‘ขุนศึกและศักดินา’ มาอีหรอบเดียวกันหมด นั่นคือบังคับใช้กฎหมายอย่างมั่วซั่ว ไม่ตรงคลองธรรม หรือกระทั่งตั้งใจละเมิดบิดเบือน กรณีราชกิจจาฯ โอนข้าราชการปกติไปอยู่ ‘ในพระองค์’ นั่นเพิ่งโดนจับโป๊ะไปหลัดๆ นี่ ผบ.ทหารสูงสุดเจอบ้าง
คราวนี้ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ชี้ความ ‘sloppy’ ไม่รัดกุม ในประกาศของหัวหน้ารับผิดชอบสถานการณ์ฉุกเฉิน ด้านความมั่นคงสาธารณสุข ที่พลเอก เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ สวมหมวกใบนี้ ซึ่งระบุว่า “ห้ามมิให้มีการชุมนุม
หรือการทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค ในพื้นที่ที่มีประกาศหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุม ‘สูงสุดและเข้มงวด’ พื้นที่ควบคุม ‘สูงสุด’ พื้นที่ควบคุม (เฉยๆ) และพื้นที่เฝ้าระวัง ‘สูง’ เว้นแต่...” ได้รับอนุญาตหรือยกเว้น
ความไม่รัดกุมที่ว่านั้นทำให้ความหมายของประกาศเปลี่ยนไปจากหลังเท้าเป็นหน้ามือ คือแทนที่จะห้ามชุมนุม เมื่ออ่านเอาเรื่องโดยละเอียดแล้วพบว่า ประกาศนี้เปิดช่องให้ชุมนุมได้ ในเมื่อสถานที่ต้องห้ามต่างๆ ดังที่เน้นไว้ในย่อหน้าก่อน หมดไปแล้ว
“ณ วันที่ ๑ ส.ค. ๒๕๖๕ ไม่มีจังหวัดใดในประเทศไทยที่ถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่ควบคุมสูงสุด พื้นที่ควบคุม และพื้นที่เฝ้าระวังสูง อีกต่อไปแล้ว” ด้วยคำสั่ง ๑๒/๒๕๖๕ ประกาศเมื่อ ๒๓ มิ.ย.๖๕ ลงนามโดยประยุทธ์ จันทร์โอชา
“กำหนดให้ ทุกเขตพื้นที่จังหวัดทั่วราชอาณาจักรเป็น #พื้นที่เฝ้าระวัง ทั้งหมด” จึงไม่เข้าข่ายในประกาศของ ผบ.สูงสุด (เมื่อ ๑ สิงหา) ห้ามชุมนุมหรือทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค “ในพื้นที่ที่มีประกาศหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่เฝ้าระวัง”
ศูนย์ทนายฯ บอกว่าอย่างนี้เท่ากับให้ชุมนุมได้ทั่วประเทศ เพียงแค่ดำเนินการตามข้อกำหนด ๔๖ และ ๔๗ โดยอนุโลมเท่านั้น ข้อกำหนด ๔๖ (๒๓ มิ.ย.๖๕) กำหนดว่าถ้าเป็นกิจกรรมซึ่งมีคนร่วมมากกว่า ๒ พัน ให้ “แจ้ง (มิใช่ขออนุญาต)” ต่อคณะกรรมการโรคติดต่อ
ส่วนข้อกำหนด ๔๗ (๒๗ ก.ค.๖๕) บอกว่า “การชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธเป็นเสรีภาพของประชาชนที่ย่อมกระทำได้ภายใต้ขอบเขต...” มาตรการของ ‘ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.)’ ที่พล.อ.เฉลิมพลสวมหมวกอยู่
ศูนย์ทนายฯ ยังยกตัวอย่างที่แสดงว่าการชุมนุมทำได้จากที่ “เคยมีคำพิพากษาในคดีคาร์ม็อบที่จังหวัดกำแพงเพชร” ศาล ‘ยกฟ้อง’ คดีชุมนุมโดยฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉินและไม่แจ้งการชุมนุม ในประเด็นที่ว่าจะเอา พรบ.ชุมนุมสาธารณะมาบังคับใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินไม่ได้
ตลอดสองปีกว่าที่ผ่านมา ผบ.สูงสุดในฐานะหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินฯ “ออกประกาศอย่างต่อเนื่องหลายฉบับ...สร้างความสับสนให้กับประชาชนต่อการบังคับใช้กฎหมาย” แล้วยังมีหลายฉบับ “ไม่ชอบด้วยกฎหมาย” ออกเงื่อนไขเกินกว่าที่กฎหมายให้อำนาจ
ทั้งนี้ทั้งนั้น มันเรื่องอะไรให้ทหารที่ไม่มีความรู้ความชำนาญเรื่องโรคระบาด มารับผิดชอบการแก้ไขในเรื่องสาธารณสุข แม้จะอ้างว่าเป็นเรื่องความมั่นคงของชาติก็เถอะ แต่มันเป็น “ความมั่นคงด้านสาธารณสุข” ที่หลักสูตร จปร.ไม่ได้สอน
(https://www.facebook.com/lawyercenter2014/posts/pfbid02V9MV)