทางวอทส์แอปของพ่อค้ายาแคปทากอนที่ถูกคุมขังในเลบานอน บีบีซีสามารถเชื่อมโยงความเกี่ยวข้องไปถึงกองพลที่ 4 ของนายมาเฮอร์ อัล-อัสซาด และพลเอก กัสซาน บิลาล รองผู้บังคับบัญชาของหน่วยดังกล่าว

ความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องที่พบนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการยืนยันบทบาทของกองทัพซีเรียและเครือข่ายวงในของอดีตประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด

และจากภาพล่าสุดที่ได้เห็นทหารซีเรียที่เสียขวัญหนีกระเจิงโดยไม่ต่อสู้ขณะที่กลุ่มกบฏรุกคืบเข้ามา ทำให้บีบีซีนึกถึงการสัมภาษณ์กับกำลังพลคนหนึ่งของระบอบอัสซาดเมื่อปีที่แล้ว

เขาบอกบีบีซีว่า ได้รับเงินเดือนเดือนละ 30 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,029 บาท) ซึ่งสามารถใช้ซื้ออาหารให้ครอบครัวได้เพียงสามวันเท่านั้น ดังนั้น หน่วยทหารของเขาจึงเข้าไปเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมและการค้ายาแคปทากอน

ในเดือน พ.ค. 2023 องค์การสันนิบาตอาหรับ (The Arab League) ได้ตกลงที่จะรับซีเรียกลับเข้าเป็นสมาชิกอีกครั้ง หลังจากที่ถูกขับออกไปเป็นเวลา 12 ปี เนื่องจากซีเรียได้ปราบปรามการประท้วงของประชาชนอย่างรุนแรง นี่ถือเป็นชัยชนะทางการทูตของอดีตประธานาธิบดีอัสซาด ที่ใช้คำมั่นสัญญาว่าจะจัดการกับการค้ายาเสพติดแคปทากอน เป็นเครื่องมือในการฟื้นฟูสถานะทางการทูตของเขา

ผู้นำกลุ่มกบฏซีเรียจะทลายอาณาจักรยาเสพติดนี้ได้หรือไม่

ขณะนี้ ในขณะที่แกนนำกลุ่มกบฏรวบรวมอำนาจจากองคาพยพต่าง ๆ ในซีเรีย ดูเหมือนว่าพวกเขาจะระมัดระวังอย่างยิ่งในการส่งสัญญาณเชิงบวกไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่คอยจับตามอง เมื่อพวกเขาให้คำมั่นว่าจะทลายการค้ายาแคปทากอน

แต่การทลายเครือข่ายยาเสพติดอาจเป็นภารกิจที่ยากยิ่งสำหรับพวกเขาในการแย่งชิงซีเรียให้หลุดออกจากองค์กรอาชญากรรมที่ทำกำไร หลังจากที่มันได้รับการสนับสนุนจากรัฐมาเป็นเวลาหลายปี

อิสซาม อัล รีส เป็นวิศวกรคนหลักของกองทัพซีเรีย ก่อนที่เขาจะแปรพักตร์ออกมาในช่วงที่การลุกฮือต่อต้านระบอบอัสซาดเริ่มต้น หลังจากออกมาจากกองทัพเขาได้ใช้เวลาสืบสวนขบวนการค้ายาแคปทากอน เขาเชื่อว่า กลุ่มฮายัต ทาห์รีร์ อัล-ชาม (Hayat Tahrir al-Sham - HTS) ไม่จำเป็นต้องลงมือทำอะไรมากนักเพื่อหยุดการค้ายาในช่วงแรก "เพราะผู้เล่นตัวหลักได้หนีไปแล้ว" และตอนนี้การส่งออกยาแคปทากอนก็ลดลงไปอย่างมากแล้ว อย่างไรก็ดี เขาเตือนว่า "ผู้เล่นคนใหม่" อาจรออยู่ไม่ไกลที่จะเข้ามาควบคุม


ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ถูกใช้ในการซุกซ่อนยาเสพติด

นี่จะเป็นปัญหาอย่างยิ่งหากไม่มีการจัดการด้านอุปสงค์หรือด้านคนซื้อ ผู้เสพด้วย แคโรไลน์ โรส ผู้เชี่ยวชาญซึ่งติดตามการค้ายาเสพติดในซีเรียแห่งสถาบันนิวไลนส์ บอกว่ามีหลักฐานน้อยมากที่แสดงให้เห็นถึงการลงทุนในการบำบัดผู้เสพยาในช่วงที่กลุ่ม HTS เข้าควบคุม จ.อิดลิบ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย เธอบอกว่า "ภาพของความพยายามในการจัดการกับการเสพยาแคปทากอนนั้นอ่อนด้อยมาก"

เธอยังกล่าวอีกว่า มีการทะลักเข้ามาของยาเสพติดอีกชนิดหนึ่งที่ถูกลักลอบขนส่งผ่านมาทางซีเรีย

"ฉันคิดว่าคนเสพจำนวนมากจะมองหายาไอซ์ (crystal meth หรือ crystal methamphetamine) มาเสพแทน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เสพที่อยู่ตัวกับแคปทากอนแล้ว และต้องการยาเสพติดชนิดอื่นที่แรงกว่า"

ทางด้านอดีตทหารซีเรียที่ติดตามการค้ายาแคปทากอนชี้ว่า ปัญหาอีกอย่างหนึ่งคือ เรื่องการเงิน เพราะ "ชาวซีเรียต้องการใช้เงิน"

ความหวังของเขาคือ นานาชาติจะช่วยป้องกันไม่ให้ชาวซีเรียเข้าสู่วงการค้ายา ผ่านความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และการผ่อนคลายการคว่ำบาตร

ทางด้านผู้เชี่ยวชาญโรส แย้งว่าผู้นำคนใหม่จำเป็นต้องหา "การขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจชุดใหม่และทางเลือกอื่น เพื่อส่งเสริมให้ชาวซีเรียมีส่วนร่วมในเศรษฐกิจทางการที่ถูกกฎหมาย"

เธอบอกด้วยว่า ในขณะที่นายใหญ่หลบหนีไปแล้ว คนจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและลักลอบค้ายายังคงอยู่ในประเทศ

"นิสัยเดิม ๆ นั้น เลิกยาก" แคโรไลน์ โรส ระบุ

รายงานเพิ่มเติมโดย จอร์จ ไรท์

https://www.bbc.com/thai/articles/cql5k5dv5y0o