#ราษฏรสาส์น
ทนายอานนท์ ยื่นหนังสือ ถึง ก.ต. ให้สอบสวนรองอธิบดีศาลอาญา ที่อาจก้าวก่าย คดี ม.112
Aug 31, 2022
สำนักข่าวราษฏร
'อานนท์' ยื่นหนังสือ ก.ต. ให้สอบสวนรองอธิบดีศาลอาญา ที่อาจก้าวก่ายหรือแทรกแซงการพิจารณาคดี ม.112 จนตุลาการขาดความเป็นอิสระ
.
วันที่ 31 ส.ค. 2565 เวลา 13.30 น. ที่ศาลอาญา อานนท์ นำภา และคณะ เดินทางไปยื่นหนังสือถึงประธาน คณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) และอธิบดีศาลอาญา ขอให้สอบสวนและดำเนินการทางวินัยต่อ นายอรรถการ ฟูเจริญ รองอธิบดีศาลอาญา ที่อาจมีการก้าวก่ายหรือแทรกแซงการพิจารณาคดีอาญาของตุลาการเจ้าของสำนวน ในคดีเขียนและโพสต์จดหมาย #ราษฏรสาส์น ถึงรัชกาลที่ 10 ที่อานนท์ถูกฟ้องในข้อหามาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญา และมาตรา 14 (3) พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
.
การยื่นหนังสือนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2565 ในวันนัดพร้อมเพื่อสอบคำให้การ ตรวจพยานหลักฐาน และกำหนดวันนัดสืบพยานในคดีดังกล่าว โจทก์และจำเลยได้แถลงแนวทางการต่อสู้คดีต่อผู้พิพากษาซึ่งเป็นองค์คณะที่นั่งพิจารณาคดี และผู้พิพากษาที่เป็นองค์คณะได้กำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์จำนวน 1 นัด และนัดสืบพยานจำเลยจำนวน 6 นัด ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ศาลได้จัดทำรายงานการพิจารณาให้แก่พนักงานอัยการโจทก์ และจำเลย ทราบถึงรายละเอียดจำนวนพยานและจำนวนวันนัดสืบพยานของแต่ละฝ่ายเรียบร้อยแล้ว
.
ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 21 ก.ค. 2565 นายอรรถการ ฟูเจริญ ในฐานะรองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาได้ออกคำสั่งท้ายรายงานเจ้าหน้าที่ในคดีดังกล่าว ให้ทำการตรวจพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพราะกรณียังมีการกำหนดให้สืบพยานที่ไม่เกี่ยวข้องกับการกำหนดประเด็นพิพาทในคดีและพยานความเห็น
.
จนต่อมาวันที่ 4 ส.ค. 2565 ศาลอาญาได้มีหมายแจ้งคำสั่งมายังจำเลยว่า ศาลอาญาได้มีคำสั่งให้นัดตรวจพยานหลักฐานเพิ่มเติมในวันที่ 5 ก.ย. 2565 โดยมีนายอรรถการ ฟูเจริญ ในฐานะผู้พิพากษาลงชื่อในหมายแจ้ง
.
อานนท์ในฐานะจำเลยเห็นว่าตนได้รับความเสียหาย เพราะอำนาจในการพิจารณาพิพากษาคดีเป็นอำนาจของผู้พิพากษาที่เป็นองค์คณะในการพิจารณาคดี โดยคดีนี้ผู้พิพากษาที่เป็นองค์คณะพิจารณาคดีได้พิจารณาแนวทางการต่อสู้คดีและมีคำสั่งอนุญาตให้สืบพยานตามที่ได้ระบุไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาของศาลนั้น ย่อมต้องถือว่าผู้พิพากษาที่เป็นองค์คณะพิจารณาคดีได้ใช้ดุลพินิจมีคำสั่งเกี่ยวกับการตรวจพยานหลักฐานเสร็จสิ้นแล้ว อันเป็นอำนาจตามกฎหมายที่เป็นอิสระของผู้พิพากษาที่นั่งพิจารณาคดี
.
ดังนั้น นายอรรถการ ฟูเจริญ รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ซึ่งไม่ได้เป็นองค์คณะในการพิจารณาพิพากษาคดีในคดีหมายเลขดำที่ อ.1395/2565 จึงไม่มีอำนาจที่จะออกคำสั่งให้มีการตรวจพยานเพิ่มเติมได้ ถือเป็นการออกคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา พระธรรมนูญศาลยุติธรรม พ.ศ. 2543 และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560
.
สำหรับรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มาตรา 188 ได้รับรองหลักความเป็นอิสระของผู้พิพากษาว่า ผู้พิพากษาและตุลาการย่อมมีอิสระในการพิจารณาพิพากษาอรรถคดีตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายให้เป็นไปโดยรวดเร็ว เป็นธรรม และปราศจากอคติทั้งปวง และ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ. 2543 มาตรา 66 ที่กล่าวว่าข้าราชการตุลาการต้องไม่เข้าไปก้าวก่ายแทรกแซงการพิจารณาคดีของข้าราชการตุลาการอื่น เป็นเหตุให้การพิจารณาพิพากษาคดีของข้าราชการตุลาการอื่นขาดความเป็นอิสระหรือความยุติธรรม
.....ทนายอานนท์ ยื่นหนังสือ ถึง ก.ต. ให้สอบสวนรองอธิบดีศาลอาญา ที่อาจก้าวก่าย คดี ม.112
Aug 31, 2022
สำนักข่าวราษฏร
'อานนท์' ยื่นหนังสือ ก.ต. ให้สอบสวนรองอธิบดีศาลอาญา ที่อาจก้าวก่ายหรือแทรกแซงการพิจารณาคดี ม.112 จนตุลาการขาดความเป็นอิสระ
.
วันที่ 31 ส.ค. 2565 เวลา 13.30 น. ที่ศาลอาญา อานนท์ นำภา และคณะ เดินทางไปยื่นหนังสือถึงประธาน คณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) และอธิบดีศาลอาญา ขอให้สอบสวนและดำเนินการทางวินัยต่อ นายอรรถการ ฟูเจริญ รองอธิบดีศาลอาญา ที่อาจมีการก้าวก่ายหรือแทรกแซงการพิจารณาคดีอาญาของตุลาการเจ้าของสำนวน ในคดีเขียนและโพสต์จดหมาย #ราษฏรสาส์น ถึงรัชกาลที่ 10 ที่อานนท์ถูกฟ้องในข้อหามาตรา 112 ประมวลกฎหมายอาญา และมาตรา 14 (3) พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
.
การยื่นหนังสือนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2565 ในวันนัดพร้อมเพื่อสอบคำให้การ ตรวจพยานหลักฐาน และกำหนดวันนัดสืบพยานในคดีดังกล่าว โจทก์และจำเลยได้แถลงแนวทางการต่อสู้คดีต่อผู้พิพากษาซึ่งเป็นองค์คณะที่นั่งพิจารณาคดี และผู้พิพากษาที่เป็นองค์คณะได้กำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์จำนวน 1 นัด และนัดสืบพยานจำเลยจำนวน 6 นัด ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ศาลได้จัดทำรายงานการพิจารณาให้แก่พนักงานอัยการโจทก์ และจำเลย ทราบถึงรายละเอียดจำนวนพยานและจำนวนวันนัดสืบพยานของแต่ละฝ่ายเรียบร้อยแล้ว
.
ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 21 ก.ค. 2565 นายอรรถการ ฟูเจริญ ในฐานะรองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาได้ออกคำสั่งท้ายรายงานเจ้าหน้าที่ในคดีดังกล่าว ให้ทำการตรวจพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพราะกรณียังมีการกำหนดให้สืบพยานที่ไม่เกี่ยวข้องกับการกำหนดประเด็นพิพาทในคดีและพยานความเห็น
.
จนต่อมาวันที่ 4 ส.ค. 2565 ศาลอาญาได้มีหมายแจ้งคำสั่งมายังจำเลยว่า ศาลอาญาได้มีคำสั่งให้นัดตรวจพยานหลักฐานเพิ่มเติมในวันที่ 5 ก.ย. 2565 โดยมีนายอรรถการ ฟูเจริญ ในฐานะผู้พิพากษาลงชื่อในหมายแจ้ง
.
อานนท์ในฐานะจำเลยเห็นว่าตนได้รับความเสียหาย เพราะอำนาจในการพิจารณาพิพากษาคดีเป็นอำนาจของผู้พิพากษาที่เป็นองค์คณะในการพิจารณาคดี โดยคดีนี้ผู้พิพากษาที่เป็นองค์คณะพิจารณาคดีได้พิจารณาแนวทางการต่อสู้คดีและมีคำสั่งอนุญาตให้สืบพยานตามที่ได้ระบุไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาของศาลนั้น ย่อมต้องถือว่าผู้พิพากษาที่เป็นองค์คณะพิจารณาคดีได้ใช้ดุลพินิจมีคำสั่งเกี่ยวกับการตรวจพยานหลักฐานเสร็จสิ้นแล้ว อันเป็นอำนาจตามกฎหมายที่เป็นอิสระของผู้พิพากษาที่นั่งพิจารณาคดี
.
ดังนั้น นายอรรถการ ฟูเจริญ รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ซึ่งไม่ได้เป็นองค์คณะในการพิจารณาพิพากษาคดีในคดีหมายเลขดำที่ อ.1395/2565 จึงไม่มีอำนาจที่จะออกคำสั่งให้มีการตรวจพยานเพิ่มเติมได้ ถือเป็นการออกคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา พระธรรมนูญศาลยุติธรรม พ.ศ. 2543 และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560
.
สำหรับรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มาตรา 188 ได้รับรองหลักความเป็นอิสระของผู้พิพากษาว่า ผู้พิพากษาและตุลาการย่อมมีอิสระในการพิจารณาพิพากษาอรรถคดีตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายให้เป็นไปโดยรวดเร็ว เป็นธรรม และปราศจากอคติทั้งปวง และ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ. 2543 มาตรา 66 ที่กล่าวว่าข้าราชการตุลาการต้องไม่เข้าไปก้าวก่ายแทรกแซงการพิจารณาคดีของข้าราชการตุลาการอื่น เป็นเหตุให้การพิจารณาพิพากษาคดีของข้าราชการตุลาการอื่นขาดความเป็นอิสระหรือความยุติธรรม
อานนท์ นำภา
10h
วันนี้ยื่นหนังสือร้องเรียน นายอรรถการ ฟูเจริญ รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาเรียบร้อย จากกรณีเข้ามาออกคำสั่งในชั้นตรวจพยานหลักฐานในคดี 112 ที่ผมถูกกว่าหาว่าเขียนจดหมายถึงในหลวงรัชกาลที่ 10 โดยเราเห็นว่าการเข้ามาออกคำสั่งทั้งที่ไม่ได้เป็นองค์คณะในคดี อาจเป็นการทำให้ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนถูกก้าวก่ายจนขาดความเป็นอิสระ ทั้งนี้ เพื่อให้คณะกรรมการตุลาการได้สอบสวนต่อไป
อย่างไรก็ตาม ระหว่างการตรวจสอบนี้ เราขอให้ย้ายนายอรรถการ ฟูเจริญ ออกจากอำนาจและตำแหน่งปัจจุบันเพื่อให้การตรวจสอบเป็นไปด้วยความสะดวกและเป็นธรรมด้วย
ผมไม่มีเจตนาจะทำลายใครเป็นการส่วนตัว เพียงแต่ทำไปเพื่อรักษาไว้ซึ่งหลักความเป็นอิสระของผู้พิพากษา และดำรงไว้ซึ่งสถาบันตุลาการที่เป็นธรรมอันเป็นหนึ่งในอำนาจอธิปไตยของเราทุกคน
ขอบคุณพี่น้องทุกคนที่เป็นกำลังใจ ผมจะทำให้ทุกการต่อสู้เป็นไปเพื่อสร้างสังคมใหม่ที่เราต้องการอย่างสมบูรณ์
เชื่อมั่นและศรัทธา
อานนท์ นำภา
31 สิงหาคม 2565