ล่มแล้ว จอมเผด็จการซีเรีย บาสชาร์ อัล-อัสสาด เมื่อกองกำลังฝ่ายต่อต้านบุกเข้าถึงกรุงดามัสกัสโดยปราศจากการทัดทาน ของกองทัพซีเรีย ซึ่งแถลงในเวลาต่อมาว่ารัฐบาลอัสสาดสิ้นสุดลงแล้ว ไม่มีปฏิบัติการใดๆ ของกองทัพ
กองบัญชาการทหารประกาศด้วยว่า อัสสาดได้หนีออกจากดามัสกัสไปแล้ว มีรายงานไม่ยืนยันทางการว่าอัสสาดขึ้นเครื่องมุ่งสู่ดินแดนชายฝั่งมหาสมุทร อันเป็นถิ่นบ้านเกิดชนชาวอัลลาไว้ท์ของอัสสาด แต่แล้วเครื่องวกกลับย้อนทางเดิม
จากนั้นสัญญานเครื่องบินลำที่คาดว่ามีอัสสาดอยู่บนนั้น พลันหายไปจากจอเรดาร์ เป็นที่คาดเดากันว่าอัสสาดเสียชีวิตขณะเครื่องบินตก อาจจะเพราะถูกยิงโดยกำลังของพวกก่อการร้าย อย่างไรก็ดีในกรุงดามัสกัส ประชาชนนับพันออกมาเฉลิมฉลองกันบนท้องถนน
คาดว่า อาบู โมฮัมเหม็ด อัล-โกลานิ หัวหน้ากองกำลัง ฮายัด ทาเรอร์ อัล-แชม (HTS) จะไม่ยึดครองซีเรียอย่างโหดเหี้ยม การเปลี่ยนมืออำนาจจะเป็นไปอย่างละม่อม จอสชัว แลนดิส ผู้เชี่ยวชาญเรื่องซีเรีย มหาวิทยาลัยโอกลาโฮมาชี้
“โกลานิคงไม่อยากให้เกิดเหตุโกลาหล เหมือนที่เกิดขึ้นในอิรัก เมื่อกำลังทหารอเมริกันเข้าไปโค่น ซัดดัม ฮุสเซน เมื่อปี ค.ศ.๒๐๐๓ พวกเขาจำเป็นต้องฟื้นฟูซีเรียขึ้นมาใหม่ และจำเป็นต้องให้สหรัฐและยุโรปยุติการแซงชั่น ปิดกั้น” ที่เป็นมาครึ่งศตวรรษ
ซีเรียตกอยู่ในภาวะสงครามกลางเมืองมาตั้งแต่ ค.ศ.๒๐๑๑ เมื่อเริ่มมีการลุกฮือขึ้นต่อต้านการปกครองโดยครอบครัวเผด็จการอัสสาด ก่อให้เกิดกองกำลังต่อต้านมากมายหลายกลุ่ม และมีผู้หลบลี้หนีภัยไปอยู่ตามประเทศเพื่อนบ้านนับล้านคน
โดยเฉพาะกลุ่มฮายัดทาเรอร์ฯ นี้ก็ก่อกำเนิดจากกลุ่มอิสลามย่อยๆ เครือข่ายอัลเคด้า ต่อมาผู้นำประกาศตัดเยื่อใยกับขบวนการจิฮาส แล้วสามารถรวบรวมกำลังโตขึ้นจนกระทั่งสามารถยกพลจากฟากตะวันตก รบชนะและรุกคาดเรื่อยมา
ฝ่ายรัฐบาลอัสสาดที่ได้รับการสนับสนุนโดยรัสเซียและอิหร่าน ทั้งอ่อนแรง เสียขวัญ และเอือมระอากับครอบครัวเผด็จการอัสสาด แม้กระทั่งนายกรัฐมนตรี โมฮัมหมัด กาซี อัล-จาลาลิ ประกาศให้ความร่วมมือในการเปลี่ยนผ่านอำนาจกับผู้ยึดครอง