ที่มา เฟซบุ๊ค ปลอดประสพ สุรัสวดี
9 ธ.ค. 2564
วันนี้ผมขอเป็น "โหร" สักครั้ง ผมจะพยากรณ์ว่าใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป (คนที่….) จะได้เป็นเมื่อไร เเละเป็นนานเท่าใดด้วย
คงจำกันได้ว่าเมื่อ 3 ป. ไปอุดรธานีและมีสุภาพสตรีมาหมอบกราบรองนายกประวิตร(เกินไปหน่อยนะ) แถมยกยอว่าท่านนายกหล่อจังเลย ก็มีผู้คนไปวิจารณ์กันจิปาถะซึ่งส่วนใหญ่คิดว่า จำคนผิด
เเต่ผมไม่คิดเช่นนั้นเลย เหตุผลก็คืองานอย่างนี้ และต่อหน้านักข่าว กองเชลียร์ต้องเลือกคนที่เจ๋งที่สุดแล้ว แถมต้องซ้อมแล้วซ้อมอีกจนมั่นใจว่า ต้องตีบทแตกแน่ๆจึงจะอนุญาตให้ออกแสดงต่อหน้าสาธารณชนแบบวันนั้น
เหตุเกิดเพราะลูกน้องรองประวิตร เดาเอาว่า นายกประยุทธ์คงไม่สามารถแหวกวงล้อมรัฐธรรมนูญของคุณประยุทธเองเรื่อง “ ห้ามเป็นนายกรัฐมนตรีเกิน 8 ปี” จึงคิดว่า ไหนๆ ก็อุ้มชูอยู่เบื้องหลังนายกฯ มาตลอด คราวนี้ก็ควรถึงเวลาเป็นเองเสียสักครั้งให้เป็นเกียรติประวัติ การมีคนไปกราบและเรียกชื่อว่านายก จึงเป็นการเตือนใจคุณประวิตร ว่าราษฎร(กลุ่มหนึ่ง) เขาเห็นว่า ถึงเวลาแล้ว รัศมีก็เรืองรองผ่องอำไพเพียงพอ และด้วยเหตุนี้จึงต้องเกิดภาพ 3 ป. รักกันปานจะกลืนกินออกมา
ถามว่า แล้วเมื่อไรรองประวิตร จะได้เป็นนายกเสียที คำตอบแบบเดาๆก็คือ ก่อนนายกประยุทธ์ครบ 8 ปีสักหนึ่งเดือนมั๊ง แล้วคุณประวิตรจะเป็นนายกได้อย่างไร คำตอบก็คือ ด้วยแรงอิทธิฤทธิ์ของสว. 250 เสียงบวกกับกลุ่มพรรครัฐบาลอีก 280 แถมเบี้ยเล็กเบี้ยน้อยอีกสัก 30 รวมแล้วได้ 560 เสียงจาก 750 หรือคิดเป็นกว่า 70% คือเกิน 2 ใน 3 ของรัฐสภาฯ คือ สส. และ สว. รวมกัน (แค่กล้วยหมดสวนเลยเท่านั้น)
ถามว่าหากคุณประวิทย์เป็นนายกจริง จะอยู่นานไหม คำตอบคือไม่นานแน่ๆ เพราะคงไม่อยากตอบว่า “ผมไม่รู้” ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จึงต้องชิงยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่หนีการอภิปรายแน่นอน แล้วก็เป็นรัฐบาลรักษาการต่อไปอีก 2 เดือนสบายแฮไป แล้วไปลุ้นอีกทีตอนเลือกตั้งใหญ่ ซึ่งจะพอดีกับกติกาใหม่ บัตร 2 ใบจะออกมา
เรื่องที่ผมเดามาทั้งหมด อุปสรรคสำคัญที่สุดคือ พรรคใหญ่ที่ร่วมเป็นรัฐบาลในขณะนี้ จะสามัคคีกลมเกลียวกันอย่างไร โดยเฉพาะขณะนี้กำลังจะมีการเลือกตั้งทางภาคใต้สืบเนื่องจากคณะ กกปส. หลายคนถูกถอดถอนสิทธิ หากแตกคอกันเสียก่อนก็ถือว่า ที่ผมพูดจะหมดไป
ที่ผมเขียนมาทั้งหมดนี้จริงๆ ก็ไม่ใช่ประสงค์จะอวดภูมิหรืออยากเป็นโหรอะไรหรอก ผมเพียงต้องการแสดงให้เห็นความ “ พิลึกและผิดเพี้ยนไปจากมาตรฐานสากลมากๆ “ ของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันให้ได้ประจักษ์กันอีกครั้ง เพื่อเตือนสติทุกคนที่พยายามแก้ไข
รูปที่นำมาในวันนี้คือหลานชายคนเล็กซึ่งอยากล้างเท้าให้ปู่เพราะเห็นปู่บ่นว่า มีปัญหาที่ปลายประสาท เขาชื่อ “ปิ่นประสพ” เพราะเกิดตอนปู่เป็นรองนายก ส่วนอีกภาพเป็นหลานสาวคนเล็กสุดชื่อ “ปิ่นฤทัย” เพิ่งกลับจากโรงเรียน จึงมาไหว้ปู่ก่อนไปอาบน้ำ ที่หลานทำเช่นนี้เพราะรักและเคารพปู่ ไม่มีการเสแสร้งแต่งเติมอะไรอย่างที่บางคนชอบแสดงกันอยู่ในปัจจุบัน