เอาเข้าจริง วานนี้มีแต่ภาพประชาสัมพันธ์ออกมา นั่งเซ็นเอกสารกองเล็กบนโต๊ะใหญ่ และโพสต์ท่าสนทนากับ รมช.-เลขาฯ “แข็งทื่อ” (ชาวทวิตภพคนหนึ่งเม้นต์) เท่านั้น แต่สื่อคุ้ยกันได้ลึกพอดูแล้ว โดยเฉพาะ ‘ผู้จัดการ’ เล่นข่าว “เล่าลือ”
แซ่ดในโลกโซเชียลว่า สว.คนที่มีอิทธิพลคุ้มครองเมียน้อยได้ขนาดนี้ น่าจะมีชื่อที่แปลเป็นภาษาชาวบ้านได้ว่า ‘เมือง’ เคยเป็นกรรมาธิการวุฒิสภา “ซึ่งช่วยเดินเรื่องขอความเป็นธรรมให้ บอส อยู่วิทยา” ข้อสำคัญมี เลขาฯ สถาบันปฏิรูปยุติธรรม ยืนยัน
เรื่องฉาวที่เกี่ยวกับคนมีอิทธิพลอย่างนี้กลายเป็น ‘ปกติใหม่’ ไปแล้วว่า ทางการและตำรวจจะช้ากว่าสื่อ บางครั้งสื่อไปไกลลิบเกินเส้นทางก็มี อย่างกรณี ‘ทนายตั้ม’ พานักแสดงสาววัย ๒๑ มาปูด ว่าถูกนักธุรกิจใหญ่หลานชายอดีตรัฐมนตรี มอมยาแล้วชำเรา
“เป็นหลานรัฐมนตรีสมัยเมื่อ ๔๐ กว่าปีมาแล้ว” Soraj Hongladarom @Sonamsangbo บอก “ไม่ต้องเรียกแบบนี้ก็ได้มั้ง” ถึงอย่างนั้นก็คุ้ยกันจนเจอว่าเสี่ยหนุ่มวัย ๓๕ ผู้ถูกกล่าวหา เป็นหลานทางสายแม่ของ อุปดิศร์ ปาจรียางกูร อดีต รมว.กต.
เพราะหนุ่มซีอีโอบริษัท Aphi Enterprise นายนี้บางทีไม่ได้ใช้นามสกุล อินทุลักษณ์ ของบิดา แต่ไพล่ไปใช้นามสกุลเดิมมารดา คงใหญ่กว่า โก้กว่าละมัง อย่างไรก็ตามเรื่องนี้เกิดฟู่ฟ่าขึ้นมา มิใช่เพราะ “แจ้งความ สน.โชคชัย แล้วคดีไม่คืบหน้า”
แต่เพราะเกิดมี ‘อาน้อง’ ของผู้ถูกกล่าวหา ติดต่อผู้เสียหาย บอกว่า “พอจะคุยกันได้มั้ย ถ้ามีปัญหาเรื่องการเงินก็จะช่วย พร้อมยื่นข้อเสนอเรื่องงานในวงการบันเทิง แลกกับการที่จะไม่ดำเนินคดี” แถมแกมขู่ว่า “ถ้ามีอะไรไม่ดี จะเสียหายทั้งคู่” นะ
“อยากจะขอท้าน้องฝ่ายหญิงดื่มน้ำสาบาน ไม่รู้เขาจะกล้าหรือเปล่า” เพื่อไปพิสูจน์ความจริงกันที่วัดพระแก้ว ไม่ทราบว่าใช้น้ำอะไรดื่ม น้ำมนต์หรือน้ำแร่ ที่ว่าพิสูจน์ความจริงได้ “ที่ผ่านมาหลานชายเป็นคนดีมาก ไม่เคยมีประวัติด่างพร้อย”
มาเสียเอาตอนปล้ำข่มขืนหญิงเนี่ยนะ เฮ้อ ทำให้ชาวบ้านลืมเรื่องผู้ผลิตวัคซีน ‘แอสตร้าเซเนก้า’ ในไทย รวยฉิ_หา_ ไปวันหนึ่ง ขนาดผลิตได้ช้ากว่ากำหนดหลายเดือน จนรัฐบาลหันไปซื้อวัคซีนจีนล็อตใหญ่แก้ขัด แล้วยังต้องจ่ายให้สยามไบโอไซน์ ๔๘-๔๙ ล้านโด๊สเซส
(https://www.bbc.com/thai/55097716, https://www.facebook.com/sorrayuth9115/posts/pfbid027dRWUUY และ https://mgronline.com/specialscoop/detail/9630000077637)
