Kowit Phothisan
December 15 at 9:38 AM ·
1.
ว่ากันตามหลักคณิตศาสตร์ก่อนนะ
ไก่สาวตัวละ 185 บาท ซื้อมา 50 ตัว ราคา 9,250 บาท
ปกติไก่ไข่ออกไข่วันละฟอง ในทางทฤษฎี ผมจะได้ไข่วันละ 50 ฟอง แต่ในทางปฏิบัติ ได้สักครึ่งหนึ่งก็ไม่ได้ผิดความคาดหมาย แน่ละ ถ้าจะให้ดีควรจะได้สัก 80% ถึงจะคุ้มค่า
แต่เพื่อให้เห็นภาพง่ายๆ การคำนวณต่อจากนี้จะว่าด้วยตัวเลขโดยประมาณเป็นหลัก
ไก่ 50 ตัว กินอาหาร 5 กระสอบ/เดือน อาหารไก่กระสอบละ 390 บาท x 5 กระสอบ = 1,950 บาท บวกอาหารเสริม ยา กับวิตามินถุงละ 50-60 บาท ตกเดือนนึงก็อาจจะใช้เงินที่ 2,000 บาท บวกลบนิดหน่อย
เอา 2,000 บาทซึ่งเป็นรายจ่ายตั้งไว้ในใจก่อนนะ ต่อไปเราจะคำนวณรายรับ
ถ้าเอาตามทฤษฎี ไก่ออกไข่วันละฟอง ไก่ไข่ 50 ตัวจะให้ไข่เช้าละ 50 ฟอง เดือนนึงจะได้ไข่ 1,500 ฟอง คิดเป็น 50 แผงโดยประมาณ (ไข่ 30 ฟอง = 1 แผง) ทีนี้ไข่แต่ละแผงจะมีราคาราว 110 บาท เบ็ดเสร็จคือ maximum อาจตีเป็นเงิน 5,500 บาท
เอารายรับลบรายจ่ายจาก 5,500 - 2,000 บาท จะเหลือ 3,500 บาท/เดือน
ยังไม่นับระยะเวลาดีเลย์ที่ไก่อาจต้องใช้เวลาราว 3 เดือนจึงจะเริ่มไข่ ซึ่ง 3 เดือนนี้เหมือนอยู่บ้านหลวงครับ อยู่ฟรี กินฟรี น้ำฟรี ไฟฟรี ไม่มีอะไรรีเทิร์นกลับมานอกจากขี้ไก่
เลี้ยงไก่ 50 ตัว ได้กำไร 3,500 บาท/เดือน ใช้เวลา 3 เดือน บวก 3 เดือนในระยะตั้งต้นรวมเป็น 6 เดือนเพื่อคืนทุนพันธุ์ไก่ ที่เหลืออีก 30 เดือนคือระยะเก็บกินตอนปลาย เพราะพ้นจากนี้ไปแม่ไก่จะเริ่มให้ผลผลิตน้อยลง
ทั้งหมดนี้คือความน่าจะเป็นสูงสุดผ่านการคำนวณเฉพาะค่าพันธุ์ไก่ วิตามิน ยา และอาหาร ไม่ได้คำนวณค่าโรงเรือนหรือค่าแรง
2.
ทีนี้ว่ากันด้วยหลักปฏิบัติ
ไก่ 50 ตัวที่ซื้อมาตอนแรกเริ่ม เพียง 1-2 เดือนถัดจากนั้นก็ตายไปแล้ว 4-5 ตัว เพราะไก่ไข่มักไม่ต้านทานโรคเหมือนไก่เนื้อ พอเหลือจำนวนไก่ 40 กว่าตัว อัตราการออกไข่ที่ควรจะเป็นคือ 30 กว่าฟอง/วัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันออกไข่เฉลี่ยเพียง 50% เท่านั้น
มีบางช่วงที่ได้ไข่เกิน 30 ฟองต่อวัน แต่ก็เป็นระยะเวลาสั้นๆ ที่เหลือคือ 20 ฟองบวกลบ
ไก่ไม่ได้ออกไข่เหมือนโรบอตที่ตั้งโปรแกรมได้ มันยังมีปัจจัยอื่นอีกมากมาย ทั้งแสง อากาศ และอาหาร ที่ทำให้ได้ไข่ในปริมาณที่ขึ้นลงไม่คงที่ ฝนสาดก็ป่วย อากาศหนาวก็ไม่ไข่ แสงไม่พอก็ไม่ไข่ กินไม่อิ่มก็ไม่ไข่ น้ำไม่พอก็ไม่ไข่
หากต้องการควบคุมผลผลิตได้อย่างใจหวังจะต้องใช้การเลี้ยงระบบปิดที่ควบคุมตัวแปรและแม่ไก่ให้ทำเพียง 3 อย่างคือ กิน ไข่ และขี้ ไม่มีพื้นที่ให้เดินเล่นทอดน่อง ซึ่งผมไม่ทำแบบนั้น การให้ไก่อยู่ในตรอกแคบๆ แม้ได้ผลผลิตมากขึ้นแต่ก็สร้างภาระทางใจเพราะไก่ขาดเสรีภาพในการเดิน
การหวังไข่จากแม่ไก่นั้นไม่แน่นอน แต่ที่นอนแน่คือ ค่าอาหารไก่ขึ้นแล้วไม่ยอมลง จากกระสอบและ 390 บาทในตอนแรก วันนี้ขึ้นไป 410 บาทแล้ว
บวกลบคูณหาร รายรับจึงพอๆ กับรายจ่าย
ถามว่าเลี้ยงทำไม ผมพบว่าการเลี้ยงในปริมาณเท่านี้มีข้อดีหน่อยก็ตรงได้ขี้ไก่ไปใส่พืชผลทางการเกษตรแบบไม่ต้องควักตังค์โดยตรง และมันทำให้ชีวิตประจำวันมีอะไรทำมากกว่าเดิม ประการสำคัญที่เป็นคุณประโยชน์ของการเลี้ยงไก่ไข่คือ ผมจะพูดเรื่องนี้ไม่ได้เลยหากสะสมความรู้จากคีย์บอร์ดโดยไม่ลงมือทำ
การเลี้ยงไก่ไข่ราว 40-50 ตัว จึงมีภาระและวิธีคิดเช่นนี้
3.
การเลี้ยงไก่ 2 ตัวเพื่อหวังได้กินไข่นั้น ไม่ใช่เรื่องผิด แต่มันสะท้อนวิธีคิดแบบโรแมนติกทางการเกษตรที่ผมชิงชังเหลือเกิน
การเลี้ยงไก่เนื้อไว้กินไข่นั้นเขาไม่ทำกัน ส่วนการเลี้ยงไก่ไข่ 2 ตัวเพื่อให้ได้กินไข่วันละ 1-2 ฟองนั้นเป็นเรื่องเหลวไหล แม้จะทำอาหารไก่เองตามธรรมชาติได้ แต่มันไม่สะดวกเอาเสียเลย
หากต้องหาหยวกกล้วย กากน้ำตาล เอ็มร้อย นมเปรี้ยว มาหมักทุกวันเป็นการเพิ่มภาระที่ไม่ควรจะเป็น คือใช้แทนอาหารเสริมครั้งคราวได้ แต่เป็นอาหารหลักไม่ไหว คิดง่ายๆ ว่าใครจะว่างทำอาหารแบบนี้ทุกมื้อ หากคุมคุณภาพไม่ดีไก่ก็ป่วย หรือแย่หน่อยก็ไม่ออกไข่ เท่ากับว่าไก่ 2 ตัวต่อครัวเรือนนอกจากไม่มีผลผลิตตามที่ต้องการแล้วยังหนักไปทางเสียเวลาซะมากกว่า ฆ่าถอนขนต้มใส่ข่ายังบันเทิงกว่ารอกินไข่ตั้งเยอะ
เลี้ยงแบบนั้นไข่ก็ไม่ได้กิน ขี้ไก่ก็ไม่พอใช้ทำยา ป่วยตายก็ไลฟ์บอย
4.
อับราฮัม ลินคอล์น พูดเป็นภาษาอังกฤษว่า "It is better to stay silent and let people think you are an idiot than to open your mouth and remove all doubt."
แปลเป็นไทยว่า "ควรจะอยู่เงียบๆ แล้วปล่อยให้คนอื่นคิดว่าเราโง่ ดีกว่าเปิดปากพูดออกไปเพื่อทำให้คนอื่นหายสงสัย"
ปัญหาเล็กน้อยก็คือคนที่สักแต่พูดก็พูดจนสิ้นสงสัย ส่วนคนที่สักแต่เชื่อ ก็เชื่อโดยไม่มีคำถาม
คนจำพวกแรกได้ยินแล้วก็น่าสิ้นหวัง ส่วนคนจำพวกหลังเห็นแล้วก็น่ารำคาญ
...
พิมพ์ณพัทธ์ ตันติกำธน
ในทางปฏิบัติ
ไก่50ตัวในปี2562 ที่เริ่มเลี้ยงเพื่อสร้างอาหารในบ้าน ผ่านไปเพียงห้าเดือนไก่ลดลงเหลือเพียง25ตัว จากสถานการณ์สุนัขข้างบ้านแอบย่องมาลุยไก่ทั้งๆที่ลงทุนทำเล้าปิดล้อมจนลมแทบอับ ด้านล่างอัดอิฐบล๊อคเต็มขอบ ทับฝาที่ใช้ตะแกรงลวดทำรั้ว ทับด้วยตาข่ายอวนจับปลาตาถี่ อัดไม้อัดด้านในรอบทิศสูง120c.m. อีกที มิวาย หมามันยังตะกายเขี่ยดินจนงัดอิฐออกได้ เห่าจนไก่ตกใจบินหนีกันว่อน พอเราเปิดประตูเข้าไปดูไก่ เอ้า หมามันเบียดประตูเข้าไปตอนประตูแง้ม ไล่กัดกระจาย ตายด้วยพิษบาดแผลไปเกือบสิบตัว ที่เหลือค่อยๆทะยอยตายด้วยความตกใจและซึมลง แต่เหตุการณ์นี้ มีไก่รอด1ราย โดนกัดที่ตา ที่หลัง ที่ขา คิดว่าตายแน่แต่เห็นหายใจขยับตัวได้เลยพยายามอุ้มมาทำแผลป้อนข้าวป้อนยา พาไปทำงานด้วยใส่หลังรถไปทุกวัน เรียกว่าเลี้ยงยังกะลูก นานเป็นเดือนสุดท้ายนางก็แผลหายและรอดตาย แข็งแรงมาก ออกไข่ดกลูกใหญ่กว่าใครๆแถมออกไข่ทุกวันไม่เว้นเลย แต่ตาบอด1ข้าง เอาคืนไม่ได้
เวลาผ่านไปๆ ไก่ก็ลดจำนวนลงเรื่อยๆเนื่องจากเจ้าที่เจ้าทางหางยาวมันขุดดินได้ มุดแหกตาข่ายได้ งัดไม้อัดให้อ้าได้ โอ้ย เห้เอ้ย โคตรจะแข็งแรง ก็ทะยายฟาดไก่ กัดไก่ จนตายไปๆจนปีแรกเหลือไก่แค่ 18 ตัว
ผ่านปีที่สอง แม้หมาจะไม่มาอีกเลย แต่เจ้าเห้นี่คุยกันไม่รู้เรื่อง ยังมาเป็นอันธพาลเที่ยวตีชาวบ้าน(ไก่)เป็นระยะๆ
มาปี64ปีนี้ ไก่เหลืออยู่แค่5ตัวเจ้าข้า
เป็น5ตัวที่ไข่บ้างหยุดไข่บ้าง ( ส่วนใหญ่จะหยุดไข่ซะด้วย)
ดังนั้น ตามการคำนวณความสูญเสียที่ผ่านมา บวกลบกับจำนวนไข่ที่ได้รับ มันโคตรไม่คุ้มค่า ซึ่งมันไม่เป็นตามทฤษฎีเลย เช่น รับไก่สาวมา เขาว่า พร้อมให้ไข่ เราก็จัดอาหารกระสอบตามคำแนะนำ แต่โทษที เลี้ยงไปอีก5เดือนเพิ่งจะทะยอยไข่ฟองแรก ทั้งๆที่ฟาร์มบอกอีก2อาทิตย์ก็ให้ไข่แล้ว
ช่วงเวลาหลังตกใจของไก่หลังโดนหมาโดนเห้ลุยทุกรอบ นางหยุดไข่ยาวๆไปเกือบสองเดือน จ่ายค่าอาหารฟรีไปจ้า
ช่วงที่หวัดระบาด ติดเชื้ออหิวาต์ มีหูดงอก มันระบาดต่อๆกันจนควบคุมแทบไม่ไหว กลุ่มที่ป่วยก็ไม่ออกไข่แถมยาแพงอีก
สารพัดปัญหานี้ สุดท้ายจึงรู้ว่า ตอนที่เลี้ยงไก่5ตัว มันสบาย คุ้มค่า ประหยัดเวลา ไม่ซื้ออาหารหรือนั่งหั่นหยวกก็ได้ แถมปล่อยไก่เดินเล่นทั้งเห้ทั้งหมาก็ไม่เห็นจะกัด เพราะไก่อิสระหนีได้ บินได้ ด้วยมั้ง ส่วนเรื่องอาหาร เศษผักผลไม้ในบ้านเรา เรานั่งกินก็โยนแบ่งให้ ข้าวเย็นเหลือก็โยนไป พวกนางก็กรูมาห้อมหน้าห้อมหลังกินเกลี้ยง ไอ้ทฤษฎีที่เคยท่องเรื่องอาหารก็เลิกสนใจ ไก่มันเดินทั่วสวนหากินเอง จิกกินสารพัดไม่เห็นจะอด ไข่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เวลาไข่ก็บินไปไข่บนกองผ้าในลังกระดาษที่เผลอวางไว้ แล้วก็ไม่เปลี่ยนที่ไข่ ห้าตัวก็มาไข่ที่เดียวกันแค่สลับเวลากันมา สรุปว่า มันง่ายมากที่เลี้ยงแบบนี้ มานั่งคิดตอนนี้ เออ กูโง่เองที่วิเคราะห์เก่งทฤษฎีเยอะ จนลงทุนเล้าไปหมื่นกว่าหลังกระเบื้องคานไม้ยูคาเสาปูน
ลงทุนยา ลงทุนอาหารไปสารพัด เหนื่อยกับการตัดต้นกล้วยหั่นให้ไก่50ตัวแต่ละวัน เช้ารีบลุกมาทำให้ทันก่อนไปทำงาน เย็นต้องไปดูอาหารเติมน้ำ พักไม่ได้เดี๋ยวอาหารหมดน้ำหมด ทุกวันนี้ ห้าวันเติมน้ำทีก็ยังไม่เป็นไร ค่าอาหารไม่จ่าย ต้นกล้วยไม่ตัด แต่มีไข่กินทุกวัน แถมทิ้งบ้านไปไกลๆสามสี่วันได้สบายๆ