Muhammad Ilyas Yahprung
11 hours ago
·
ว่าด้วย "แนวคิดอันตราย"
ช่วงหลังเห็นมิตรสหาย พูดถึงแนวคิดนั้น แนวคิดนี้อันตราย ความเชื่ออย่างนั้น ความเชื่ออย่างนี้อันตราย เลยอยากจะเขียนเรื่องนี้ซักนิด
มโนทัศน์เรื่อง "แนวคิดอันตราย" เป็นแนวคิดทางศาสนจักรในยุคมืด (Dark Age) และดำเนินต่อเนื่องมายังยุคกลาง (Middle Age)
สารตั้งต้นของแนวคิดนี้คือความเชื่อที่ว่า "อื่นไปจาก แนวคิด ความเห็น คำอธิบาย ทางศาสนาจากบาทหลวงของศาสนจักรอันมีศูนย์กลางอยู่ที่วาติกันถือว่าความคิด คำอธิบายนั้น เป็นความคิดผิดเพี้ยน นอกรีต (heretic) อันตราย และ สามารถฆ่าทิ้งผู้ที่มีความคิดดังกล่าวได้ แนวคิดนี้เป็นที่มาของสงครามศักดิสิทธิ์ (Holy War)
ในอดีต คำอธิบายทางศาสนาหรือเทววิทยา ใช้อธิบายไม่ใช่เฉพาะตัวบทในคัมภีร์เท่านั้น แต่ศาสนาเข้าไปอธิบายปรากฏการณ์ทุกอย่างด้วย ทั้งปรากฏการณ์ทางการเมือง สังคม เศรษฐกิจ เช่น ถ้าเกิด โรคระบาด โรคห่า ก็อธิบายว่าพระเจ้าลงโทษเพราะสังคมมนุษย์เต็มไปด้วยการทำบาป โดยไม่ได้ศึกษาหลักฐานเชิงประจักษ์ (empirical) ในทางวิทยาศาสตร์ ว่าโรคห่าเกิดจากเชื้อโรคอะไร เติบโต แพร่เชื้ออย่างไร ภายใต้สภาพทางสิ่งแวดล้อมแบบไหน
พวกยุโรป รบกันเป็นร้อยๆปี เพราะแนวคิดเรื่อง "ความคิดอันตราย/ ความคิดนอกรีต"
ต่อมาพวกเขาได้ตระหนักถึง "อันตราย" ของความคิดเรื่อง"แนวคิดอันตราย" เพราะสังคมพังพินาศ ผู้คนฆ่ากันเป็นผักเป็นปลา จนนำมาซึ่งข้อสรุปว่า "ใครจะเชื่อจะศรัทธายังงัยให้เป็นเสรีภาพทางศาสนา หรือ เรียกว่าแนวคิดเรื่อง freedom of religious beliefs
การรบกันเพราะความคิด ความเชื่อ ความเห็นทางศาสนาไม่ตรงกัน หรืออรรถาธิบายตัวบททางศาสนาต่างกัน จึงค่อยๆ หมดไป ทำให้สังคมได้ไปคิด ไปทำ ไปพัฒนา อย่างอื่น
ความคิดเรื่อง เสรีภาพทางศาสนา เป็นรากฐานสำคัญ ทำให้ยุโรป ออกมาจากยุคมืด และพัฒนาจนกลายเป็นอารยธรรมที่ยิ่งใหญ่ มีอิทธิพลเหนือพวกเราอยู่จนกระทั่งปัจจุบัน
อาณาจักรมุสลิมก็เผชิญกับการเกิดขึ้นของแนวคิดดังกล่าว ที่เป็นที่รู้จักและเป็นปัจจัยสำคัญในการเกิดสงครามกลางเมือง (สงครามฟิตนะฮ์) อันทำให้เกิดการแตกออกเป็น กลุ่มเป็นก้อน ลัทธิ และความเป็นศัตรูตามล้างตามฆ่ากันเรื่อยมา คือแนวคิดของ "คอวาริจญ์"
กล่าวโดยสรุป แนวคิดนี้ถือว่า "ผู้ที่มีความเชื่อต่างไปจากคำอธิบายของคอวาริจ ถือว่า ไม่ใช่เป็นมุสลิมผู้ศรัทธา "เลือดของคนเหล่านั้นเป็นที่อนุญาต (เป็นสำนวนอาหรับ หมายถึง อนุญาตให้ฆ่าทิ้ง)"
แม้ในอาณาจักรมุสลิมจะมีความยืดหยุ่น และมีขันติธรรมต่อความเห็นต่างทางศาสนามากกว่าศาสนจักรในยุโรป แต่เมื่อใดก็ตามที่ การเมืองมีความตึงเครียด มีการแข่งขัน แบ่งฝักแบ่งฝ่ายแย่งชิงอำนาจกันอย่างเข้มข้น (ซึ่งเกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ) ต่างฝ่ายต่างก็ ชี้ไปที่อีกฝ่ายว่า เป็นพวกมีแนวคิดอันตราย/ แนวคิดแบบนี้อันตราย/ พวกความเชื่อ (อากีดะ) ผิดเพี้ยน อันตราย
การประกอบสร้างอีกฝ่าย (ด้วยคำอธิบายทางศาสนา) ว่ามีแนวคิดอันตราย ผิดเพี้ยน ทำให้อีกฝ่ายเป็นบุคลอันตราย สังกัดขบวนการอันตราย เป็นการลดคุณค่าความเป็นมนุษย์ของอีกฝ่าย ทำให้มีความชอบธรรมในการใช้ความรุนแรง ทำการปราบปราม ทรมาน ฆ่าทิ้ง (เพราะเป็นบุคลอันตราย)
เราจึงเห็น การฆ่า จับกุม ทรมาน ขังคุก อย่างกว้างขวางเป็นระบบ โหดเหี้ยม ในโลกมุสลิม ในซีเรีย อียิปต์ อิรัก ซาอุดิอาระเบีย ปากีสถาน อิหร่าน ฯลฯ
ยุโรปและอารยธรรมตะวันตก ละทิ้งความคิดเหล่านี้ไปแล้ว
แต่โลกมุสลิมและสังคมมุสลิมยังคงจมปลักอยู่กับ มโนทัศน์เดิม
เราเคยตั้งคำถามหรือไม่ว่าเหตุใดประเทศมุสลิม จึงเต็มไปด้วยนักโทษทางความคิด นักกิจกรรม ปัญญาชน นักวิชาการศาสนา คนหนุ่มสาว เป็นคุกที่โหดร้ายที่สุดในโลกใบนี้
มีระบบความเชื่อใด ที่หนุนหลัง ให้ความชอบธรรมกับ ความโหดเหี้ยมนี้?
ในการบรรยายทางศาสนาที่ โรงเรียนสอนศาสนาแห่งหนึ่ง ในกรุงเทพมหานคร มีนักบรรยายคนหนึ่งที่เป็นที่รู้จักบรรยายศาสนาอย่างเผ็ดร้อน อ้างคำพูดของ อิบนุ ตัยมียะ (นักวิชาการศาสนายุค ศตวรรษที่ 13) บอกว่าใครที่เชื่อว่าพระเจ้าประทับอยู่บนบรรลัง เลือดของเขาเป็นที่ฮาลาล (อนุญาตให้ฆ่าทิ้งได้) นี่ถ้าเราอนุญาตให้มีการพกปืนและมีกองกำลังประจำตัวเช่นในอดีต และมีการเมืองหนุนหลัง คงได้ฆ่ากันเลือดท่วม
ทางแก้ในเรื่องนี้คือ เมื่อเราไม่เห็นด้วย ยืนยัน นั่งยัน นอนยัน ว่าแนวคิดของเราถูกต้องที่สุด (ซึ่งต่างฝ่ายต่างยืนยัน) ประโยคที่ต้องใช้ ควรเป็น แนวคิดของฝ่ายที่เราไม่เห็นด้วย "มีข้อบกพร่อง" หรือ"ขาดเหตุผล ตรรกะ" หรือ "มีความผิดพลาดในเชิงข้อเท็จจริง" หรือ "เป็นการอรรถาธิบายหรือเข้าใจตัวบทอย่างผิดๆ" หรือ "ขาดความเข้าใจบริบทแวดล้อม" หรือ "ไม่มีตัวบทรองรับ" หรือ " ไม่ใช่แนวทางการอธิบายของปราชญ์ส่วนใหญ่ในอดีตและปัจจุบัน"
แทนการ ใช้คำหรือมโนทัศน์ ว่า "อันตราย ผิดเพี้ยน นอกรีต" (heretic) ซึ่งไม่ใช่แค่ลดคุณค่าความเป็นมนุษย์เท่านั้น มันทำให้มองข้ามความเป็นมนุษย์ไปเลย
แข่งขันกันอธิบาย ศึกษาค้นคว้า ถกเถียงให้ดีที่สุด ถ้าไม่มุ่งเอาชีวิตผู้อื่น หรือใช้ความรุนแรง ไม่มีแนวคิดใดเป็นอันตราย
https://www.facebook.com/muhammadilyas.yahprung/posts/9160300334027055