เพียงวันเดียวหลังจากมีข่าวออกมาจากเกาหลีใต้ว่าเกิร์ลแบนด์ ‘เคพ้อป’ กลุ่มใหม่ #H1KEY กำลังจะเปิดตัวในอีกไม่กี่วันต้อนรับปีใหม่ ถูกแฟนเพลงในประเทศไทยแห่ ‘แบน’ กันควันโขมง จำนวนทวี้ตสองแฮ้สแท็ก #SITALA กับ #H1KEY พุ่งไปกว่า ๓ ล้าน
หลักใหญ่รุมโจมตี ‘ลูกหนัง’ ศีตลา วงษ์กระจ่าง ลูกสาวคู่แฝดคนเล็กของ ‘ตั้ว’ ศรัณยู อดีตดาราดังซึ่งเสียชีวิตไปเมื่อปี ๖๓ ด้วยโรคมะเร็ง แต่บทบาทโด่งยิ่งกว่าการแสดงเป็นกิจกรรมการเมืองต่อต้านรัฐบาล ‘ชินวัตร’ ตั้งแต่ปี ๔๙ ถึง ๕๗
การเป็นแกนนำ พธม.ของศรัณยูในปี ๕๑ ตั้งเวทีประท้วง เป่านกหวีด และยกขบวนกันไปปิดสองสนามบิน ประสานกับกลุ่ม กปปส.ของ สุเทพ เทือกสุบรรณ และ สุวิทย์ ทองประเสริฐ ซึ่งเข้าไปยึดครองทำเนียบรัฐบาล และตั้งด่านวางกรวยปิดถนนในกรุงเทพฯ
เหตุการณ์เหล่านั้นเพื่อสร้างสถานการณ์ให้คณะทหารเข้ามายึดอำนาจรัฐบาลในที่สุด ผู้เข้าร่วมการ #แบนลูกหนัง ส่วนใหญ่ในขณะนี้เห็นว่าเป็นเวลา ๘ ปีภายใต้รัฐบาล คสช.ต่อเนื่องมาถึงรัฐบาลดูด ส.ส.บวก สว. ก่อความเสียหายแก่ประเทศมากมาย
“บอกว่าพ่อของเธอมีส่วนสนับสนุนเผด็จการ ขณะที่ยังมีวัยรุ่น นักเคลื่อนไหว รุ่นราวคราวเดียวกับตัวศีตลา ที่ต้องถูกจำคุกและถูกพรากอิสรภาพไป” เพราะการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร ท่ามกลางเสียงอื้ออึงบนโลกโซเชียล ก็มีเสียงกระตุก
ให้แยกแยะพ่อลูก อย่าได้ลงโทษลูกเนื่องจากการกระทำของพ่อ เสียงหนึ่งเป็นของ Pravit Rojanaphruk บก.ข่าวสดอิงลิช บอกว่า “มิสมควรลงโทษและบอยคอตหญิงคนหนึ่งเพราะสิ่งที่พ่อเธอก่อ...นี่มิใช่ความยุติธรรม แต่มันคือการล้างแค้นอย่างไม่ถูกต้อง”
อย่างไรก็ดี ยิ่งทำให้กระแสแบนยิ่งปะทุ มีเสียงโต้แย้งกลับว่าเจ้าตัวเองก็เทิดทูนการกระทำของพ่ออย่างโจ่งแจ้ง เคยไปร่วมชุมนุม และแสดงตนต่อสาธารณะสนับสนุนรัฐบาลทหาร บางคนมองว่ามันช่างย้อนแย้ง พ่อเรียกเผด็จการแต่ส่งลูกไปเสวยสุขประเทศประชาธิปไตย
ตั้วส่งลูกสาวคนนี้ไปเรียนที่ อิวฮวา เกิร์ลคอลเลจ ในเกาหลีใต้ ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นจนได้เข้าร่วมวงนักร้องนักเต้นหญิงสี่คน ในสังกัดแกรนด์ไลน์กรุ๊ป เมื่อเกิดกระแสแรงต่อต้านในไทย ศีตลาโพสต์ไอจีชี้แจงว่า “ความเข้าใจผิดเกิดขึ้นได้
เราห้ามใจใครไม่ได้ สิ่งใดที่เราไม่ได้ทำ ไม่ได้คิด ไม่ได้เป็น แต่คนอื่นคอยยัดเยียดให้เรา เราก็ไม่ควรให้ความสำคัญ เพราะเราสัมผัสได้ว่าสิ่งนั้นไม่มีอยู่จริง” กระแสความไม่พอใจยิ่งพุ่งปรี๊ดทวีคูณ โดยเฉพาะที่ รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส-ตลาดหลวง
Kritsada Akkhapracha เขียนไว้
“แยกพ่อแยกลูก พ่องง สิ โพสต์ ig
เองทุกอย่าง ทั้งไปไว้อาลัยคนเซ็นรัฐประหาร ทั้งไปเป่านกหวีด
แถมไม่เคยออกมาคอลเอาท์ หรือ ขอโทษใดๆ” Kanchanok Sutthiworakulphong
“มาหากินในประเทศที่พ่อกับแม่ยกย่องสรรเสริญนี่สิคะ ภูมิใจมากสาระแนไปเกาหลีใต้ทำไม ไปเกาหลีเหนือน่าจะเหมาะสุด” แต่อารมณ์คงไม่เท่ารายนี้ @BingsuuMelon “ถ้าแกบอกว่าเราใจร้ายเรื่องที่ไม่อยากให้แกเด (บิว) อ่ะ งั้นเราพูดกลับได้มั้ย
ว่าตอนครอบครัวแกมีส่วนร่วมกับการปิดสนามบิน บ้านเราเป็นหนี้ตั้งกี่ล้าน...เพียงเพราะว่าส่งมะขามไปจีนไม่ได้จน partners ฟ้อง ทั้งๆ ที่มันไม่ใช่ความผิดเรา แกว่าแกใจร้ายบ้างมั้ย #SITALA” ส่วน โบ๊ทเต้@iBoate เม้นต์น่าคิด
“อย่าเอาการกระทำพ่อแม่มาตัดสินลูก-รักพ่อก็รักลูกด้วย คนกลุ่มหนึ่งใช้สองประโยคนี้พร้อม ๆ กันได้อย่างไรกันนะ” หลายคนชี้ชวนให้หวนไปดูเมื่อ ๘ ปีที่แล้วพอดี ๓๐ พ.ย. ๕๖ “ผู้ปกครอง นร.เป่านกหวีดใส่ น้องไป๊ป์ ลูกชายนายกฯ” ยิ่งลักษณ์
ยิ่งชังเมื่อมาถึง ๒๑ ก.พ.๕๗ ขณะที่รัฐประหารกำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็ม
สุเทพ เทือกสุบรรณ พูดคำนี้ต่อนายกฯ “ไอ้น้องไป๊ป์ลูกคุณ ไม่มีคนเลี้ยงแน่นอน
เผลอๆ พ่อมันก็เกี่ยงไม่กล้าเลี้ยงเพราะ...” แต่ตอนนี้ศาลเพิ่งลงมือคดีเทือกทุจริตสร้างบ้านพักตำรวจมีแต่เสา
สุเทพได้ประกัน ศาลใจป้ำตั้งวงเงินประกันแค่ล้านเดียว ต่างกับอดีตนายกฯ หญิง คดีจำนำข้าวตอนนั้นวงเงินประกัน ๒๐ ล้านบาท ถึงอย่างนั้นก็ยังมีบางคนตั้งตาสู่วันข้างหน้า เห็นแวบๆ ชื่อ ‘อ็อฟ’ มีลูกสาวไม้หล่นไม่ไกลต้น
“พ่อแม่คนไหนเลียไข่เผด็จการ ก็ตื่นขึ้นมามองหน้าลูกตัวเองด้วย” Kam Phaka@kamphaka ทวี้ตเมื่อวาน ไม่รู้จำเพาะเจาะจงใครหรือเปล่า
(https://www.catdumb.com/thai-news/54255dlQ, https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_6758955 และ https://www.facebook.com/thematterco/posts/3064186230463425)