ไม่ต้องรอวันฟ้าสีทองผ่องอำไพกันละ วันฟ้าคลึ้มฝนอย่างนี้ ศาลไทยในพระปรมาภิไธยนี่เองแหละ ยอมรับว่าข้อมูลเกี่ยวกับการกระทำบางอย่างของ ร.๑๐ “ทำให้สถาบันกษัตริย์เสียหาย” ข้อมูลเหล่านี้ ได้แก่
๑.การเดินทางเข้าออกประเทศไทยของรัชกาลที่ ๑๐ เสด็จไปมาเจอระมันนีเป็นว่าเล่น ระหว่าง ๑๓ ตุลา ๕๙ ถึง ๒๐ กันยา ๖๓ ๒.เรื่องการใช้จ่ายส่วนพระองค์โดยใช้งบประมาณประจำปี ๒๕๖๓ และ ๓.การใช้จ่ายงบประมาณโดยสำนักทรัพย์สินฯ ปี ๖๐-๖๔
ข้อมูลเหล่านั้นจำเลย ๒๒ คนในคดีชุมนุม #๑๙ กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร ใช้เป็นหลักฐานต่อสู้ แต่เมื่อขอจากแหล่งข้อมูลแล้วไม่ได้รับความร่วมมือ จึงได้ร้องต่อศาลให้มีคำสั่งเรียกข้อมูลเหล่านั้นมาใช้ประกอบการพิจารณาคดี ศาลก็เบี้ยวซะอีก
ศาลอ้าง พรบ.ข้อมูลข่าวสารทางราชการ พ.ศ.๒๕๔๐ ว่าข้อมูลดังกล่าวเหล่านั้น ‘ห้ามเปิดเผย’ ถ้าจำเลยไม่เชื่อ คิดว่าศาลโกหก ก็เชิญไป “ยื่นคำร้องถึงคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร” เอาเอง ศาลช่วยอะไรไม่ได้
อานนท์ นำภา ซึ่งเป็นทั้งทนายและผู้ต้องหาในคดี กล่าวว่า “ศาลอ้างว่าไม่เกี่ยวกับคดี ทั้งที่โคตรสำคัญกับคดีเพราะคดีนี้มีการกล่าวหาว่าที่ปราศรัยเป็นเท็จ หลักฐานเหล่านี้จะยืนยันว่าไม่ได้พูดเท็จ การไม่ออกหมายเรียกหลักฐานมาให้ทำให้สู้คดีต่อไปไม่ได้”
แบบนี้เรียกว่า ศาลยิงโป้งเดียวนกร่วงสองตัว คือสามารถปกปิดข้อมูลที่จะแสดงว่ากษัตริย์ทรงทำให้สถาบันของพระองค์เองเสียหายเองแล้ว ยังยับยั้งคดีนี้ไม่ให้ไปต่อเมื่อรูปคดีกำลังจะได้เปรียบแก่จำเลยอีกด้วย
ต้องคอยจับตาดูกัน ในการนัดสืบพยานใหม่หมดในวันที่ ๒๐ กันยายน ศาลจะมีกลเม็ดเด็ดพรายอย่างไร เพื่อจะเอาผิดจำเลยทั้ง ๒๒ คนให้ได้