ก่อนอื่น ขอเม้นต์นอกเรื่องหน่อย บ่องตงชักจะเอียน Wassana Nanuam ‘อวย’ เกินงามแล้วนะ ที่พวกบิ๊กๆ ของเธอว์ขึ้นเครื่องแล้วทำงาน (อ่านเอกสาร) น่ะ นั่งในที่จำกัดอย่างนั้นมันต้องหาอะไรอ่าน สายการบินเขาถึงได้พิมพ์แม็กกาซีนให้อ่านกันบนเครื่องไง
ไอ้ที่ ‘แดงหย่าย’ ไปตรวจภูมิประเทศชายแดนตะวันตก เพื่อสกัดแรงงานต่างด้าวลอบเข้าเมือง กลัวเอาโควิดติดมาด้วยน่ะจะบอกให้ ไม่ต้องห่วงมากขนาดนั่งแบล็คฮ้อว์คไปตรวจหรอก มีด่านกัก ๑๔ วันแล้วพอใช้ได้ ตัวแดงเองระวังเถอะ อย่าเก็บติดมาแจกแถมก็แล้วกัน
ว่าไปแล้วเกิดไอเดียนิดนึง ไหนๆ มีแบล็คฮ้อว์คนั่งแล้ว ‘แดง’ ช่วยไปตรวจแถวชายแดนอีสานด้วยสิ สถานการณ์น้ำลำโขงเป็นไงมั่ง เห็นว่าลาวยอมให้จีนเข้าไปคุมเขื่อนในประเทศเต็มที่ เพราะไม่มีเงินพอจ่ายหนี้ค่าก่อสร้าง
แค่ห่วงว่าจู่ๆ มหามิตรใหม่ คสช.เจ้าของ ‘เส้นทางสายไหม’ คิดจะปิด-เปิดเขื่อนในลาวตามใจ จะกระทบชาวบ้านและนิเวศไทยมากเข้าไปอีก นอกจากที่ประเทศปลายทางน้ำโขงต้องสะบัก กับการปิดเปิดเขื่อนในจีนตามใจมาแล้ว
เรื่องจีนเข้าควบคุมการดำเนินงานเขื่อนผลิตไฟฟ้าในลาวนี่เป็นอุทธาหรณ์ต่อไทยในภายหน้าได้ จากรายงานข่าวว่า “กลาโหมสหรัฐเผยไทยเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่จีนจะเข้ามาสร้างฐานที่มั่นทางทหาร” นั้นถ้าประจวบกับกุศโลบาย ‘สายสร้อยไข่มุก’ และ ‘การทูตกับดักหนี้’ ด้วยละน่าห่วง
สองวันก่อนมีข่าว “คมนาคมสั่งเบรก ๗ โครงการรถไฟทางคู่เฟส ๒” ในไทย “เพื่อจัดสรรงบไปใช้จ่ายโครงการที่จำเป็นก่อน” เพราะ “รัฐบาลมีภาระหนี้สาธารณะที่สูง” แต่ก็ยังไม่ทิ้ง “เส้นทางขอนแก่น-หนองคาย
เนื่องจากมีความพร้อมและเป็น ‘ยุทธศาสตร์ชาติ’ ที่สามารถเชื่อมต่อการเดินทางไปยังจีนตอนใต้และประเทศลาว” จะอดตายก็ยังให้ความสำคัญกับ ‘Belt and Road’ ของจีนอยู่อีกนะ หรือว่าเพราะจีนเพิ่งขู่ประเทศอาเซียนอย่าทำตัวเป็น ‘mini NATO’
เมื่อวาน หลัวเจ้าฮุย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีนแถลงโจมตีสหรัฐ เข้าไปแทรกแซงเขตอิทธิพลของจีนในทะเลจีนตอนใต้ (สหรัฐส่งเรือรบแล่นโฉบ และฝูงบินไปป้วนเปี้ยน) ว่าเป็น ‘สงครามเย็น’ ทศวรรษ ๒๐
“หลัวกล่าวโดยอ้างถึงกลุ่มที่จัดตั้งโดยสหรัฐ และมีญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และอินเดียเข้าร่วม” ชาติเหล่านี้กำลังงัดข้อกับจีนอยู่ทั้งนั้น โดยเฉพาะรัฐบาลทรั้มพ์ถือเอาการท้าตีท้าต่อยกับจีนเป็นแนวทางหาเสียงให้ได้รับเลือกตั้งอีกนัยว่าทะเลาะกับจีนแล้วอเมริกาจะยิ่งใหญ่ใหม่
อเมริกาก็ใช่ย่อย ออกรายงาน ‘พัฒนาการทางทหารและความมั่นคง’ ปี ๒๐๒๐ ว่า “จีนหมายตาไทย เมียนมา สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ปากีสถาน ศรีลังกา และประเทศอื่นๆ ในแอฟริกาและเอเชียกลาง เป็นที่ตั้งฐานที่มั่นโลจิสติกส์ทางทหาร”
พร้อมทั้ง “รายงานยังเชื่อว่ากัมพูชาได้เซ็นสัญญาลับกับรัฐบาลจีน โดยอนุญาตให้กองทัพจีนใช้หนึ่งในฐานทัพเรือของกัมพูชา แม้ทั้งจีนและกัมพูชาจะปฏิเสธก็ตาม” รวมถึง “การลงทุนในท่าเรือเอกชนของจีนในมหาสมุทรอินเดีย” เพื่อขยายอำนาจทางทหาร
สำหรับอาฟริกานั้นจีนเข้าไปปักหลักอย่างหนาแน่นแล้วพอดู มีการลงทุนอุตสาหกรรมของจีนอย่างใหญ่โต ไม่ว่าจะเป็นสาธารณูปโภคหรือการผลิตทางเศรษฐกิจ หลายแห่งเช่นเอธิโอเปียและจิบูติ อยู่ในสภาพเช่นเดียวกับลาว เพียงแต่ฟองสบู่ยังไม่แตก
ที่จิบูติ จีนเข้าไปตั้ง ‘ฐานที่มั่นทางทหารแบบถาวร’ ไว้แล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. ๒๐๑๗ ฐานทัพจีนในจิบูติ “ยังเป็นฐานทัพนอกประเทศเพียงแห่งเดียวของจีน” ถ้าไม่นับ (ว่าที่) ฐานทัพบนหมู่เกาะสแปรทลี่ย์ ทะเลจีนใต้ใกล้ฟิลิปปินส์
จีนสร้างท่าเรือคอนกรีตขนาดใหญ่ชนิดพัฒนาเป็นฐานทัพเรือได้ไม่ชักช้า บนเกาะหนึ่งในสแปรทลี่ย์ อันเป็นกรณีพิพาทกับประเทศในแถบนั้น เลยไปถึงญี่ปุ่น สหประชาชาติพยายามทัดทานและตักเตือนแต่จีนไม่ฟัง จนเป็นกรณีพิพาทที่อเมริกาเข้าไปแทรก
แล้วไทยล่ะ กะอีแค่สร้างเส้นทางรถไฟฟ้าเร็วปานกลางของจีน ขั้นนำร่อง ๓.๕ กิโลเมตรก็ยังตะกุกตะกัก ที่เหลือนอกนั้นลดสเป็คจาก ‘เร็วสูงขนผัก’ สมัยยิ่งลักษณ์มาเหลือแค่ ‘รถไฟรางคู่’ ก็ยังต้องชะงักแล้วเลย ด้วยเหตุ ‘ภาระหนี้สาธารณะ’ สูง
ฉะนี้ถ้า ‘แดงหย่าย’ (และใครที่จะมาแทน) จะกรุณา คราวหน้าไม่ต้องนั่งแบล็คฮ้อว์คให้เสียดุลงบประมาณซ่อมบำรุง ชวนกันนั่งเรือดำน้ำของ ทร. ไปตรวจน่านน้ำนอกอ่าวไทยและอันดามัน ชวนกันไปเที่ยวเดียวครบทีม ตู่ ป้อม แดง จะได้ไม่เปลืองน้ำมัน
(https://www.posttoday.com/world/632211?utm_source=posttoday., https://www.posttoday.com/world/632230?=buffer, https://www.posttoday.com/world/632171article และ https://www.facebook.com/MisterBancha/photos/a.310037156299024/615747105728026/)