มันมาพร้อมกับการดับเครื่องกลไกบริหารรัฐบาลกลาง หลังเที่ยงคืนวันที่ ๒๐ ธันวาคมนี้ (ตามเวลาในกรุงวอชิงตัน ดีซี) หากสภาคองเกรสไม่มีมาตรการใหม่มาทดแทนร่าง กม.งบประมาณที่ถูกตีตกในสภาเมื่อวันวาน
ร่าง กม.ฉบับนั้นเป็นผลงานของ อีลอน มัสค์ มหาเศรษฐีรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งทุ่มเงินนับร้อยล้านดอลลาร์ช่วยหาเสียงให้ทรั้มพ์ ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา แล้วได้รับแต่งตั้งโดยทรั้มพ์ให้เป็นรัฐมนตรี (กระทรวงลอย) คู่กับ วิเวก รามาสวามี ให้คอยตรวจตราการทำงานของกระทรวงทบวงกรมต่างๆ
ซึ่งก็เป็นการขยับกล้ามรายการแรกของมัสค์ ออกมาคัดค้านร่าง กม.งบประมาณฉบับเดิม ที่มาจากความเห็นพ้องต้องกันของพรรครีพับลิกันและเดโมแครทในคองเกรส (ไบ พาร์ติซัน) เนื่องเพราะเขาต้องการให้ตัดข้อจำกัดเพดานการกู้หนี้ออกไป
ทรั้มพ์ให้ท้ายมัสค์ในข้อนั้น เขาต้องการทำงบประมาณขาดดุลโดยกู้หนี้เพิ่ม เอามาใช้ในโครงการลดภาษีที่เขาใช้หาเสียงก่อนการเลือกตั้ง แม้นว่าพรรครีพับลิกันจะเป็นเสียงข้างมากในคองเกรส แต่มีจำนวนไม่น้อย (๓๘ เสียงที่โหวตคว่ำร่างฯ) ไม่เห็นด้วย
ฮาคีม เจ็ฟฟรี่ส์ ผู้นำเดโมแครทในคองเกรส บอกว่าร่างฯ งบประมาณของมัสค์นั้นน่าขัน พวก ‘มากา’ รีพับลิกันสุดโต่ง ผลักดันให้เกิดการดับเครื่องรัฐบาลที่จะมีครั้งนี้ ขณะที่ทางพลพรรคของทรั้มพ์เชื่อว่าเดโมแครทแค่บลัฟ พวกนั้นจะโดนประชาชนด่าถ้าเกิดการ ‘ชัตดาวน์’
เจฟฟรี่ส์กล่าวอีกว่า “เป็นเวลานานนมหลายทศวรรษ ที่พรรครีพับลิกันเที่ยวเล็คเชอร์อเมริกาเรื่องความรับผิดชอบทางการคลัง เรื่องหนี้ เรื่องขาดดุล อะไรงี้ ล้วนหลอกลวงทั้งเพ” ที่จริง ส.ส.รีพับลิกันหลายคนไม่พอใจการยุติเพดานหนี้สองปี
ชิป รอย ส.ส.รีพับลิกันจากเท็กซัส อภิปรายว่าเขาไม่ยอมถอดเพดานหนี้เด็ดขาด ยกเว้นจะมีการตัดรายจ่ายอย่างจริงจังในวันข้างหน้า เขาเลยโดนทรั้มพ์สาดเสีย ว่าเป็นเพียงคนมีความทะเยอทะยาน แต่ไม่มีความเฉลียวฉลาด
ทรั้มพ์ตั้งข้อเสนอเมื่อวานนี้ (๑๙ ธันวา) ว่าควรเปลี่ยนตัว ส.ส.รอย เอารีพับลิกันคนอื่นมาแทน ซึ่งถ้าหมายถึงในการเลือกตั้งครั้งหน้า แต่อายุการดำรงตำแหน่งที่รอยได้รับเลือกตั้งมา ยังเหลืออีกไม่น้อยกว่าสองปี
(https://www.huffpost.com/entry/government-funding-donald-trump-elon-musk_n_67649020e และ https://www.bangkokbiznews.com/world/1158642?aoj=)
