Atukkit Sawangsuk
19h ·
ซื้อง่ายขายคล่อง ยังกะเข้าร้านสะดวกซื้อ
"รับซิโนแวคเพิ่มสักล้านโดสไหมคะ"
...
Sarinee Achavanuntakul - สฤณี อาชวานันทกุล
20h ·
#มหากาพย์วัคซีน ตอน ความไม่โปร่งใสของการจัดซื้อวัคซีนยี่ห้อ Sinovac
โพสมาหลายรอบแล้วว่า การจัดซื้อวัคซีนโควิด-19 ของรัฐบาลมีความโปร่งใสน้อยลงเรื่อยๆ นะคะ โดยเฉพาะการซื้อยี่ห้อ Sinovac ล่าสุดจากข้อมูลสถานการณ์การจัดหา ณ 1 มิ.ย. 64 ของสถาบันวัคซีนแห่งชาติ (ดูรูปประกอบ) ก็ยิ่งทำให้สงสัยมากกว่าเดิมอีก คิดว่าสื่อมวลชนและ ส.ส. ควรตั้งคำถามและตรวจสอบมากขึ้น ในสามประเด็นต่อไปนี้
1. ทำไมการจัดซื้อวัคซีนยี่ห้อ Sinovac จึงให้ องค์การเภสัชกรรม ร่วมกับ กรมควบคุมโรค เป็นผู้ดำเนินการจัดซื้อ แทนที่จะให้ สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ร่วมกับ กรมควบคุมโรค เป็นผู้ดำเนินการ เหมือนในกรณีของวัคซีนยี่ห้ออื่นๆ ? ยี่ห้อ Sinovac มีความ "พิเศษ" หรือแตกต่างจากยี่ห้ออื่นยังไง ตรงไหน ถึงต้องใช้วิธีจัดซื้อไม่เหมือนยี่ห้ออื่น
2. ทำไมการสั่งซื้อวัคซีน Sinovac 3 ล้านโดส ในเดือน พ.ค. และอีก 3 ล้านโดส ในเดือน มิ.ย. (ตามที่ปรากฎในข่าว) จึงไม่ต้องยื่นเรื่องเสนอ ครม. เหมือนกับการสั่งซื้อสองรอบแรก คือ 2 ล้านโดส (มติ ครม. วันที่ 5 ม.ค. 64) และ 5 แสนโดส (มติ ครม. วันที่ 27 เม.ย. 64) หน่วยงานไหนเป็นคนสั่งซื้อ ถ้าเป็น องค์การเภสัชกรรม เอาอำนาจจากไหน เอางบประมาณส่วนไหนซื้อ
3. การสั่งซื้อ Sinovac 3+3 ล้านโดส (เดือน พ.ค. และ มิ.ย.) ใช้งบประมาณไปทั้งหมดเท่าไร แบ่งเป็นค่าวัคซีนเท่าไร ค่าบริหารจัดการเท่าไร (ในเมื่อไม่มาขอ ครม. สาธารณะจึงไม่เห็นตัวเลขใดๆ ทั้งสิ้น) และแผนที่ว่าจะสั่งซื้อ "เพิ่ม" อีก 10-15 ล้านโดส จะใช้เงินอีกเท่าไร (และคำถามเดิม ทำไมถึงไม่มาขอ ครม.)
ถ้าใช้ตัวเลข 542 บาท/โดส เป็นราคาวัคซีน เหมือนตอนที่ซื้อ 2 ล้านโดสแรก เท่ากับว่าการซื้อ Sinovac 3+3+10 หรือ 3+3+21 ล้านโดส ที่ไม่มี มติ ครม. รองรับ จะต้องใช้เงินมากถึง 8,680 - 11,392 ล้านบาทเลยทีเดียว (นี่ยังไม่นับ "ค่าบริหารจัดการ" ซึ่งอาจมีจำนวนถึง 1,000-1,300 ล้านบาท)
เรื่องไหนก็ตามที่ไม่โปร่งใส ก็คือการเปิดช่องเห็นๆ ให้ทุจริตติดสินบนนะคะ ฝากทุกคนจับตาดูด้วย โดยเฉพาะสื่อมวลชนกับฝ่ายค้าน
Sarinee Achavanuntakul - สฤณี อาชวานันทกุล
20h ·
#มหากาพย์วัคซีน ตอน ความไม่โปร่งใสของการจัดซื้อวัคซีนยี่ห้อ Sinovac
โพสมาหลายรอบแล้วว่า การจัดซื้อวัคซีนโควิด-19 ของรัฐบาลมีความโปร่งใสน้อยลงเรื่อยๆ นะคะ โดยเฉพาะการซื้อยี่ห้อ Sinovac ล่าสุดจากข้อมูลสถานการณ์การจัดหา ณ 1 มิ.ย. 64 ของสถาบันวัคซีนแห่งชาติ (ดูรูปประกอบ) ก็ยิ่งทำให้สงสัยมากกว่าเดิมอีก คิดว่าสื่อมวลชนและ ส.ส. ควรตั้งคำถามและตรวจสอบมากขึ้น ในสามประเด็นต่อไปนี้
1. ทำไมการจัดซื้อวัคซีนยี่ห้อ Sinovac จึงให้ องค์การเภสัชกรรม ร่วมกับ กรมควบคุมโรค เป็นผู้ดำเนินการจัดซื้อ แทนที่จะให้ สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ร่วมกับ กรมควบคุมโรค เป็นผู้ดำเนินการ เหมือนในกรณีของวัคซีนยี่ห้ออื่นๆ ? ยี่ห้อ Sinovac มีความ "พิเศษ" หรือแตกต่างจากยี่ห้ออื่นยังไง ตรงไหน ถึงต้องใช้วิธีจัดซื้อไม่เหมือนยี่ห้ออื่น
2. ทำไมการสั่งซื้อวัคซีน Sinovac 3 ล้านโดส ในเดือน พ.ค. และอีก 3 ล้านโดส ในเดือน มิ.ย. (ตามที่ปรากฎในข่าว) จึงไม่ต้องยื่นเรื่องเสนอ ครม. เหมือนกับการสั่งซื้อสองรอบแรก คือ 2 ล้านโดส (มติ ครม. วันที่ 5 ม.ค. 64) และ 5 แสนโดส (มติ ครม. วันที่ 27 เม.ย. 64) หน่วยงานไหนเป็นคนสั่งซื้อ ถ้าเป็น องค์การเภสัชกรรม เอาอำนาจจากไหน เอางบประมาณส่วนไหนซื้อ
3. การสั่งซื้อ Sinovac 3+3 ล้านโดส (เดือน พ.ค. และ มิ.ย.) ใช้งบประมาณไปทั้งหมดเท่าไร แบ่งเป็นค่าวัคซีนเท่าไร ค่าบริหารจัดการเท่าไร (ในเมื่อไม่มาขอ ครม. สาธารณะจึงไม่เห็นตัวเลขใดๆ ทั้งสิ้น) และแผนที่ว่าจะสั่งซื้อ "เพิ่ม" อีก 10-15 ล้านโดส จะใช้เงินอีกเท่าไร (และคำถามเดิม ทำไมถึงไม่มาขอ ครม.)
ถ้าใช้ตัวเลข 542 บาท/โดส เป็นราคาวัคซีน เหมือนตอนที่ซื้อ 2 ล้านโดสแรก เท่ากับว่าการซื้อ Sinovac 3+3+10 หรือ 3+3+21 ล้านโดส ที่ไม่มี มติ ครม. รองรับ จะต้องใช้เงินมากถึง 8,680 - 11,392 ล้านบาทเลยทีเดียว (นี่ยังไม่นับ "ค่าบริหารจัดการ" ซึ่งอาจมีจำนวนถึง 1,000-1,300 ล้านบาท)
เรื่องไหนก็ตามที่ไม่โปร่งใส ก็คือการเปิดช่องเห็นๆ ให้ทุจริตติดสินบนนะคะ ฝากทุกคนจับตาดูด้วย โดยเฉพาะสื่อมวลชนกับฝ่ายค้าน
