วันจันทร์, สิงหาคม 29, 2565

กิจกรรม Let’s UNLOCK EM “ปลดมันออกไป” เดินจากศาลอาญากรุงเทพใต้ถึงสยามสแควร์

ภาพจาก ไข่แมวชีส

iLaw
4h
#ม็อบ28สิงหา65 Let’s UNLOCK EM “เดินเพื่อปลดมันออกไป”
.
.
วันที่ 28 สิงหาคม 2565 เวลา 13:00น. ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ มีกิจกรรมเดินเพื่อเรียกร้องเรื่องกำไล EM ระบุว่า เป็นเงื่อนไขการประกันตัวที่เป็นเหมือนโซ่ตรวนและมักจะถูกตีตราจากสังคมว่า จำเลยคดีการเมืองที่สวม EM เป็นผู้กระทำความผิดร้ายแรง โดยยังไม่ระบุที่หมายของการเดินในวันนี้ ตั้งแต่เวลา 12.30 น. ก่อนเริ่มกิจกรรมตำรวจเริ่มวางกำลังที่บริเวณด้านหน้าและภายในศาลอาญากรุงเทพใต้ บริเวณใกล้เคียงมีรถกระบะติดตั้งเครื่องขยายเสียงและรถบัสกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชนจอดอยู่
.
.
เวลาประมาณ 14.30 น. เริ่มตั้งขบวน มีทีมราษฎรัมส์ - RasaDrums กลุ่มมวลชนและสื่ออิสระ วัยรุ่นคนหนุ่มสาวนักกิจกรรมที่ถูกดำเนินคดีทางการเมือง มีเงื่อนไขการปล่อยตัวชั่วคราวให้ต้องติดกำไล EM ที่จำกัดเวลาห้ามออกจากบ้าน วรรณวลี ธรรมสัตยา หรือ ตี้ พะเยา หนึ่งจำเลยคดีการเมืองที่ถูกติดกำไล EMได้กล่าวถึงสถานการณ์คดีการเมืองตอนหนึ่งกล่าวถึงมานีและจินนี่ สองนักกิจกรรมอิสระที่ศาลอาญากรุงเทพใต้มีคำสั่งไม่ให้ประกันตัวในคดีดูหมิ่นศาลจากการชุมนุมที่หน้าศาลอาญากรุงเทพใต้เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2565 ระบุว่า การหมิ่นศาลคู่กรณีคือศาลและศาลเป็นผู้ตัดสินคดี พร้อมตั้งคำถามถึงความเป็นธรรม
“วันนี้หนูติดทั้ง EM และมีโซ่ตรวนเป็นสัญลักษณ์เพื่อแสดงให้เห็นว่า ใช่ เราอาจจะติด EM เราอาจจะติดโซ่ตรวน แต่ไม่สามารถฉุดรั้งให้เราหยุดเคลื่อนไหวเพื่อประเทศนี้ได้”
.
.
จากนั้นจึงเริ่มเดินเท้าออกจากบริเวณหน้าศาลอาญากรุงเทพใต้มุ่งหน้าถนนเจริญกรุง เวลา 16:10 น. ขบวนเดินเท้ามาปักหลักพักบริเวณสามย่านมิตรทาวน์ พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ ผู้กำกับการสน.ปทุมวันได้เข้ามาเจรจาขอให้ขบวนหลีกเลี่ยงเส้นทางเนื่องจากจะมีขบวนเสด็จ เวลา 17:00 น. ผู้ชุมนุมมาปักหลักทำกิจกรรมที่บริเวณสยามสแควร์ ท่ามกลางประชาชนที่เดินผ่านไปมาพร้อมด้วยป้ายข้อความเพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เพื่อเรียกร้องอิสรภาพที่หายไปและกิจกรรมทำโพล “เห็นต่างทางการเมืองควรติด(EM)หรือไม่?”และเวลา 18.00 น. ผู้ชุมนุมยุติกิจกรรม
.
.
ไข่แมวชีส

อย่าพลาดชมภาพงามๆเพจ ไข่แมวชีส
https://www.facebook.com/eggcatcheese/posts/3221003474821865
.....
 
.....
Get Surariddhidhamrong
4h

บางคนมองมาจากโลกหลังความตาย
บางคนมองมาจากต่างประเทศ
บางคนมองผ่านลูกกรงเหล็ก
บางคนก้มมองไปที่กำไลที่ข้อเท้า
บางคนมองออกไปนอกบ้าน เพราะออกไปไหนไม่ได้
บางคนมองนาฬิกา เพราะต้องกลับบ้านให้ทันเวลา
บางคนมองปฏิทินแล้วนับถอยหลังวันตัดสิน
หลายคนเหล่านั้นต่างถามตัวเองและสังคมว่า
นี่หรือคือราคาของเสรีภาพ