112Watch เรียกร้องให้ทางการไทยยุติการใช้มาตรา 112 เพื่อลงโทษและโดดเดี่ยวนักกิจกรรมการเมือง
มาเป็นส่วนหนึ่งกับเรา / ติดต่อ 112Watch
มาตรา 112 ละเมิดเสรีภาพในการพูด
หลังรัฐประหารปี 2549 ที่โค่นล้มรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร จำนวนคดีคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพก็พุ่งสูงขึ้นอย่างมาก อีกทั้งกฎหมายดังกล่าวยังกลายเป็นอาวุธทางเลือกในการทำร้ายผู้เห็นต่างทางการเมือง แต่เมื่อวิกฤตการเมืองของไทยรุนแรงขึ้น ก็มีการใช้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพถี่มากขึ้น และกลายเป็นประเด็นถกเถียงมากขึ้นเช่นเดียวกัน
ในปี 2554 ปวินได้ออกแคมเปญทั่วประเทศเพื่อปฏิรูปกฎหมายอาญามาตรา 112 อันเป็นผลมาจากการที่รัฐไทยดำเนิน “คดีอากง” และถึงแม้เวลาจะผ่านไปสิบปีแล้ว สถานการณ์การบังคับใช้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ก็ยังไม่ดีขึ้นแม้แต่น้อย อีกทั้งการรัฐประหารในปี 2557 ที่โค่นล้มรัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวของทักษิณ ชินวัตร กลับยิ่งทำให้สถานการณ์ทางการเมืองแย่ลงไปอีก ถึงแม้ในช่วงต้นรัชกาลที่ 10 กษัตริย์วชิราลงกรณ์ดูเหมือนต้องการจะปกป้องภาพลักษณ์ของตัวเอง โดยระงับการใช้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพในช่วงปลายปี 2560 แต่อย่างที่ทุกคนเห็นได้ชัด มีการนำกฎหมายดังกล่าวกลับมาใช้ในปลายปี 2563 โดยมีความจงใจที่จะใช้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพโดยรัฐไทย (โดยเฉพาะส่วนวัง) เพื่อปิดปากกลุ่มคนที่วิพากษ์วิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์ การกลั่นแกล้งประชาชนโดยการบังคับใช้กฎหมายอาญามาตรา 112 ยังคงไม่สิ้นสุด ซึ่งมีกระทบโดยตรงต่อถานการณ์สิทธิมนุษยชน ขณะนี้ได้ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศ จัดการกับปัญหาของกฎหมายอาญามาตรา 112 ในประเทศไทยอย่างจริงจัง
ด้วยเหตุผลดังกล่าว โครงการ 112WATCH จึงถูกออกแบบให้เป็นพื้นที่ในการสร้างความตื่นตัว โดยจะพุ่งเป้าไปที่ชุมชนทางการทูตระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์กรสหประชาชาติ (UN) ณ นครนิวยอร์ค ประชาคมสหภาพยุโรปในกรุงบรัสเซลส์ สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชน แห่งสหประชาชาติ (OHCHR) ในเจนีวา เพื่อสร้างฉันทามติในการจัดการกับกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
ลิงค์ 112WATCH ภาคภาษาไทย กดเลย