วันจันทร์, กันยายน 06, 2564

ไม่มีสิ่งใดที่ได้มาด้วยการนิ่งเฉย #ไม่เรียนออนไลน์แล้วอิสัส นักเรียนทั้งผองจงรวมตัวกัน STRIKE ! อย่าปล่อยให้พวกเขาปิดหูปิดตาไม่รับฟังปัญหาของเรา ประท้วงหยุดเรียนในวันที่ 6-10 กันยายนนี้


นักเรียนเลว
4h ·

อีกนานเท่าไหร่ที่เราจะต้องถูกขังอยู่ในกรอบสี่เหลี่ยม ทนแสบตาจากแสงของจอโทรศัพท์ ทนเราต้องรอวัคซีน ทนรอให้กลับไปเรียนที๋โรงเรียนได้ทุกคน ไม่มีคนหลุดออกจากระบบการศึกษาอีก อีกนานเท่าไหร่กัน!?
ท่ามกลางวิกฤตการณ์ที่ไม่มีทีท่าที่จะสิ้นสุด รัฐบาลไม่เคยจะเห็นหัวพวกเราแม้แต่น้อย วัคซีนที่บอกจะได้ภายในเร็ว ๆ นี้ ผลัดมาแล้วกี่ครั้ง รัฐบาลปล่อยปะละเลยพวกเรา ลอยแพพวกเราให้อยู่กับความสิ้นหวังและความว่างเปล่า ส่วนพวกเขาก็ยังคงสุขสบายดี ไม่ต้องก็สิ้นหวังเหมือนกับประชาชนที่กำลังเผชิญหน้ากับทุกปัญหา ต้องพยายามตะเกียกตะกายหาทางหลุดพ้นด้วยสองแขนและสองขาของตัวเอง
เขาสั่งปิดโรงเรียนของพวกเรา เราก็ทำตาม เพราะพวกเราอยากกลับไปโรงเรียน พวกเราจำยอมทนอยู่กับระบบการศึกษาห่วย ๆ ที่พวกเขาไม่คิดที่จะปรับปรุงอะไรเลย ทำทิ้งทำขว้างประหนึ่งเป็นขยะในสายตา เด็กจำนวนมากหลุดออกจากระบบการศึกษาเพราะไม่มีอุปกรณ์สำหรับเรียนออนไลน์ รัฐบาลไม่สนับสนุนอุปกรณ์การเรียนออนไลน์ให้แม้แต่นิดเดียว มากสุดก็แค่ 2000 บาท แค่จะซื้อโทรศัพท์มาเรียนยังไม่พอเลย ไหนจะค่าอินเทอร์เน็ต และค่าใช้จ่ายมากมาย เด็กจำนวนมากกำลังอดอยากเพราะสภาพเศรษฐกิจ ต้องทรมานจากสุขภาพจิตที่ย่ำแย่ แต่รัฐบาลก็ยังคงชักช้า อำมหิตสิ้นดี!
วันที่ 1 กันยายน ห้างสรรพสินค้าสามารถเปิดได้ แล้วเด็กล่ะ? พวกเราเป็นพลเมืองชั้นสองรองจากนายทุนหรือ? รัฐบาลไม่เคยเห็นหัวพวกเรา เอาแต่อุ้มคนที่เอื้อผลประโยชน์ให้แก่เขาได้ ประชาชนตาดำ ๆ กับเด็กตาใส ๆ ต้องดิ้นรนหาทางรอดด้วยตัวเองต่อไปอย่างไร้จุดหมาย วัคซีนที่มีก็ไม่มีคุณภาพพอที่จะป้องกันการติดเชื้อ ดีอย่างเดียวคือกันตาย ประชาชนต้องแก่งแย่งกันเองเหมือนเศษกระดูกที่ผู้ใจบุญโยนมาให้ ส่วนเด็กก็ต้องรอจนกว่าจะมีวัคซีนเข้าประเทศ พวกเราคือประชาชน พวกเราคือเจ้าของประเทศนี้ แต่ผู้มีอำนาจกลับไม่สนใจเราเลย
สุขภาพจิตของพวกเราดำดิ่งมาถึงขีดสุดแล้ว พวกเราเครียดและหมดไฟ เพราะระบบที่ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ภาระงานที่เยอะมากเกินไป และกฎระเบียบไร้สาระที่ยังบังคับใช้แม้จะเรียนออนไลน์ เช่น ใส่ชุดนักเรียนเวลาเรียน ต้องขออนุญาตดื่มน้ำทั้ง ๆ ที่เรียนออนไลน์ พวกเขาปล้นเอาชีวิตอันแสนสดใสของเราไป ปล้นเอาความฝันปล้นเอาอนาคต ประสบการณ์ และวัยเด็กของเราไป
จงรวมตัวกันเถิดนักเรียนทั้งหลาย ถึงเวลาทวงคืนทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาปล้นมาจากเราแล้ว ถึงเวลาประกาศอิสรภาพ อย่าได้กลัวการถูกคุมคาม เพราะหากพวกเรากลัว นั่นหมายความว่าพวกเขาสามารถควบคุมเราได้ จงเป็นนายของตัวเอง อย่าให้พวกเขามาเป็นนายเราได้ จงรวมตัวเถิดนักเรียนทั้งผอง อย่าปล่อยให้พวกเขาปิดหูปิดตาไม่รับฟังปัญหาของเรา เมื่อฟันเฟืองของระบบหยุดไป เหล่าผู้มีอำนาจบนหอคอยงาช้างจะต้องสะเทือนและรับฟังพวกเรา นักเรียนทั้งผอง “จงรวมตัวกัน ประท้วงหยุดเรียนในวันที่ 6-10 กันยายนนี้” จงตะโกนให้เสียงของเราสะเทือนหอคอยงาช้าง ให้รัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการลงมาแก้ปัญหาของพวกเราเสียที!
“เออนะรัฐบาลกระทำอะไร
บเคยบแก้บไขอะไร ฉงนนัก
เราบเคยบได้บผ่อนบพัก
กท่านกซ้ำแหละอุปสรรค นะฉันใด
กาลมาประจบประสบจะให้
กเราจะช่วงจะทวงจะได้ สิชีวิต
อันจะกลับจะหวน ณ สู่ลิขิต
จะกลับจะมาจะหาแหละมิตร ประชาชน”
——
#ไม่เรียนออนไลน์แล้วอิสัส
#นักเรียนเลว




นักเรียนเลว
15h ·

นักเรียนทุกคนจงสไตรค์ไปด้วยกัน! นักเรียนเลวขอนำเสนอ 3 วิธีการสไตรค์ให้ทุกคนได้เลือกใช้ได้ตามความสะดวก เพื่อที่เราจะได้เรียกร้องสิ่งที่พวกเราสมควรจะได้ไปพร้อมกัน!
6-10 กันยายนนี้ มาร่วมกันทวงคืนชีวิตวัยเด็กของเรากลับมา
——
#ไม่เรียนออนไลน์แล้วอิสัส
#นักเรียนเลว


นักเรียนเลว
September 3 at 12:13 AM ·

ไม่มีสิ่งใดได้มาด้วยการนิ่งเฉย เราทุกคนจึงต้องต่อสู้เพื่อสิทธิที่ควรได้รับ ในประวัติศาสตร์การเรียกร้อง มีการนัดกันหยุดทั่วประเทศที่ประสบผลสำเร็จมากมาย ผลสำเร็จในอดีตกลายเป็นเรื่องปกติในสังคม จนเราอาจไม่ทราบว่าสิทธิเหล่านั้นมาจากการสไตรค์
ที่ผ่านมาในประวัติศาสตร์ การนัดหยุดเรียนหรือนัดหยุดทำงานถูกใช้เป็นวิธีการในการต่อรอง กับผู้มีอำนาจที่ไม่เป็นธรรมอยู่เสมอ เป็นหนึ่งในวิธีที่จะทำให้ผู้มีอำนาจต้องหันมาตั้งใจฟัง เพราะระบบที่กำลังพังจากการสไตรค์นั้นอยู่ในความรับผิดชอบของพวกเขาเอง
จุดเริ่มต้นการสไตรค์ของนักเรียนครั้งแรกในประเทศไทย เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2475 นักเรียนโรงเรียนสตรีวิทยา เดินขบวนไปกระทรวงธรรมการ เหตุเพราะข้าราชการใช้คำพูดดูถูกนักเรียน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความตระหนักในสิทธิ ความตื่นรู้ทางการเมือง ของนักเรียนในอดีต ที่มีมากไม่แพ้ปัจจุบัน
ในขบวนการการสไตรค์ ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนหรือแรงงาน เราล้วนมีจุดประสงค์ร่วมกัน คือเพื่อเรียกร้องในสิ่งที่เราควรจะได้รับตั้งนานแล้ว เมื่อการประท้วงแบบเดิมไม่ได้ผล เดินขบวนไปหน้ากระทรวงกี่รอบ ผู้มีอำนาจยังคงปิดหูปิดตาไม่ฟังเสียงของเรา เราก็ต้องหาหนทางใหม่ ๆ ในการเรียกร้องต่อไป
ยกตัวอย่างเช่นการถือกำเนิดขึ้นของกฏหมายแรงงาน นายทุนสามารถกดขี่แรงงานเท่าใดก็ได้ เพราะยังไม่มีกฎหมายออกมาคุ้มครองแรงงาน แต่จากการนัดสไตรค์ ส่งผลให้มีกฎหมายจำกัดชั่วโมงการทำงานไม่ให้เกินวันละ 8 ชั่วโมง ยกเลิกแรงงานเด็ก และถือกำเนิดเป็นวันหยุด-เสาร์อาทิตย์ในปัจจุบันนี้เอง
ระบบการศึกษาก็เช่นกัน หากรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการไม่ยอมเห็นหัวนักเรียน เราก็ต้องทำทุกวิถีทางในการส่งเสียงไปให้ถึง ทั้งเรื่องคุณภาพการเรียนออนไลน์และวัคซีน ล้วนเป็นประเด็นกระทบนักเรียนโดยตรงทั้งสิ้น หากนักเรียนไม่ลุกขึ้นสู้ด้วยตนเอง ก็คงไม่มีใครเรียกร้องแทนพวกเราได้
อ้างอิง
https://themomentum.co/thai-students-uprising-after.../
https://www.youtube.com/watch?v=gH1ih4-efhs
——
#ไม่เรียนออนไลน์แล้วอิสัส
#นักเรียนเลว