อิทธิฤทธิ์ทางการเมืองของธรรมนัส น่าทึ่งมาก

Thanapol Eawsakul
1h ·

ธรรมนัส พรหมเผ่า่ จากผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย สู่ เลขาธิการช่องโจรพรรคพลังประชารัฐ
........
หมายเหตุ ข้อเขียนชิ้นนี้เขียนด้วยอคติล้วนๆ อันเนื่องจากการโหวตเชิงยุทธศาสตร์ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ต้องไปเลือกธรรมนัส พรหมเผ่า
........
(1)
ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ธรรมนัส พรหมเผ่าจะได้เป็นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ด้วยความคาดหวังว่าจะชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทะลายในการเลือกตั้งครั้งหน้า พร้อมการแก้ไขระบบเลือกตั้งให้กลับมาเป็นปี 2540
'ธรรมนัส'ลั่นพร้อมนั่ง'เลขาฯพปชร.' เผย เตรียมแผนสู้เลือกตั้งไว้แล้ว
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/944063
เพื่อไทย-พลังประชารัฐ ฝันบัตร 2 ใบ
https://www.thairath.co.th/news/politic/2117590...
(2)
ธรรมนัส เกิดวันที่ 18 สิงหาคม 2508 ในชื่อ มนัส, ยุทธภูมิ
ในปี พ.ศ. 2525 เข้าเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 25 ต่อมาปี 2527 เข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนนายร้อย จปร. รุ่นที่ 36 และจบปีการศึกษาในปี 2532
ธรรมนัส จึงเป็น ตท. 25 และ จปร. 36 รุ่นเดียวกันกับ พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม และ พ.ท.หิมาลัย ผิวพรรณ นายทหารมาเฟียชื่อดัง
ปัจจุบันธรรมนัสเป็นประธานรุ่น ตท. 25
"ธรรมนัส" ปธ.นตท.25 คนใหม่ทำบุญอุทิศกุศลเพื่อน นตท.ผู้ล่วงลับ
https://siamrath.co.th/n/129050
จบมาเพียง 2 ปี ก็เกิดเรื่องทำให้ต้องออกจากราชการ เริ่มจากปี พ.ศ. 2534 ถูกปลดจากราชการด้วยข้อหา ขัดคำสั่งผู้บัญชาการ แต่เพียงปีเดียว 2535 เข้ารับราชการใหม่ ในกองทัพเรือ ก่อนย้ายกลับเข้าสู่ กองทัพบก
ปี 2536 นายมนัส โบกพรหม ในขณะนั้น หรือ ธรรมนัส พรหมเผ่า ไปติดคุก เนื่องจากพัวพันกับการขนเฮโรอีนข้ามชาติ ถึง 4 ปีที่ประเทศออสเตรเลีย
ในเวลานี้เอง ปี พ.ศ. 2536 ธรรมนัสก็ถูกปลดออกจากราชครั้งที่ 2 เนื่องจากหนีราชการในเวลาประจำการ
ทั้งหมดจึงนำมาสู่การถอดยศ และเปลียนเส้นทางชีวิตในเวลาต่อมา
(3)
เมื่อวันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2541 ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ถอดยศ ร้อยโท พชร พรหมเผ่า (ชื่อในขณะนั้น) เนื่องจากประพฤติตนไม่เหมาะสมตามพระราชบัญญัติวินัยทหาร พุทธศักราช 2476 ซึ่งลงนามโดย นายชวน หลีกภัย ซึ่งเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการในขณะนั้น
ธรรมนัสเริ่มงานการเมืองกับพรรคไทยรักไทยเมื่อปี พ.ศ. 2542 (1 ปี ภายหลังก่อตั้งในวันที่ 14 กรกฎาคม 2541 ) โดยการชักนำของ "เสธไอซ์" พลเอก ไตรรงค์ อินทรทัต เพื่อน ตท. 10 ของ ทักษิณ ชินวัตร รวมทั้งความที่เป็นคนพื้นเพ จ.พะเยา จึงมีความสนิทสนมกับ “เจ๊แดง” เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวของ ทักษิณ ชินวัตร
ธรรมนัสจึงได้รับผิดชอบดูแลยุทธศาสตร์เลือกตั้งในสนามกรุงเทพฯ นับว่าใหญ่ไม่เบา
(4)
แต่ในปีเดียวกัน ธรรมนัส เมื่อยังเป็น ร.อ.พชร ได้ไปเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมหนุ่มนักเรียนนอก โดยคดีนี้ตำรวจออกหมายจับ ในฐานะเจ้าของบ้านเกิดเหตุ กับพวกรวม 3 คน ต่อมาในปี 2546 ศาลได้มีคำพิพากษายกฟ้องตัวเขากับลูกน้องที่เป็นทหารในคดีดังกล่าว
แม้ว่าเขาจะหลุดจากคดี แต่ทว่าเส้นทางการเมืองของธรรมนัสก็ยังไม่เริ่มต้นเสียที แต่กลับทำให้ธรรมนัสสะสมความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจแทน
ข้อมูลจากไทยรัฐบอกว้า ความฝันสมัยเรียนนายร้อย จปร. ของ “ธรรมนัส” คือ ทหารม้าที่อยู่ตามชายแดน แต่เมื่อถึงวันหนึ่งเขาไม่ได้สวมเครื่องแบบ ก็เลยผันตัวเองมาทำธุรกิจรักษาความปลอดภัย ชื่อ บริษัท ธรรมนัส การ์ด (ขายกิจการไปแล้ว) แน่นอนว่าคนที่ให้ความสนัยสนุนอย่างดีคือ “เสธ.ไอซ์” พล.อ.ไตรรงค์ อินทรทัต นั่นเอง
จากบริษัท รปภ. ก็ต่อยอดทำธุรกิจด้านอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น รถเมล์, อสังหาริมทรัพย์, ตลาด และยี่ปั๊วขายสลากฯ ร.อ.ธรรมนัส จึงเป็นยี่ปั๊วรายใหญ่ของประเทศ เพราะเข้ามาบริหาร หจก.ขวัญฤดี ซึ่งเป็นหนึ่งในห้าเสือกองสลาก
ปูมหลัง "ธรรมนัส" ชีวิตสุดโชกโชน อดีตทหาร ถูกมองมาเฟีย สู่สายเคลียร์ สลายก๊ก
https://www.thairath.co.th/news/local/north/1609296
แน่นอนว่าช่วงที่ธรรมนัส สะสมความมั่งคั่งจาก กองสลากคือในยุคที่ พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ เพื่อน ตท. 10 ของทักษิณ เป็น ผอ.กองสลาก นั่นเอง
(ดังนั้นจึงไม่แปลกเมื่อเกิดรัฐประหาร 2557 คสช.ได้มีการแต่งตั้ง “พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์” เป็นประธานคณะกรรมการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล มาจัดการหวยแพง ซึ่งประธานบอร์ดคนใหม่ได้เชิญ ร.อ.ธรรมนัส ไปหารือเรื่องจัดระบบขายสลาก ส่วนจะมีข้อตกลงอะไรกัน นั้นไม่ทราบได้ )
(5)
กลับมาที่เส้นทางการเมืองของธรรมนัส เมื่อสะสมความมั่งคั่งแล้วก็ได้กลับมาทำงานการเมืองผ่านพรรคพลังประชาชนและพรรคเพื่อไทยโดยเแพาะในพื้นที่ภาคเหนือ เขาเป็นคนทำงานสำคัญคนหนึ่งในการเชื่อมต่อคนเสื้อแดงกับทักษิณ
เกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ ธรรมนัส จึงแตกต่างจากฉรมโบ้ เมื่อเขาพูดกับคนเสื้อแดง เขายังยกย่องทักษิณ แม้จะย้ายค่ายมาพรรคพลังประชารัฐแล้วก็ตาม
"ธรรมนัส"อ้อนคนลำปาง อ้างรอ"ทักษิณ"ไม่ไหวจึงย้ายซบ"พปชร."
https://www.banmuang.co.th/news/politic/195071
(6)
ภายหลังการเลือกตั้ง 2554 ที่พรรคเพื่อไทยชนะอย่างถล่มทลาย แม้ธรรมนัสจะไม่ได้ลงการเมืองเต็มตัว แต่ใครก็รู้ว่าเขาคือมือทำงานคนหนึ่ง โดยเฉพาะเสื้อแดงภาคเหนือ
เมื่อถึงการเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ 2557 ธรรมนัส จึงได้เป็น ส.ส. ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย อันดับที่ 55 สูงกว่า นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สายตรงทักษิณที่เสนอเรื่อง เหมาเข่งสุดซอย หรือแม้แต่ นายวัฒนา เมืองสุข
อย่างที่ทราบการเลือกตั้ง 2 กุมภา 2557 เป็นโมฆะ และนำไปสู่การรัฐประหาร 2557 ในที่สุด
หลังจากนั้นธรรมนัสก็มี "โปรย้ายค่าย" มาสังกัดพรรคพลังประชารัฐ และมีแนวโน้มว่าจะขึ้นสู่เลขาธิการพรรค เพื่อจะนำทัพ "ซ่องโจร" แห่งนี้มีเป้าหมายจะชนะพรรคเพื่อไทย ที่เขาเติบโตมานั่นเอง
รวมทั้งการ ฟอกขาวจากศาลรัฐธรรมนูญไทยด้วย
"ธรรมนัส" รอด ศาลรธน.ชี้ ไม่พ้นสถานะ รมช.และ ส.ส. เหตุไร้ผลพูกพัน ก.ม.ไทย
https://www.thairath.co.th/news/politic/2084700

พลังประชารัฐร้าว รัฐบาลป่วน สัญญาณเลือกตั้งเริ่มมา ธรรมนัสขยับยึดพรรค อนุชาโดนกดดันพ้นเลขา สามมิตรจ่ออวสานแบบสี่กุมาร ถึงยื้อรอบนี้ได้ก็หลุดจากตำแหน่งอีกไม่นาน #Overviewhttps://t.co/ctPP0MAtvg

— sirote klampaiboon (@sirotek) June 17, 2021