วานนี้ ๕ ธันวา อันเป็นที่มาของหยุดชดเชยวันนี้ ดูค่อนข้างเงียบเหงาในประเทศ มีแต่ที่อุทยานเฉลิมพระเกียรติในกรุงเทพฯ ที่คึกคักสักหน่อย เพราะมีขบวนรถบัสสีเทาเข้มเหมือนกันหมดจำนวนเกือบสิบคัน นำ ‘ประชาชน’ จำนวนมากไปปล่อย
‘ประชาชน’ เหล่านี้ล้วนเพศชาย พร้อมใจกันสวมใส่เสื้อสีเหลืองอ๋อย แล้วยังพร้อมใจกันไว้ผมทรง ‘เกรียน’ หัวขาวสามด้าน ทยอยกันไปที่นั่นตั้งแต่เช้า เพื่อรอรับเสด็จในหลวง ร.๑๐ ซึ่งทรงอุตสาหะบินด่วนจากที่พำนักในเยอรมนี
ทั้งนี้เพื่อทรงวางศิลาฤกษ์พระบรมราชานุสาวรีย์ ร.๙ สมเด็จพระปิตุลาธิราช เสร็จแล้วจะทรงบินรุดกลับที่พำนักค่อนข้างถาวรในยุโรป บางทีอาจจะต้องทรงเสด็จแปรพระราชฐานไปสวิสเซอร์แลนด์บ้าง นัยว่าพระราชินีทรงประทับที่นั่น
‘ประชาชน’ เหล่านั้น ระหว่างรอบางคนลุกขึ้นยืนชูป้ายข้อความ #เรารักในหลวง และ #พิทักษ์จักรีวงศ์ ซึ่งแฮ้สแท็กอันหลังนี่ Pravit Rojanaphruk@PravitR ตีความว่า “สะท้อนความรู้สึก ว่าสถานบันฯ ถูกต่อต้านคุกคามโดยคนจำนวนหนึ่ง
จึงต้องมีป้าย ‘พิทักษ์’ ป้ายเช่นนี้ไม่เคยเห็นในอังกฤษหรือญี่ปุ่น” มันเลยสะเทื้อนและสะท้าน ตามถ้อยของ pH~ (rest mode) @topazine ที่ว่า “จากวันที่ใครไม่ใส่เสื้อเหลืองถูกมองว่าแปลกแยก จนต้องกลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อ
จนถึงวันที่คนไม่ได้สนใจว่าวันนี้เป็นวันอะไร สังคมเปลี่ยนแปลงไปมากในเวลาไม่กี่ปี” อีกด้านหนึ่ง ผู้ใช้นาม พี่อ้อจิตเวชฯ...@aorwiki รำพึงรำพันว่า “พ่อผู้ร่ำรวยที่สุด บอกให้ ปชช พอเพียง ลูกสาวผู้เขียมสุด ขายทุกอย่างในสวนของย่า หัวปลียังเอาออกมาขาย
เงินไม่กระเด็นจากเป๋าสักบาท บอกให้ ปชช. ประหยัด ส่วนหลานสาวบอก หญิงเองก็ลำบาก” ด้วยวลีท้ายนี่เอง จึงมีเยาวรุ่นสองสามคนไปทำกิจกรรมสำรวจความคิดเห็นชนิดจรยุทธ์ หรือ ‘Flash Poll’ ที่บริเวณหน้าศูนย์การค้า ‘สยามพารากอน’
กระบวนการง่ายๆ ถือแผ่นป้ายสีขาวให้ผู้ที่สัญจรบริเวณนั้นเลือกติดสติ๊กเกอร์สีชมพูบนที่ว่าง ภายใต้ข้อความที่ถูกใจสองฟาก ด้านหนึ่งจั่วหัวว่า ‘สนับสนุน ๑๑๒’ อีกด้านเขียนว่า ‘ยกเลิก ๑๑๒’ มีคนสนใจร่วมกิจกรรมจำนวนไม่น้อยเลย
แม้นว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจและ รปภ.พยายามขัดขวาง สั่งให้หยุดไม่งั้นจะดำเนินคดี แต่น้องไม่ยั่น ผลปรากฏว่าเนื้อที่บนแผ่นป้ายข้างขวาภายใต้หัวข้อ ‘ยกเลิก ๑๑๒’ มีสติ๊กเกอร์สีชมพูติดแน่นขนัด แต่อีกข้างโหรงเหรงเพียงประปราย ประมาณว่าต่างกันถึง ๙๐% กับ ๑๐%
“ผลโหวตตอนนี้ต่างกันอย่างมากค่ะ มีพี่ๆ รปภ.เดินมาบอกให้น้องเลิกทำกิจกรรมบริเวณพื้นที่นี้เพราะกำลังจะมีกิจกรรมดนตรีเทิดพระเกียรติ แต่น้องยืนยันจะยืนต่อไป เพราะอยู่ภายนอก ไม่ได้เข้าไปรบกวนในงาน #วันพ่อที่ไม่ใช่พ่อ” Arsa.Plodaek@plodaek มีคอมเม้นต์
คู่ขนานกันไปในต่างประเทศ ตามเมืองใหญ่ๆ ของสหรัฐอเมริกา เช่น บอสตัน ซานฟรานซิสโก และลอส แองเจลีส รวมถึงนครซิดนี่ย์ ออสเตรเลีย และอีกหลายเมืองในยุโรป รวมทั้งหมด ๘ แห่ง พร้อมใจกันจัดกิจกรรม #5ธันวาบอกลา112
พวกเขาถือเอาวันที่ ๕ ธันวาเป็นวันบอกลากฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒ ถึงถูกกล่าวขานไปทั่วโลกว่าเป็นกฎหมายห้ามดูหมิ่นเหยียดหยาม (กษัตริย์ ราชินี รัชทายาท และผู้สำเร็จราชการแทนฯ) ที่หฤโหดรุนแรงที่สุดในโลก ด้วยโทษจำคุก ๓-๑๕ ต่อกรรม
และกฎหมายนี้ในประเทศไทย ถูกนำไปใช้โดยผู้มีอำนาจการเมือง และ ‘ประชาชน’ ในเครือข่าย ภายใต้ความจงรักภักดีต่อราชวงศ์ เพื่อกลั่นแกล้งและให้ร้ายต่อฝ่ายที่เรียกร้องต้องการความเท่าเทียมทางสังคม พร้อมทั้งเสรีภาพทางความคิดและการแสดงออก
ไม่ว่าผู้ได้เปรียบเพราะกฎหมายมาตรานี้ รวมทั้งผู้มีส่วนรับประโยชน์ และผู้มีอำนาจจะพยายามปราบปราม หรือทำไม่รู้ร้อนได้อย่างเก่งกาจเพียงใด การต่อต้านกฎหมายนี้จะไม่มีทางหยุดได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะถูกกระทำเพียงใด พวกเขาจะยืนหยัดสู้ต่อไปไม่หยุดยั้ง
วันพรุ่งนี้ ๗ ธันวา มีมาอีก กลุ่มราษฎรยกเลิก ๑๑๒ จัดแถลงข่าว ณ อนุสรณ์สถาน ๑๔ ตุลา ในหัวข้อ ‘12.12 No 112’ ความรู้สึกว่ากฎหมายฉบับนี้เป็นพิษเป็นภัยต่อคนส่วนใหญ่ ที่ต้องการก้าวไปข้างหน้ากับโลก มากกว่าเป็นคุณต่อกลุ่มบุคคลที่กฎหมายนี้ปกป้อง
(https://www.facebook.com/RatsadonNews/posts/289096389850751)