คุณโทนี่ วู้ดซัม นี่แกร้ายเชียวละ พูดที่ ‘แคร์ คลับเฮ้าส์’ เที่ยวนี้เล่นเอาพวก ‘สาม ป.’ (กระ) อึก (กระ) อัก โดยเฉพาะเรื่องโรงรับจำนำแก้ปัญหาเศรษฐกิจ #ผมสะอื้นเลย เรื่องโหงวเฮ้งพวกแย่งอำนาจ ขนาดพี่ใหญ่ยังโดนป๋ายัดกรุ แล้วก็เรื่องแก้รัฐธรรมนูญต้อง ‘แลนด์สไล้ด์’
หลังจากที่ ไอ-ถูบ ฟาดหางมาได้สองวัน ความงั่งก็ปรากฏ (อีก) พูดถึงมาตรการ “เร่งแก้ปัญหาหนี้สินของประชาชน” ว่าจะต้องลดดอกเบี้ยโน่นนี่ก็ดีอยู่หรอก แต่พอไปถึงเรื่องหนี้ในครัวเรือน จะ “เพิ่มจำนวนโรงรับจำนำและโรงรับจำนอง
...ดูแลผู้มีรายได้น้อยแต่มีที่ดินจำนวนจำกัด...เพื่อจะเข้าถึงสินเชื่อ” เท่านั้นเองมีคนตั้งชื่อโครงการให้ฟังเก๋เหมือนในอดีตที่ห้ามหวนกลับ ‘หนึ่งตำบล หนึ่งโรงรับจำนำ’ ซึ่งโทนี่ว่าไฮ้ อะไรกันนักหนา ที่อื่นเขาลดจำนวนกันจนจะไม่มีเหลือหลอ
ดอกเบี้ยก็แพง “วันนี้ต้องหาทางให้คนจนมีรายได้ เรื่องการจ้างงานเอย ช่องทางทำมาหากิน ต้องรีบทำก่อน ไม่ใช่ขยายโรงรับจำนำ...ขยายช่องทางทำมาหากินดีกว่าช่องทางหมดตัว...การเอาตังไปแจก เอาไปปิดแผลเก่า ไมได้ช่วยอะไรเลย เพราะมันไม่มีโอกาสที่จะไปลงทุนอะไร”
ตาสีตาสาก็เออ จริงน่ะ จะแก้ปัญหาหนี้รัดตัวด้วยการสร้างหนี้ใหม่ (เอาครกไปตึ๊งงี้) มันจะได้อะไรมากไปกว่าแก้หน้ารัฐบาล ป.ประยุทธ์บอกว่า หนี้ครัวเรือนนั้น ก่อนปี ๕๗ ที่ทหารยึดอำนาจ มีอัตราเพิ่มเดือนละ ๘๘,๐๐๐ ล้านบาท จากนั้นถึงนี้เพิ่มแค่ ๕ หมื่นล้านต่อเดือน
แต่นั่นเลือกตัวเลขเฉพาะตอนที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ (ชินวัตร) กำลังบักโกรกหนัก ไหนจะโดน พธม.และ กปปส.ป่วนเมือง (แบบมีทหารอยู่ข้างหลัง) จนไม่มีดี ตอนนั้นกรวยสมีฟรีด้อมศักดิ์สิทธิ์กว่าบังเกอร์ ราบ.๑๑ ไหนจะมีน้ำล้นเขื่อนออกมาไม่รู้อิโหน่อิเหน่
ที่โทนี่พูดถึงตอนนี้ก็ใช่น่ะสิ ยิ่งที่มีคำถามจาก ‘คุณปลื้ม’ ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล ว่าแล้วทำไมตอนนั้นถึงได้ตั้ง ป.ป้อม ประวิตร เป็น ผบ.ทบ. “ผมไม่อยากโดนครหา คนมาบ่นกันว่าเอาญาติบ้าง อะไรบ้าง” ก็เลยดัน พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ไปเป็น ผบ.สส.
ข้อควรจำ “ถ้าจำไม่ผิดนะ...คนนี้เนี่ยเขาโดน พล.อ.เปรม (ติณสูลานนท์) สั่งประจำ เหตุการณ์ตอนที่นัดแล้วไม่มา” พวกทหารนัดกันยึดอำนาจ แต่แล้วยกเลิก ป้อมไปงมโข่งอยู่ที่ไหนไม่รู้เรื่อง โผล่ออกมาคนเดียวเลยโดน ‘ประจำการในกรุ’
โทนี่ก็ทำเป็นแซวว่าตนเองดูโหงวเฮ้งไม่เป็น ถ้ารู้วิธีดูโหงวเฮ้งเสียหน่อย คงไม่ตั้งให้ประวิตรเป็น ผบ.ทบ.แซงหน้า พล.อ.พรชัย กรานเลิศ โดยมี วัฒนา เมืองสุข “สมัยนั้นเขาเป็น ส.ส.ปราจีนบุรี” เชียร์ กับ “พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร ก็มาเชียร์”
ส่วนที่ผู้ฟังในคลับเฮ้าส์ถามเรื่องทำไมถึงพรรคเพื่อไทยดึงดันแก้ระบบเลือกตั้งกลับไปเป็นแบบรัฐธรรมนูญปี ๒๕๔๐ คือมีบัตรเลือกตั้ง ๒ ใบให้เลือก ส.ส.เขต ๔๐๐ คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ๑๐๐ คน โทนี่บอกว่า “ผมเชื่อแบบโบราณ
ผมคิดว่า ‘กำขี้ดีกว่ากำตด’ วันนี้ การแก้ไขกฎหมายใดๆ ถ้ารัฐบาลจะเอาอย่างไรก็มักจะเป็นแบบนั้น เพราะเสียงเขามาก แต่ไหนๆ เขาบอกว่าแก้บางส่วน เราคิดว่าอะไรเป็นประโยชน์บางส่วน ก็ใส่เข้าไปก่อน เผื่อฟลุ๊กจะได้”
แหม่ ทั่นก็ ป่านนี้แล้วจะมารอฟลุ๊กอีกหรือ แล้วจะตัดเยื่อใยระบบบัตรสองใบ (แต่) แบบเยอรมนี เพียงเพราะ “ผมไม่ชำนาญเลยไม่รู้” จะอ้าง “ผมเองเป็นผลผลิตของปี ๔๐” ง่ายเกินไป ไม่ได้นะทั่น ควรที่จะฟังๆ กันไว้หน่อย ถ้าไม่อยากให้เป็น ‘เบี้ยหัวแตก’
พวกบัตรสองใบแบบเยอรมนี เขาไม่ได้แค่ให้ใบเลือกพรรคกำหนดจำนวน ส.ส.ทั้งหมด เมื่อบัตรเขตได้ ส.ส.ไม่พอก็เติมให้เต็มเท่านั้น แต่มันเกี่ยวพันไปถึงการปะหน้าไว้เลยว่าห้ามแตะหมวด ๑ และหมวด ๒ พรรคก้าวไกลเขาถึงประกาศไม่เอาด้วย
เขาว่าเรื่องนั้นควรปล่อยไว้เป็นส่วนของ สสร.ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนโดยตรง ได้คิดหาทางกัน อย่าไปคุมกำเนิดแต่แรกเหมือน คสช.ชอบทำ แล้วที่ติ่งเพื่อไทยเอามาอ้างว่า “สภาโหวตห้าม สสร.แก้หมวด ๑-๒” เมื่อเดือนกุมภานั้นก็ไม่เกี่ยวพรรคการเมือง
เฉยไว้ก่อนได้ เว้นแต่อยากแสดงให้ชัดแจ้งว่าตนไม่ต้องการแตะและห้ามใครแตะ หากมุ่งมาดแต่เพียงกลับไปสู่ยุคทองก่อนถูกทหารกลุ่มนี้ยึดอำนาจตั้งแต่ครั้งแรก ก็ไม่ต่างอะไรกับพวกที่เป็นลิ่วล้อ เชียร์ และหวังสืบอำนาจ คสช. ภายใต้ศักดาเจ้าสัวและบารมีศักดินา
สิ่งที่คนรุ่นใหม่เรียกร้องต้องการและสะท้อนอยู่ในนโยบายของพรรคก้าวไกลพอสมควร เป็นการก้าวไปข้างหน้าโดยมิพักพะวักพะวงเรื่องหลังๆ พวกเขาจึงต้องการแก้ไขทั้งหมวดหนึ่งและสอง ส่วนฝ่ายตรงข้ามซึ่งพยายามยึดยื้อ กลั่นแกล้ง ทำร้ายทุกวิถีทาง
ต้องการถอยกลับไปหายุคทองของพวกตนเหมือนกัน ที่การมีศักดินาเสวยสุขด้วยน้ำพักน้ำแรงของคนวัยทำงาน ‘สมบูรณา’ เสียยิ่งกว่ายุคทองของทักษิณ
(https://www.matichon.co.th/politics/news_2778335,
https://www.matichon.co.th/politics/news_2778383, https://www.facebook.com/Prachaya.Philosophy/posts/4431565530209818 และ https://www.posttoday.com/politic/news/655570)