วันศุกร์, ธันวาคม 06, 2567

"ฉันไม่ได้คิดอะไรมากตอนนั้น... รู้แค่ว่าเราต้องหยุดสิ่งที่เกิดขึ้น... ตอนที่ฉันเห็นทหารมีปืน... ฉันรู้สึกเหมือนได้เห็นความถดถอยทางประวัติศาสตร์... มันน่าใจสลายและผิดหวังที่เรื่องนี้เกิดขึ้นในเกาหลีในศตวรรษที่ 21" หญิงผู้เผชิญหน้าและคว้าปืนทหารเกาหลี กล่าวกับบีบีซี


"เราต้องหยุดสิ่งที่เกิดขึ้นนี้": หญิงผู้เผชิญหน้าและคว้าปืนทหารเกาหลี ให้สัมภาษณ์กับบีบีซี

ยูนา คู
บีบีซีแผนกภาษาเกาหลี
Reporting from กรุงโซล
เมื่อ 8 ชั่วโมงที่แล้ว

ค่ำคืนที่วุ่นวายในเกาหลีใต้ได้ทำให้เกิดภาพเหตุการณ์ที่คนส่วนใหญ่ไม่คิดจะเกิดขึ้นได้ในสังคมเกาหลียุคใหม่

หนึ่งในนั้นได้จับกุมความสนใจของผู้คนจำนวนมาก ผู้หญิงคนหนึ่งเผชิญหน้ากับทหารหลายนายที่ถูกส่งมาขัดขวาง สส. ไม่ให้เข้าไปในรัฐสภา

ในคลิปวิดีโอหนึ่งที่ถูกเผยแพร่อย่างแพร่หลายทางออนไลน์ อัน กวี-รยอง วัย 35 ปี โฆษกของพรรคประชาธิปไตย (Democratic Party - DP) ซึ่งเป็นฝ่ายค้าน ได้ฉวยอาวุธมาจากทหารนายหนึ่งท่ามกลางเหตุการณ์ที่วุ่นวาย

"ฉันไม่ได้คิดอะไรมากตอนนั้น... รู้แค่ว่าเราต้องหยุดสิ่งที่เกิดขึ้น" เธอบอกกับบีบีซีแผนกภาษาเกาหลี

อันเดินทางไปที่อาคารรัฐสภาในช่วงที่ทหารนำกำลังไปที่นั่น เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่ประธานาธิบดีประกาศกฎอัยการศึกทั่วเกาหลีใต้

ไม่ต่างจากคนรุ่นใหม่ในเกาหลีใต้จำนวนมาก คำว่า "กฎอัยการศึก" เป็นคำที่แปลกแยกและห่างไกลสำหรับเธอ มันถูกประกาศใช้ครั้งสุดท้ายก่อนหน้านี้ในปี 1979

เมื่ออันได้ยินข่าว เธอยอมรับว่า "ความรู้สึกตื่นตระหนกได้เข้าปกคลุมเธอ"

เมื่อกฎอัยการศึกถูกประกาศใช้ กิจกรรมทางการเมืองต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดินขบวนและการประท้วง ล้วนถูกสั่งห้ามทั้งหมด การนัดหยุดงานและการกระทำใด ๆ จากฝั่งแรงงานก็เป็นสิ่งต้องห้ามด้วย รวมถึงสื่อและกิจกรรมการเผยแพร่ข้อมูลใด ๆ ต้องอยู่ในความควบคุมของเจ้าหน้าที่ หากฝ่าฝืนอาจมีโทษถูกจับกุมหรือถูกควบคุมตัวโดยไม่ต้องมีหมาย

ไม่นานหลังจากมีการประกาศกฎอัยการศึก ผู้นำฝ่ายค้าน ลี แจ-มยอง ได้เรียกให้ สส. ไปรวมตัวกันที่รัฐสภา และร่วมกันลงเสียงเพื่อทำให้การประกาศกฎอัยการศึกเป็นโมฆะ

หลังจากที่เดินทางไปถึงรัฐสภาตอนหลัง 5 ทุ่มไม่นาน อันเล่าว่าเธอต้องปิดไฟในห้องทำงานเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ เนื่องจากในตอนนั้นเฮลิคอปเตอร์ของทหารเริ่มบินมาถึงแล้ว


อัน กวี-รยอง เป็นส่วนหนึ่งในฝูงชนที่ปฏิเสธไม่ได้ทหารปิดทางเข้าอาคารรัฐสภา

ในตอนที่เธอไปถึงอาคารหลักของรัฐสภา เหล่าทหารกำลังเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่สภา ผู้ช่วย สส. รวมถึงประชาชนบางส่วน

เธอบอกว่า "ตอนที่ฉันเห็นทหารมีปืน... ฉันรู้สึกเหมือนได้เห็นความถดถอยทางประวัติศาสตร์"

อันและเพื่อนร่วมงานของเธอพยายามอย่างเต็มที่ที่จะกันไม่ให้กองทหารเข้าไปในอาคารหลัก ซึ่งการลงมติจะเกิดขึ้นที่นั่น

พวกเขาได้ล็อกประตูหมุนจากด้านใน และนำเฟอร์นิเจอร์ รวมถึงวัตถุหนักอื่น ๆ มากองขวางไว้ด้านหน้าประตู

เมื่อพวกทหารเริ่มเดินหน้าเข้ามา อันก็ก้าวออกไปด้านหน้า

"โดยสัตย์จริง ตอนแรกฉันก็กลัว" เธอพูด พร้อมเสริมว่า "แต่เมื่อได้เห็นการเผชิญหน้าแบบนั้น ฉันก็คิดว่า ตัวเองคงอยู่เงียบ ๆ ไม่ได้"

รัฐสภาได้ลงมติยกเลิกกฎอัยการศึกตอนเวลาประมาณ 1.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของเกาหลีใต้ สส. ทั้ง 190 คนที่ปรากฏตัวที่นั่นล้วนลงคะแนนให้ยุติกฎอัยการศึก

ต่อมาตอน 04.26 น. ประธานาธิบดียุนก็ได้ประกาศยกเลิกกฎอัยการศึก

หลังจากเหตุความวุ่นวายผ่านพ้นไป อันได้งีบหลับเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ภายในอาคารรัฐสภา

เธอเล่าต่อว่า "ที่จริงฉันกลัวอยู่นิดหน่อยที่จะออกจากอาคารรัฐสภาในตอนเช้าวันนั้น เพราะเหมือนว่าแทบไม่มีรถแท็กซี่วิ่งเลย และหลังจากเหตุการณ์วุ่นวายดังพายุเมื่อคืน มันก็ยากที่จะกลับมาสู่ความเป็นจริง"

ในระหว่างที่เธอพูดคุยกับบีบีซี อันยังคงสวมเสื้อคอเต่าสีดำและแจ็คเก็ตหนังตัวเดียวกับที่ปรากฏในคลิปวิดีโอจากคืนก่อน

บางครั้ง เธอก็ตื้นตันไปด้วยความรู้สึก

"มันน่าใจสลายและผิดหวังที่เรื่องนี้เกิดขึ้นในเกาหลีในศตวรรษที่ 21" เธอกล่าว

https://www.bbc.com/thai/articles/c1j0rx9ndg2o