ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
20h
"เอ่ยหนึ่งประโยคสั้นๆ ขณะกำลังเมาและถูกถ่ายคลิปไปแจ้งความ" แต่ถูกศาลทหารพิพากษาจำคุก 5 ปี
.
ตั้งแต่ก่อนยังไม่มีคำพิพากษา #พลทหารเมธิน ผู้ต้องขังคดี ม.112 ในเรือนจำทหาร ถูกให้ใส่ตรวนเหล็กหนักกว่า 3 กก. ถ่วงลากตลอด 24 ชั่วโมง นานกว่า 3 เดือนแล้ว ตั้งแต่ถูกขังในชั้นสอบสวน จนถึงตอนนี้ที่ศาลมีคำพิพากษาแล้วก็ยังไม่รู้เลยว่าจะถูกปลดตรวนที่พันธนาการอยู่ออกเมื่อใด
.
จากการถูกตรวน ตามมาด้วยบาดแผล-รอยฟกช้ำบริเวณข้อเท้าจา่กการข่วนและเสียดสีของตรวนเหล็ก ส่งผลให้เคลื่อนไหวลำบาก โดยเฉพาะเวลาต้องทำงานกลางแจ้งในเรือนจำ รวมถึงก่อให้เกิดความรู้สึกด้อยค่า ถูกละเมิดความเป็นมนุษย์ซ้ำซ้อนยิ่งขึ้นไปอีก
.
ย้อนกลับไปตั้งแต่เมธินถูกขังในคดี ม.112 ที่เรือนจำ มทบ.11 จ.นครปฐม (คุกทหาร) เขาต้องเผชิญกับช่องโหว่วของกระบวนการยุติธรรมหลายอย่างด้วยกัน
.
1. เรือนจำไม่ให้โทรติดต่อหรือเขียนจดหมายตอบครอบครัว รวมถึงไม่ให้ครอบครัวเข้าเยี่ยม โดยอ้างเหตุผลเรื่องสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
.
2. เมธินถูกล่ามตรวนด้วยห่วงเหล็กและโซ่เหล็กที่มีน้ำหนักรวมกว่า 3 กิโลกรัม ตลอด 24 ชั่วโมง สร้างภาระเกินจำเป็น ละเมิดความเป็นมนุษย์ แม้จะไม่มีพฤติการณ์หลบหนีก็ตาม
.
3. กระบวนการยุติธรรมของศาลทหารแตกต่างจากศาลพลเรือน โดยเฉพาะไม่มี 'กระบวนสืบเสาะ' อันเป็นขั้นตอนสำคัญที่ศาลใช้พิจารณาประกอบ เพื่อบรรเทาโทษหรือรอการลงโทษในคดีต่างๆ ได้
.
4. เมธินถูกพาตัวขึ้นศาลเพียง 2 ครั้ง ในครั้งที่ 2 ศาลได้อ่านคำพิพากษาต่อทันทีอย่างรวดเร็วในนัดสอบให้การ ซึ่งเมธินได้ให้การรับสารภาพ
.
เราชวนย้อนอ่านบันทึกเหตุการณ์ในวันที่ 11 ส.ค. 2565 ซึ่งเป็นนัดสอบคำให้การในคดีนี้ ซึ่งต่อมาเพียงชั่วอึดใจศาลได้อ่านคำพิพากษาต่อทันที แม้เป็นวันที่พลทหารเมธินขึ้นศาลครั้งที่ 2 ตั้งแต่ถูกดำเนินคดีและถูกขังนานกว่า 4 เดือน วันที่ได้พบหน้าครอบครัวเป็นครั้งที่ 2 เช่นกัน และเป็นวันเดียวกันที่กระบวนยุติธรรมของศาลทหารเร่งรีบผลักเขาเข้าสู่กรงขังอีกครั้งแบบถาวร
อิสรภาพถูกพราก
.
ความฝันหล่นหาย
.
ถูกตีตราซ้ำซ้อนด้วยโซ่ตรวน
.
ถูกจองจำในแดนที่เหมือนดั่งเขาวงกต
.
ไม่ให้ติดต่อครอบครัว
.
ไม่รู้ความเป็นไปของวันคืน
.
"ทั้งหมดเกิดขึ้นเพียงเพราะเอ่ยหนึ่งประโยคสั้นๆ ขณะกำลังเมาและถูกถ่ายคลิปไปแจ้งความ"
.
อ่านบันทึกจากศาลทหาร ในวันที่ศาลพิพากษาจำคุก 5 ปี กับเมธิน: https://tlhr2014.com/archives/47677
ถูกให้ใส่ตรวนตั้งแต่ศาลยังไม่พิพากษาว่าผิดจริง นานกว่า 3 เดือนแล้ว จนตอนนี้ยังไม่มีวี่แววว่าจะถูกปลดออก
.
เมธินบอกว่า ตอนแรกที่ถูกคุมขังในคดีนี้ ตั้งแต่ 19 มี.ค. 2565 เขาถูกให้ใส่ห่วงแหวนเพียง 1 ห่วง ที่ข้อเท้าข้างซ้าย โดยไม่มีการถูกให้ใส่โซ่ตรวนด้วย
.
แต่เมื่อประมาณเดือน มิ.ย. 2565 เมธินถูกโยงกับเหตุทะเลาะวิวาทกันของกลุ่มผู้ต้องขังในเรือนจำ ตั้งแต่นั้นเขาจึงถูกลงโทษให้ใส่ห่วงแหวนที่ข้อเท้าข้างขวาเพิ่มอีกข้างหนึ่ง พร้อมกับถูกให้ใส่โซ่ด้วย เป็นเวลาตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่ตื่นนอน อาบน้ำ ทำงานขุดดิน และกลับมาเข้านอนจนลืมตาตื่นอีกครั้ง
.
จากเหตุทะเลาะวิวาทครั้งนั้นมีผู้ต้องขังถูกลงโทษให้ใส่ตรวน รวมทั้งสิ้น ประมาณ 11 คน
.
.
*** ตั้งแต่กลางเดือน มิ.ย. จนถึงตอนนี้ เป็นเวลานานเกือบ 3 เดือนแล้วที่เขาถูกล่ามตรวน และไม่รู้ว่าจะปลดออกเมื่อใด ***
เมื่อครั้งพบเมธินที่ศาลทหาร เราก้มลงไปจับตรวนและวัดดูขนาดของมันอย่างเร็วๆ พบว่า
.
ห่วงเหล็ก
.
ห่วงเหล็กที่ข้อเท้าทั้งสองข้างหนาประมาณ 1 เซนติเมตร ปลายทั้งสองด้านของห่วงเหล็กไม่บรรจบสนิทกัน แต่ยาวเหลื่อมกันไปประมาณ 7 เซนติเมตร
.
โซ่เหล็ก
.
โซ่เหล็กที่ร้อยระหว่างห่วง ยาวประมาณครึ่งวาได้ แต่ละห่วงเล็กของเส้นโซ่เป็นเหล็กหนายาวประมาณ 8 เซนติเมตร หนาประมาณ 2 เซนติเมตร เฉพาะโซ่ เมธินบอกว่ามีน้ำหนักประมาณ 2.5 กิโลกรัม ส่วนห่วงเหล็กทั้งสองข้างน้ำหนักรวมกัน ประมาณ 0.5 กิโลกรัม
.
นั่นหมายความว่า เขาถูกถ่วงลากด้วยตรวนที่มีหนักกว่า 3 กิโลกรัม ตลอดเวลา
.
เมื่อมองให้ดีอีก พบว่าเหนือตาตุ่มขาข้างซ้ายปรากฏเป็น #รอยแผลถลอก รอบๆ แผลผิวเปลี่ยนเป็นสีม่วงคล้ำ ซึ่งเกิดจากการเสียดสีและกระแทกของห่วงเหล็ก
.
เมธินจึงต้องก้าวเดินแปลกๆ ในลักษณะคล้ายขากะเผลก เพื่อลดแรงกระแทกของห่วงเหล็กกับข้อเท้า
.
การต้องอยู่กับสิ่งแปลกปลอม ซึ่งเป็นโลหะหนัก 3 กิโลกรัมตลอดเวลานี้ ทำให้เขาปรับตัว หาวิธีจำใจอยู่กับมันให้ได้
.
อย่างแรก เมื่ออยู่ในเรือนจำเขาจะใช้เศษผ้าจากเสื้อผ้าตัวเก่ามาพันรอบๆ ข้อเท้าเพื่อป้องกันไม่ให้ได้รับบาดเจ็บจากการเสียดสีและกระแทกของตรวน
.
อย่างที่สอง เมธินใช้เศษผ้ายาวคล้ายเชือก มัดเป็นปมระหว่างกลางโซ่ เวลาเดินเขาจะรวบดึงเชือกผ้าที่ผูกโซ่ขึ้นมาอยู่บริเวณเหนือเอว พร้อมก้าวเดินไปด้วย เพื่อรับน้ำหนักโซ่และกันมือลื่นจากโซ่
.
เชื่อว่าใครๆ ก็รู้ว่า เมื่อเราจับของที่เป็นโลหะนานๆ มือจะเริ่มมีเหงื่อออกและทำให้ลื่นได้ และนี่คือการแก้ปัญหาของเมธิน
.
อย่างสุดท้าย เขาลงมือขัดตรวนให้ไร้สนิม เพื่อลดแรงเสียดทานของมันไม่ให้ข่วนสร้างแผลได้ และหากมีแผลเกิดขึ้นจริง ก็จะได้ไม่มีสนิม มาทำให้แผลบานปลายกลายเป็นบาดทะยักได้
.
เมธินขัดตรวนเองจนวาว เพื่อลดแผล-ป้องกันบาดทะยัก
.
“ผู้คุมทำตรวนให้ใหม่รึเปล่า ทำไมมันดูใหม่จัง”
.
“ผมขัดเอา” เมธินบอก
.
เขาเล่าว่า ตรวนที่ล่ามอยู่นี้ตอนแรกเป็นแค่เหล็กเก่าธรรมดา ขึ้นสนิมสีน้ำตาลเขรอะ แต่เขามักจะใช้เวลาขัดมันอยู่เสมอตอนอาบน้ำ ด้วยวิธีดึงตรวนขึ้นแล้วฟาดมันเข้าด้วยกัน ให้เหล็กกระทบกันแรงๆ นับสิบๆ ครั้ง เขาเรียกวิธีนี้ว่า ‘การตีตรวน’ เพื่อตีสนิมให้หลุดออก จากนั้นก็จะล้างด้วยน้ำ ตอนกลางวัน เมื่อมีเวลาว่างจากการทำงานเขาก็จะใช้กระดาษทรายขัดตรวนช่วยอีกวิธีหนึ่ง
.
จนตอนนี้แทบไม่รู้เลยว่าตรวนที่ล่ามเมธินอยู่เคยเป็นเหล็กเก่าขึ้นสนิมเขรอะมาก่อน
.
การขัดให้ตรวนขึ้นมันและแวววาวก็เป็นอีกวิธีหนึ่งเพื่อลดการบาดเจ็บ เพราะยิ่งมีสนิมเยอะ พื้นผิวของตรวนก็จะยิ่งขรุขระและเป็นตัวการสร้างบาดแผลได้ ทั้งเมื่อเกิดแผลบริเวณข้อเท้า สนิมก็อาจทำให้เป็นบาดทะยักได้
ยกเลิก 112
.
เมธินเห็นด้วยกับข้อเรียกร้อง "ให้ยกเลิกมาตรา 112" เพราะเป็นข้อกฎหมายที่ให้อำนาจประชาชนคนไหนไปแจ้งความเอาผิดก็ได้ คนบางกลุ่มจึงนำไปใช้เป็นเครื่องมือเพื่อกลั่นแกล้งผู้ที่เห็นต่างทางการเมือง
.
สุดท้ายเมธินย้ำว่ามาตรา 112 ระวางโทษจำคุก 3-15 ปี ซึ่งเป็นโทษที่สูงเกินไป
.
“ผมเห็นด้วยนะ ที่ให้ยกเลิก 112 โทษมันสูงเกินไปมาก ผมพูดแค่ประโยคเดียว แต่ร้ายแรงเหมือนไปฆ่าคนตาย” เมธินบอก
.
อีกหนึ่งสิ่งที่ถูกพรากไปพร้อมกับอิสรภาพ นั่นคือ ‘ความฝัน’ ความฝันที่เมธินวาดหวังไว้ว่า ในอนาคตอันใกล้นี้อยากจะเลื่อนชั้นขึ้นไปเป็น ‘ทหารยศนายสิบ’ ซึ่งเป็นความฝันที่มีมาแต่เด็ก แต่เมื่อเขากลายเป็น ‘นักโทษเด็ดขาด’ ที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว เมธินจึงจะไม่สามารถรับราชการได้ตลอดชีวิต
.
อิสรภาพถูกพรากไป ความฝันหล่นหาย ถูกตีตราละเมิดความเป็นมนุษย์ซ้ำด้วยโซ่ตรวนตั้งแต่ก่อนศาลยังไม่พิพากษาว่ามีความผิด ถูกจองจำในแดนที่เหมือนดั่งเขาวงกต ไม่ให้ติดต่อครอบครัว ไม่รู้ความเป็นไปของวันคืน
.
.
"เพียงเพราะเอ่ยหนึ่งประโยคสั้นๆ ขณะกำลังเมาและถูกถ่ายคลิปไปแจ้งความ"
.
อ่านบันทึกจากศาลทหาร ในวันที่ศาลพิพากษาจำคุก 5 ปี กับเมธิน: https://tlhr2014.com/archives/47677
.
เมธินบอกว่า ตอนแรกที่ถูกคุมขังในคดีนี้ ตั้งแต่ 19 มี.ค. 2565 เขาถูกให้ใส่ห่วงแหวนเพียง 1 ห่วง ที่ข้อเท้าข้างซ้าย โดยไม่มีการถูกให้ใส่โซ่ตรวนด้วย
.
แต่เมื่อประมาณเดือน มิ.ย. 2565 เมธินถูกโยงกับเหตุทะเลาะวิวาทกันของกลุ่มผู้ต้องขังในเรือนจำ ตั้งแต่นั้นเขาจึงถูกลงโทษให้ใส่ห่วงแหวนที่ข้อเท้าข้างขวาเพิ่มอีกข้างหนึ่ง พร้อมกับถูกให้ใส่โซ่ด้วย เป็นเวลาตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่ตื่นนอน อาบน้ำ ทำงานขุดดิน และกลับมาเข้านอนจนลืมตาตื่นอีกครั้ง
.
จากเหตุทะเลาะวิวาทครั้งนั้นมีผู้ต้องขังถูกลงโทษให้ใส่ตรวน รวมทั้งสิ้น ประมาณ 11 คน
.
.
*** ตั้งแต่กลางเดือน มิ.ย. จนถึงตอนนี้ เป็นเวลานานเกือบ 3 เดือนแล้วที่เขาถูกล่ามตรวน และไม่รู้ว่าจะปลดออกเมื่อใด ***
เมื่อครั้งพบเมธินที่ศาลทหาร เราก้มลงไปจับตรวนและวัดดูขนาดของมันอย่างเร็วๆ พบว่า
.
ห่วงเหล็ก
.
ห่วงเหล็กที่ข้อเท้าทั้งสองข้างหนาประมาณ 1 เซนติเมตร ปลายทั้งสองด้านของห่วงเหล็กไม่บรรจบสนิทกัน แต่ยาวเหลื่อมกันไปประมาณ 7 เซนติเมตร
.
โซ่เหล็ก
.
โซ่เหล็กที่ร้อยระหว่างห่วง ยาวประมาณครึ่งวาได้ แต่ละห่วงเล็กของเส้นโซ่เป็นเหล็กหนายาวประมาณ 8 เซนติเมตร หนาประมาณ 2 เซนติเมตร เฉพาะโซ่ เมธินบอกว่ามีน้ำหนักประมาณ 2.5 กิโลกรัม ส่วนห่วงเหล็กทั้งสองข้างน้ำหนักรวมกัน ประมาณ 0.5 กิโลกรัม
.
นั่นหมายความว่า เขาถูกถ่วงลากด้วยตรวนที่มีหนักกว่า 3 กิโลกรัม ตลอดเวลา
.
เมื่อมองให้ดีอีก พบว่าเหนือตาตุ่มขาข้างซ้ายปรากฏเป็น #รอยแผลถลอก รอบๆ แผลผิวเปลี่ยนเป็นสีม่วงคล้ำ ซึ่งเกิดจากการเสียดสีและกระแทกของห่วงเหล็ก
.
เมธินจึงต้องก้าวเดินแปลกๆ ในลักษณะคล้ายขากะเผลก เพื่อลดแรงกระแทกของห่วงเหล็กกับข้อเท้า
.
การต้องอยู่กับสิ่งแปลกปลอม ซึ่งเป็นโลหะหนัก 3 กิโลกรัมตลอดเวลานี้ ทำให้เขาปรับตัว หาวิธีจำใจอยู่กับมันให้ได้
.
อย่างแรก เมื่ออยู่ในเรือนจำเขาจะใช้เศษผ้าจากเสื้อผ้าตัวเก่ามาพันรอบๆ ข้อเท้าเพื่อป้องกันไม่ให้ได้รับบาดเจ็บจากการเสียดสีและกระแทกของตรวน
.
อย่างที่สอง เมธินใช้เศษผ้ายาวคล้ายเชือก มัดเป็นปมระหว่างกลางโซ่ เวลาเดินเขาจะรวบดึงเชือกผ้าที่ผูกโซ่ขึ้นมาอยู่บริเวณเหนือเอว พร้อมก้าวเดินไปด้วย เพื่อรับน้ำหนักโซ่และกันมือลื่นจากโซ่
.
เชื่อว่าใครๆ ก็รู้ว่า เมื่อเราจับของที่เป็นโลหะนานๆ มือจะเริ่มมีเหงื่อออกและทำให้ลื่นได้ และนี่คือการแก้ปัญหาของเมธิน
.
อย่างสุดท้าย เขาลงมือขัดตรวนให้ไร้สนิม เพื่อลดแรงเสียดทานของมันไม่ให้ข่วนสร้างแผลได้ และหากมีแผลเกิดขึ้นจริง ก็จะได้ไม่มีสนิม มาทำให้แผลบานปลายกลายเป็นบาดทะยักได้
.
เมธินขัดตรวนเองจนวาว เพื่อลดแผล-ป้องกันบาดทะยัก
.
“ผู้คุมทำตรวนให้ใหม่รึเปล่า ทำไมมันดูใหม่จัง”
.
“ผมขัดเอา” เมธินบอก
.
เขาเล่าว่า ตรวนที่ล่ามอยู่นี้ตอนแรกเป็นแค่เหล็กเก่าธรรมดา ขึ้นสนิมสีน้ำตาลเขรอะ แต่เขามักจะใช้เวลาขัดมันอยู่เสมอตอนอาบน้ำ ด้วยวิธีดึงตรวนขึ้นแล้วฟาดมันเข้าด้วยกัน ให้เหล็กกระทบกันแรงๆ นับสิบๆ ครั้ง เขาเรียกวิธีนี้ว่า ‘การตีตรวน’ เพื่อตีสนิมให้หลุดออก จากนั้นก็จะล้างด้วยน้ำ ตอนกลางวัน เมื่อมีเวลาว่างจากการทำงานเขาก็จะใช้กระดาษทรายขัดตรวนช่วยอีกวิธีหนึ่ง
.
จนตอนนี้แทบไม่รู้เลยว่าตรวนที่ล่ามเมธินอยู่เคยเป็นเหล็กเก่าขึ้นสนิมเขรอะมาก่อน
.
การขัดให้ตรวนขึ้นมันและแวววาวก็เป็นอีกวิธีหนึ่งเพื่อลดการบาดเจ็บ เพราะยิ่งมีสนิมเยอะ พื้นผิวของตรวนก็จะยิ่งขรุขระและเป็นตัวการสร้างบาดแผลได้ ทั้งเมื่อเกิดแผลบริเวณข้อเท้า สนิมก็อาจทำให้เป็นบาดทะยักได้
ยกเลิก 112
.
เมธินเห็นด้วยกับข้อเรียกร้อง "ให้ยกเลิกมาตรา 112" เพราะเป็นข้อกฎหมายที่ให้อำนาจประชาชนคนไหนไปแจ้งความเอาผิดก็ได้ คนบางกลุ่มจึงนำไปใช้เป็นเครื่องมือเพื่อกลั่นแกล้งผู้ที่เห็นต่างทางการเมือง
.
สุดท้ายเมธินย้ำว่ามาตรา 112 ระวางโทษจำคุก 3-15 ปี ซึ่งเป็นโทษที่สูงเกินไป
.
“ผมเห็นด้วยนะ ที่ให้ยกเลิก 112 โทษมันสูงเกินไปมาก ผมพูดแค่ประโยคเดียว แต่ร้ายแรงเหมือนไปฆ่าคนตาย” เมธินบอก
.
อีกหนึ่งสิ่งที่ถูกพรากไปพร้อมกับอิสรภาพ นั่นคือ ‘ความฝัน’ ความฝันที่เมธินวาดหวังไว้ว่า ในอนาคตอันใกล้นี้อยากจะเลื่อนชั้นขึ้นไปเป็น ‘ทหารยศนายสิบ’ ซึ่งเป็นความฝันที่มีมาแต่เด็ก แต่เมื่อเขากลายเป็น ‘นักโทษเด็ดขาด’ ที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว เมธินจึงจะไม่สามารถรับราชการได้ตลอดชีวิต
.
อิสรภาพถูกพรากไป ความฝันหล่นหาย ถูกตีตราละเมิดความเป็นมนุษย์ซ้ำด้วยโซ่ตรวนตั้งแต่ก่อนศาลยังไม่พิพากษาว่ามีความผิด ถูกจองจำในแดนที่เหมือนดั่งเขาวงกต ไม่ให้ติดต่อครอบครัว ไม่รู้ความเป็นไปของวันคืน
.
.
"เพียงเพราะเอ่ยหนึ่งประโยคสั้นๆ ขณะกำลังเมาและถูกถ่ายคลิปไปแจ้งความ"
.
อ่านบันทึกจากศาลทหาร ในวันที่ศาลพิพากษาจำคุก 5 ปี กับเมธิน: https://tlhr2014.com/archives/47677