วันจันทร์, เมษายน 19, 2564
เมื่อไม่นานมานี้... เราเคยอยู่ในยุคที่บ้านเมืองกำลังก้าวหน้าไปได้ด้วยดี มีพรรคการเมืองที่ก้าวหน้าทั้งความคิดและการกระทำ มีผู้นำประเทศที่มีวิสัยทัศน์ อะไรหลาย ๆ อย่างกำลังไปได้ดี รวมถึง "ประชาธิปไตยของประชาชน" แต่พวกเครือข่ายเผด็จการอำนาจเก่ารับไม่ได้
Nithinand Yorsaengrat
April 17, 2020 ·
เจอมาจากทวิตภพ จึงขอบันทึกไว้ว่า จริงค่ะ เราเคยอยู่ในยุคที่บ้านเมืองกำลังก้าวหน้าไปได้ด้วยดี มีพรรคการเมืองที่ก้าวหน้าทั้งความคิดและการกระทำ มีผู้นำประเทศที่มีวิสัยทัศน์ อะไรหลาย ๆ อย่างกำลังไปได้ดี รวมถึง "ประชาธิปไตยของประชาชน" แต่พวกเครือข่ายเผด็จการอำนาจเก่ารับไม่ได้
.
กลัวประชาชนจะรู้ว่าการปกครองในระบอบประชาธิปไตยจริง ๆ ดีอย่างไร นายกรัฐมนตรีแบบคุณทักษิณ ชินวัตร ดีอย่างไร คณะรัฐมนตรีและทีมงานหลายคนของคุณทักษิณซึ่งมาจากอดีตนักกิจกรรมยุคตุลาคม และยังมุ่งมั่นจะช่วยสร้างสรรค์บ้านเมืองให้เป็นบ้านเมืองดีของประชาชนทุกหมู่เหล่าจริง ๆ ทำงานเป็นและทำงานดีอย่างไร....
.
ซึ่งหมายถึงบ้านเมืองภายใต้การบริหารของพวกเครือข่ายเผด็จการอำนาจเก่าไม่ดีอย่างไร ไม่เห็นหัวประชาชนอย่างไร มุ่งกอบโกยแต่ประโยชน์เข้าตัวเองและพรรคพวกตัวเองอย่างไร ทำงานเพื่อประโยชน์ส่วนรวมไม่เป็นอย่างไร
.
ทุกอำนาจในเครือข่ายจึงต้องร่วมมือกันทำลายคุณทักษิณ รัฐบาลคุณทักษิณและผู้สนับสนุนคุณทักษิณ ด้วยข้อหาเดิม ๆ ที่ใช้กันจากอดีตจนปัจจุบันคือ ล้มเจ้า โกง ขายชาติ ตอกย้ำซ้ำไปซ้ำมา
.
คุณทักษิณถูกพวกเครือข่ายเผด็จการอำนาจเก่ากล่าวหาสร้างภาพให้เป็นคนเลวที่สุดของประเทศ ทั้ง ๆที่คุณทักษิณมุ่งมั่นทำงานเพื่อความก้าวหน้าของประเทศไทยอย่างที่สุด และทำได้จริง โครงการที่สืบทอดมาถึงทุกวันนี้เห็น ๆ คือหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่เรามักเรียกกันสั้น ๆว่า โครงการ 30 บาท ซึ่งคุณประยุทธ์ จันทร์โอชา เคยบอกว่าไม่ได้เรื่อง ต้องยุบทิ้ง ก่อนไปเอาหน้ารับรางวัลที่สหประชาชาติเมื่อเดือนกันยายน 2562 จน นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ต้องยอมไปเป็นที่ปรึกษาโครงการ 30 บาทให้คุณอนุทินแห่งภูมิใจไทยซึ่งแสดงเจตนาว่าจะสนับสนุนโครงการนี้ต่อไป เพื่อไม่ให้โครงการต้องล้มหายตายจาก ตามใจคุณประยุทธ์และพรรคพวกที่เกลียดคุณทักษิณจนประสาทเสีย
.
โครงการถุงรับขวัญเด็กแรกเกิด รวมถึงโครงการเปลี่ยนวิธีเรียนรู้ของเด็กไทยเพื่อเพิ่มเชาว์ปัญญาเด็กไทยด้วยแนวคิด brain based learning ซึ่งเคยไปได้ไกลถึงการจัดตั้งสถาบันวิทยาการการเรียนรู้และ ฯลฯ อีกมากมาย ก็เช่นเดียวกัน
.
มันจะไม่เกิดขึ้น ถ้าไม่ใช่เพราะคุณทักษิณ หรือถ้าคุณทักษิณซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรี ณ ขณะนั้น ไม่มีวิสัยทัศน์
.
ต้องบันทึกไว้ด้วยว่า เรื่องนี้ นอกจากคุณทักษิณ ยังมีผู้อยู่เบื้องหลังสำคัญ 3 ท่านคือ พญ จันทร์เพ็ญ ชูประภาวรรณ, นพ. สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ซึ่งเวลานั้นเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที ที่มีชื่อเรียกยาว ๆ ว่ากระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และอาจารย์พันศักดิ์ วิญญรัตน์
.
ก่อนจะเป็นถุงรับขวัญซึ่งเริ่มแจกในวันที่ 28 กรกฎาคม 2548 และทำได้เพียงปีเดียวก็ต้องเลิกไป เพราะปัญหามากมายที่เกิดขึ้น ตามมาด้วยการรัฐประหารในเดือนกันยายน 2549
.
พ.ญ.จันทร์เพ็ญ ชูประภาวรรณ (ปัจจุบันหันไปมุ่งมั่นปฏิบัติธรรมในพุทธศาสนา) ซึ่งทำงานวิจัยเรื่องพัฒนาการเด็กไทยมาอย่างต่อเนื่อง ได้ชักชวนมิตรสหายที่สนใจและศึกษาเรื่องพัฒนาการเด็ก รวมถึงดิฉัน (คนทำสื่อซึ่งเรียนจบมาทางด้านจิตวิทยา เขียนรายงานข่าวด้านนี้ให้กับ The Nation อยู่บ้าง และเป็นเพื่อนสนิทยาวนานกับหมอจันทร์เพ็ญตั้งแต่สมัยทำกิจกรรมยุคเดือนตุลาคม แม้จะเป็นมิตรภาพต่างสถาบันระหว่างมหิดลกับธรรมศาสตร์) มาพูดคุยกันว่า เราควรทำอย่างไรเพื่อช่วยส่งเสริมสติปัญญาเด็กไทย
.
เพราะผลการสำรวจวัดระดับเชาว์ปัญญา หรือไอคิว ของเด็กไทย เมื่อปี พ.ศ.2544 พบว่าเด็กระดับประถมศึกษามีไอคิวเฉลี่ย 92 และ ระดับมัธยมศึกษามีไอคิวเฉลี่ย 88 - 89 ขณะที่เกณฑ์มาตรฐานคือ 100
.
เวลานั้น ในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา มีการพูดคุยกันมากเรื่องการเรียนรู้ที่สัมพันธ์กับพื้นฐานการทำงานของสมอง หรือ brain based learning BBL ซึ่งมีข้อพิสูจน์มากมายว่าเป็นการเรียนรู้ที่ได้ผล และดีต่อพัฒนาการสมองที่จะเติบโตได้เต็มศักยภาพ
.
เราพูดคุยกันว่าประเทศไทยจะต้องส่งเสริมการเรียนการสอนตามแนวทางนี้ เราจะต้องทำวิจัย พัฒนารูปแบบการเรียนการสอน ทดสอบ ทดลอง ประเมินผล ดูการเปลี่ยนแปลงในตัวเด็ก แล้วสำรวจภาพรวมของพัฒนาการเด็กไทยอีกครั้งในปี 2549
.
หมอจันทร์เพ็ญคิดว่า งานแบบนี้ น่าจะให้รัฐบาลเข้าใจและเป็นผู้ผลักดันเพื่ออนาคตของประเทศ เราพยายามหลายทางที่จะเสนอโครงการ BBL เข้าไปให้ถึงรัฐบาล แต่เหมือนไม่มีใครสนใจนัก จนกระทั่งหมอจันทร์เพ็ญคิดขึ้นได้ว่า นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ซึ่งเป็นรัฐมนตรีร่วมคณะรัฐบาลคือศิษย์เก่ารามาธิบดีและอดีตนักกิจกรรมเช่นเดียวกับเธอ จึงขอนัดพบ นพ.สุรพงษ์
.
จากนั้น หมอจันทร์เพ็ญ, คุณพรพิไล เลิศวิชา นักวิชาการอิสระซึ่งศึกษาเรื่อง BBL มาระยะหนึ่งแล้ว และดิฉัน ก็ได้เข้าพบคุณทักษิณ ชินวัตร ที่ห้องประชุมในทำเนียบรัฐบาล โดยมีอาจารย์พันศักดิ์ วิญญรัตน์ ร่วมฟังอยู่ด้วย
.
ไม่เสียเวลาเยิ่นเย้อ คุณทักษิณฟังแล้วเห็นประเด็นทันที บอกว่า โอเค ดีมาก ทำเลย แล้วบอกให้อาจารย์พันศักดิ์ช่วยคิดต่อ คำว่า โอเค ของคุณทักษิณ กลายเป็นจุดเริ่มต้นของหลายสิ่งหลายอย่าง รวมถึง คำประกาศของคุณทักษิณว่าต่อไปเด็กไทยจะรู้ภาษาอังกฤษทุกคน และ “ถุงรับขวัญเด็กแรกเกิด” ซึ่งผลิตขึ้นตามแนวคิด BBL แม้จะไม่ตรงตามแบบที่เราตั้งใจไว้แต่แรกนัก ด้วยเงื่อนไขหลาย ๆ อย่างที่ต่อมาบางอย่างจะกลายเป็นข้อหาที่มี “คนดี” พยายามโยนใส่หมอจันทร์เพ็ญอย่างไม่เป็นธรรมในทัศนะของดิฉัน และยังมีเหตุการณ์รัฐประหารปี 2549 ตามมา
.
น่าเสียดายที่โครงการพัฒนาการเรียนรู้เพื่อยกระดับเชาว์ปัญญาของเด็กไทยไม่มีโอกาสเติบใหญ่เหมือนโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า แต่อย่างน้อย เราก็ได้เห็นว่า คุณทักษิณและรัฐบาลคุณทักษิณเข้าใจความสำคัญของเรื่องนี้ และได้พยายามทำแล้ว
.
ใช่ค่ะ เราเคยมีบ้านเมืองดี ๆ ที่กำลังจะก้าวหน้าไปได้อย่างดี แต่ดันมีพวกไอ้บ้าหาเรื่องทำลายด้วยข้อหาเดิม ๆ แล้วทำรัฐประหารซึ่งไม่เคยแก้ปัญหาอะไรได้และไม่เคยทำให้บ้านเมืองดีขึ้นสักครั้ง
.
เราเคยมีบ้านเมืองดี ๆ ที่กำลังจะก้าวหน้าไปได้อย่างดีจริง ๆ ค่ะ
ปล. เครดิตภาพประกอบ มีผู้ส่งมาให้ ไม่ทราบใครถ่ายรูปไว้ ขอขอบคุณมาก ๆ ไว้ ณ ที่นี้นะคะ