วันอังคาร, มิถุนายน 01, 2564

สุดเศร้า “ถ้าเขาไม่รักก็กลับบ้านเราเถอะครับ” ส.ส.ภูมิใจไทย “น้ำตาเช็ดหัวเข่า”


อภิปรายงบประมาณ ๖๕ มันหยดที่สุดก็ตอน นาโย้ตอบพวก ส.ส.ฝ่ายค้าน และพรรคลิ่วล้อที่น้อยใจ โดนตัดงบฯ “แบบนี้...ไม่รักเราอีกแล้ว...กลับบ้านเราเถอะครับ” พวก วีโว่ เหลือร้าย ทำภาพแค้ปชั่นคำบุ้ยของประยุทธ์ ที่ว่า “เรื่องโง้มานคงไม่มีปัญหา

ในการจัดกาบอษัทวัคซีน จัดกานุมัดในส่วนโง้มานในส่วนกาโหม สิ่งที่ต้องดำเนินงานต่อสาสุนั้น ยังมีโง้มานกองทุนการแพทย์ โง้มานสาสุขลดเพียงแค่ ร้อยนุงจุดเจะ” จากที่ ส.ส.วิโรจน์ พรรคก้าวไกล จาระไนไว้ “งบสาธารณสุข...ถูกปรับลดลง” ๑๐.%

แล้วเรื่องการบริหารจัดการปัญหาโควิดระบาดระลอกล่าสุด (หมายความว่าอาจมีระลอกสี่-ห้าด้วยก็ได้) พอจนปัญญาจะตอบ ก็ใช้สูตรกร่าง ข่ม พูดส่อเสียด ‘sarcastic’ ไว้ก่อน “ผมอยากทราบว่ามีวิธีการอะไรที่จะบริหารสถานการณ์ได้ดีกว่าที่เราทำในวันนี้”

ถ้าเป็นใน คลับเฮ้าส์ นะนี่ คนยกมือตอบพรึ่บว่าเยอะเลย เสร็จแล้วก็สยบเสียงอึงคนึงแจงความน่าละอาย ด้วยการปิดหูกับตา เปิดแต่ปากพะงาบ “ไม่มีการทุจริตในรัฐบาลผม ผมย้ำนะครับ...อ่าน พรบ.งบฯ ทุกที่คั่นหน้า เตรียมอ่านคำตอบ”

Deep Blue Sea @WassanaNanuam ช่วยผายให้ว่า “ฟังทุกข้อมูลไม่ใช่ฟังแต่ข้อมูลดีด้านเดียว เหน็บ ไม่รู้มีใครเคยทำมาหรือเปล่า” ไม่รู้เหมือนกันใครทำอย่างนั้นมั่ง แต่ว่าอย่างนี้ไม่ใช่เรื่องพิเศษอะไร มันเป็นพื้นฐานของการฝึกฝนเซลสมองให้ทำงาน เขาเรียกการ ค้นคว้า


ไปดูความอัดอั้นของพรรคลิ่วล้อกันก่อน ข่าวว่า ชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ถึงขั้น “เดือด” บอกว่างบประมาณตั้งไว้ในปีนี้ “ถือว่าไม่ให้เกียรติประชาชน เพราะได้ตัดงบประมาณของกระทรวงสาธารณสุขลงแทบทุกกรม แทบทุกส่วน”

เขาลงรายละเอียดว่า “การกู้เงิน ๑ ล้านล้าน มีงบสาธารณสุขอยู่ ๔๐,๐๐๐ ล้านบาท ปัจจุบันเบิกจ่ายไปแค่ ๒๐,๐๐๐ ล้านบาท เบี้ยเลี้ยงเสี่ยงภัยโควิดตั้งแต่รอบแรกตอนนี้ยังไม่มีการเบิกจ่าย จะให้ทหารพวกนี้ไปสู้ข้าศึกได้อย่างไร เมื่ออาวุธก็ไม่มี ข้าวก็ไม่มีกิน”

ฟังชาดาสาธยายนึกว่าอยู่พรรคเพื่อไทย “งบประมาณต้องดูแลกระทรวงสาธารณสุขก่อน ไม่ว่าจะเป็น เครื่องเอกซเรย์ ห้องลบความดันต่ำ หรืออุปกรณ์ต่างๆมากมาย แต่ท่านไม่ให้เลย ท่านใจดำเกินไปหรือเปล่า ...ท่านจึงได้ตัดงบประมาณแบบนี้”

ตอนท้ายเขาออกลูกน้อยใจนิดๆ ฐานที่เป็นพรรคคู่กรรมกันมาแต่ต้น “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่รักนายอนุทิน ชาญวีรกูล อีกแล้ว” โถ สัมพันธ์ส่วนตัวพังทะลาย “ผมก็อยากจะบอกว่า หัวหน้าครับ ถ้าเขาไม่รักก็กลับบ้านเราเถอะครับ”

จะถึงขนาดน้ำตาเช็ดหัวเข่าหรือเปล่าไม่อยากรับรู้ แต่ว่าสิ่งที่ฝ่ายค้านเขาว่า มันยิ่งกว่าประจานความงี่เง่าเอาแต่ได้ สถานการณ์บ้านเมืองในวันนี้ อยู่ในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน ประชาชนอยู่ท่ามกลางความเป็นความตาย ไม่รู้ว่าจะได้วัคซีนหรือฟอร์มาลีนก่อนกัน”

วิโรจน์ ลักขณาอดิสร สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ใส่ทั้งอารมณ์ขึ้งและข้อมูลที่ถูกซ่อนเร้น “การจัดทำงบประมาณในปี ๒๕๖๕ ไม่ต้องให้สอนรัฐบาลก็พึงต้องรู้อยู่แล้วว่าต้องจัดทำโดยสังวรณ์ และต้องคำนึงถึงหัวอกของประชาชน...

แล้วยังจงใจอำพราง หลอกลวงประชาชนอีกด้วย...อย่างกรณีงบฯ กองทัพบกปี ๖๕ ภาพรวมปรับลดงบประมาณลง ๖,๖๐๓ ล้านบาท ดูเหมือนจะดี แต่ในรายละเอียด” ชั่วร้าย ยกตัวอย่าง “โครงการเสริมสร้างจัดหายุทโธปกรณ์ ปี ๖๔


“มีงบอยู่ที่ ๓,๑๓๒ ล้านบาท พอมาปี ๖๕ กลับงอกเพิ่มขึ้นมา ๑,๘๐๕ ล้านบาท เป็น ๔,๙๓๗ ล้านบาท กองทัพเรือ ภาพรวมในปี ๖๕ ปรับลดลง ๑,๑๓๐ ล้านบาท แต่พอเจาะเข้าไปดูโครงการเสริมสร้างจัดหายุทโธปกรณ์ ก็มีพฤติกรรมเดียวกัน

ปี ๖๔ มีงบอยู่ที่ ๕๓๓ ล้านบาท พอมาปี ๖๕ ถูกปรับเพิ่มขึ้น ๘๗๓ ล้านบาท งอกมาเป็น ๑,๔๐๖ ล้านบาท” ตบตาประชาชนกันอย่างตาบอดตาใสเลยละ สรุปแล้วงบฯ ปีหน้าลดแต่พวกสาสุข การศึกษา และสิ่งแวดล้อม เพิ่มแต่ทัพบกทัพเรือ รวม ๒,๖๗๘ ล้าน

ส.ส.ก้าวไกล พูดในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ให้รัฐบาลประยุทธ์ลาออกไปเสียเถอะ เพื่อจิตสำนึกที่งดงาม แม้กระทั่งดักทางว่า “อย่ามาอ้างว่าสถานการณ์ที่ถูกรุมเร้าด้วยปัญหา ไม่ควรจะเปลี่ยน ม้ากลางศึก (เขา) แนะนำให้ลองก้มลงไปดูก่อน

ถ้ารู้แน่ๆ ว่าที่ขี่อยู่ไม่ใช่ ม้า ถ้าเปลี่ยนเป็นม้าได้ เมื่อไหร่ก็คุ้ม เสียแต่ว่าคนขี่และม้ามันจะไม่คุ้มหละ

(https://www.facebook.com/WassanaJournalist/posts/4148111081913985, https://www.facebook.com/VoiceOnlineTH/posts/10161820384894848 และ https://www.facebook.com/beatrix.ransibrahmanakul/posts/10219715028002422)