วันจันทร์, เมษายน 19, 2564

"กระดูก 2 ชิ้นสำคัญ ถังน้ำมัน 200 ลิตร และเหล็กเส้น 2 แท่ง" คือสิ่งที่ถูกค้นพบในปี 2562 - 7 ปีแล้วที่ บิลลี่ พอละจี หายสาบสูญ เอาผิดใครไม่ได้ ฆาตกรยังลอยนวล กระบวนการยุติธรรมล้มเหลว - หน้าที่ในการต่อสู้กับความบิดเบี้ยวนี้จะเป็นของใคร?



ศิลปะปลดแอก - FreeArts
Yesterday at 8:33 AM ·

จากการหายสาบสูญ สู่การค้นพบที่ไม่มีวันกลับคืน...
7 ปี - บิลลี่ พอละจี
.
สังคมไทยมีคดีผู้ถูกบังคับให้สูญหายมากมายให้ต้องนับ....ด้วยความรู้สึกต่างๆ นานา ทนายสมชาย นีละไพจิตร ต้า วันเฉลิม และอีก 90 กว่ารายจนถึงปัจจุบัน โดยอีกคดีคือ ‘บิลลี่’ พอละจี รักจงเจริญ นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน แกนนำการต่อสู้เพื่อกลุ่มชาติพันธุ์ เชื้อสายกะเหรี่ยง บ้านบางกลอยบน -ใจแผ่นดิน ซึ่งกว่า 20 ครอบครัวถูกบังคับให้โยกย้ายออกจากหมู่บ้าน โดยการถูกเข้ารื้อ ทำลาย เผาบ้านและทรัพย์สิน ที่หายสาบสูญไปตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2557 จนถูกค้นพบหลักฐานแสดงว่าเป็นเขา ที่ไร้ลมหายใจ สู่ความเงียบงันทางกระบวนการยุติธรรมในเวลาต่อมา เหมือนเช่นคดีผู้ถูกบังคับให้สูญหายอื่นๆ
.
"กระดูก 2 ชิ้นสำคัญ ถังน้ำมัน 200 ลิตร และเหล็กเส้น 2 แท่ง" คือสิ่งที่ถูกค้นพบในปี 2562 หลังหายสาบสูญไปเป็นเวลา 5 ปี โดยที่ DSI แถลงว่า "มั่นใจแล้วว่านี่เป็นกระโหลกศรีษะข้างซ้ายของมนุษย์ ที่มีร่องรอยแตกร้าว มีรอยไหม้สีน้ำตาล และมีการหดตัวจากกระดูกเพราะถูกความร้อนที่อุญหภูมิ 200-300 องศาเซลเซียส จากการตรวจสอบสารพันธุกรรม หรือ DNA พบว่า มีลักษณะตรงกับนางโพเราะจี รักจงเจริญ ผู้เป็นแม่ของนายบิลลี่ ดังนั้น นี่น่าจะเป็นชิ้นส่วนกระโหลกของบิลลี่"
.
เป็นที่น่าสงสัยว่าการหายตัวไปของบิลลี่ มีความเกี่ยวข้องกับการเรียกร้องความเป็นธรรมของชาวบ้านบางกลอย โดยเขา ซึ่งเป็นชาวกะเหรี่ยงรุ่นใหม่ รักผืนแผ่นดินและวิถีชีวิตของชาวกะเหรี่ยงบางกลอย (ใจแผ่นดิน) เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่ความไม่เป็นธรรมที่ชาวบ้านได้รับ ช่วงเวลาที่เขาหายตัวไป เป็นช่วงเวลาที่เขาร่วมกับทีมทนายกำลังเก็บข้อมูลจากชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการบังคับโยกย้ายของเจ้าหน้าที่อุทยาน เพื่อต่อสู้ทางกฎหมายเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับชาวกะเหรี่ยงบางกลอย รวมถึงการพยายามเปิดเผยข้อมูลหลักฐานต่างๆ โดยบิลลี่เป็นสื่อกลางและทำหน้าที่ประสานงานระหว่างชาวบ้านกับสาธารณชน สื่อสารเรียกร้องสิทธิของชุมชนกะเหรี่ยงในพื้นที่ดั้งเดิม
.
การฆ่าก็โหดร้ายทารุณแล้ว การทำลายศพยิ่งทำให้เห็นความอมหิต ไร้มนุษยธรรม ...เหล็กเส้นมีความหมายอะไร DSI ไม่เคยตอบ ซึ่งคุณอังคณา นีละไพจิตร ได้แบ่งปันประสบการณ์จากกรณีทนายสมชายว่า "เหล็กเส้นนั้น ใช้ขัดด้านบนของถังน้ำมัน เพื่อที่เวลาเผาทำลายศพ ศพจะได้ไม่กระเด็นออกมา เพราะเป็นการเผาสด"
.
กรณีของบิลลี่ ยังคงย้ำถึงปัญหา ‘การบังคับสูญหาย’ ของสังคมไทย ซึ่งแตกต่างจาก ‘การลักพาตัว’ ตรงที่การบังคับสูญหายจะมีเจ้าหน้าที่รัฐเป็นผู้กระทำหรือมีส่วนเกี่ยวข้อง โดยมักเริ่มจากการจับกุมหรือลิดรอนสิทธิโดยเจ้าหน้าที่รัฐ แต่เจ้าหน้าที่จะปฏิเสธความเกี่ยวข้อง ‘แจ้งความได้ แต่ให้ไปหาข้อมูลเอง’ คือจุดร่วมที่ตรงกันจากสิ่งที่ครอบครัวผู้สูญหายพบเจอ
.
ปัจจุบันประเทศไทย ยังไม่มีกฎหมายในความผิดฐานบังคับบุคคลให้สูญหายและเอาผิดต่อผู้กระทำผิด แม้ว่าจะมีความพยายามจากภาคประชาชนที่ผลักดันกฎหมายชื่อว่า ‘พ.ร.บ.ป้องกันซ้อมทรมาน-อุ้มหาย’ เพื่อแก้ปัญหากรณีอย่างบิลลี่ และคนที่สูญหายไปอีกหลายต่อหลายคน โดยหัวใจสำคัญของกฎหมายฉบับนี้ คือการนำคนผิดมาลงโทษ คุ้มครองสิทธิที่ผู้ต้องสงสัยควรจะมี และอุดช่องโหว่ไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐทำผิดหรือละเมิดสิทธิในชีวิตของผู้ต้องสงสัย การกำหนดโทษ นิยามการทำให้คนสูญหายให้ชัดเจน สร้างหลักประกันด้านสิทธิให้กับผู้ต้องสงสัย เพื่อไม่ให้พวกเขาถูกทำร้ายระหว่างควบคุมตัว แต่ความพยายามนี้ ยังอยู่ในความเงียบงัน ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนั้น ได้ถูกลงนามโดยนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ ประยุทธ จันทร์โอชา ในปี 2560 และยังคงเป็นเพียงร่าง พ.ร.บ.ต่อไป
.
แม้ศาลปกครองสูงสุดจะได้วินิจฉัยแล้วว่าชาวบ้านบางกลอยบน -ใจแผ่นดิน เป็นชุมชนท้องถิ่นดั้งเดิมซึ่งควรได้รับการคุ้มครอง และพิพากษาว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่อุทยานแก่งกระจานในการบังคับโยกย้ายชาวบ้านเป็นการกระทำไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ปัจจุบัน ชาวกะเหรี่ยงบางกลอย ยังไม่สามารถกลับเข้าไปอยู่อาศัยและใช้ชีวิตในพื้นที่บรรพบุรุษของพวกเขาได้ ....การเรียกร้องความเป็นธรรมให้ชาวบ้านบางกลอยของบิลลี่ แลกด้วยชีวิต แต่ความยุติธรรมต่อลมหายใจ เลือดเนื้อ จิตวิญญาณของเขายังมาไม่ถึง การต่อสู้ของพี่น้องบางกลอยเพียงเพื่อให้ได้กลับบ้าน ก็ยังคงดำเนินต่อไป
.
เรื่องราวของบิลลี่ จะหายไปจากสังคมไทยตามกาลเวลาเหมือนร่างกายของเขา หากความยุติธรรมสำหรับเขา ครอบครัว ชุมชนของเขา ไม่เกิดขึ้น เรื่องราวและจิตวิญญาณของบิลลี่จะเป็นเพียงเรื่องเล่า หรือเป็นพลังในการต่อสู้ ขึ้นอยู่กับ จะสู้ต่อหรือไม่ ความยุติธรรมทั้งต่อเขาและชุมชนของเขาจะมาถึงมั้ย และอย่าลืมว่า "เราทุกคนมีสิทธิ์ ...ที่จะเป็นบิลลี่ที่สูญหาย เพียงเพราะการต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม และต้องการยืนยันสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน" ในเมื่อที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีเจ้าหน้าที่รัฐคนไหนต้องรับโทษ หรือรับผิดชอบต่อการสูญหายของใคร กระทั่งการใช้อาวุธหรือกฎหมาย ทำร้ายประชาชนผู้เห็นต่างซึ่งๆ หน้า ยังไม่มีใครเลยต้องรับผิด หรือแม้แต่เอ่ยคำขอโทษ .... แน่นอนว่า บิลลี่ จะไม่ใช่ศพสุดท้ายที่หายไปอย่างไร้ร่องรอย
.
ณ วันนี้ ในวันที่อำนาจตุลาการถูกท้าทาย อำนาจบริหารไม่รู้อยู่ที่ไหน การยืนยันหลักการปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชน ของผู้ใช้อำนาจบริหาร ตุลาการ นิติบัญญัติ ถูกแทนที่ด้วยการจะยืนยันจะคุ้มครองเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือใครบางคนบางกลุ่มที่ใช้อำนาจตามอำเภอใจเสียมากกว่า
แล้วหน้าที่ในการต่อสู้กับความบิดเบี้ยวนี้จะเป็นของใคร?
17 เมษายน 2564
#บิลลี่พอละจี
#หยุดการบังคับสูญหาย
#EnforcedDisappearance
#saveบางกลอย