วันศุกร์, มิถุนายน 11, 2564

เออตลกดี ไม่ให้ ส.ส.ฉายสไลด์ประการอภิปรายเรื่องโครงการ “โคกหนองนา” เพราะเป็นโครงการพระราชดำริ (จุ๊ๆ มีฉายบนโซเชียล !)


อภิชาติ : การอภิปรายโคกหนองนา พร้อมเอกสารที่สภาห้ามฉาย!

9 มิ.ย. 64 - อภิชาติ ศิริสุนทร ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล อภิปราย พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม วงเงินไม่เกิน 500,000 ล้านบาท


Bencha Saengchantra - เบญจา แสงจันทร์
Yesterday at 10:23 AM ·

“โคกหนองนา ที่ยังมาไม่ถึง”
อีกแล้ว!! ส.ส. อภิชาติ ศิริสุนทร #พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นอภิปรายปากเปล่า เพราะเจ้าหน้าที่สภาแจ้งว่า รองประธานสภาไม่อนุญาตให้นำภาพฉายสไลด์ใช้ประกอบการอภิปราย
อ้างว่าเนื้อหาโครงการ #โคกหนองนา และเกษตรทฤษฎีใหม่ "เป็นโครงการพระราชดำริ" ไม่อนุญาตให้ฉายสไลด์ ทั้งที่งบประมาณที่ใช้ก็มาจาก พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้าน และในสไลด์เนื้อหาก็ไม่มีส่วนไหนผิดกฎใดๆของสภาเลย
————————————-
โดยเนื้อหาการอภิปรายชี้แจงว่า ปีที่แล้วรัฐบาลออก พ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ไปแล้ว มีส่วนหนึ่งคือ 4 แสนล้านบาทที่จะนำมาช่วยเหลือฟื้นฟูประเทศ
ในจำนวนหลายโครงการ มีการออกแบบโครงการด้านการเกษตร ที่อนุมัติงบประมาณผ่าน 2 หน่วยงาน คือ
-สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตร ดูแลโครงการ “1 ตำบล 1 เกษตรทฤษฎีใหม่”ใช้งบประมาณ 9,800 ล้านบาท
-กรมพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ดำเนินโครงการ “พัฒนาพื้นที่ต้นแบบทฤษฎีใหม่ โคกหนองนาโมเดล” ด้วยงบประมาณ 4,780 ล้านบาท
สิ่งที่เกิดขึ้นตลอดเกือบ 1 ปีที่ผ่านมา คือวงเงินงบประมาณสูงถึง 15,000 ล้านบาทมีการเบิกจ่ายล่าช้าได้เพียง 1,380 ล้านบาท เท่านั้น? หรือคิดเป็นเพียง 10% ที่เบิกจ่ายได้จริง
.
ปัญหาคือ ทั้ง 2 โครงการ ได้รับการจัดสรรเงินกู้ล่าช้าไป 1 เดือน ทำให้ต้องดีเลย์โครงการไปอีก 2-3 เดือน
ต่อมาเมื่อเริ่มโครงการ “1 ตำบล 1 กลุ่มเกษตรทฤศฎีใหม่” มีการกำหนดคุณสมบัติของเกษตรกรที่จะเข้าร่วมโครงการเหล่านี้ต้องอายุไม่เกิน 60 ปี และต้องยินยอมให้ทางราชการเข้าใช้พื้นที่เป็นเวลา 7 ปี หรือกำหนดว่าต้องขุดสระขนาด 4 พันลูกบาศก์เมตรเท่านั้น
.
ทำให้เกษตรกรที่มีแหล่งน้ำอยู่แล้วไม่อยากเข้าร่วมโครงการ เพราะรู้สึกเสียดายที่ทำการเกษตร หรือเกษตรกรที่มีที่ดินน้อยอยู่แล้วเนี่ยก็ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่แรกเพราะไม่สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดได้
ส่วนเกษตรกรอีกจำนวนหนึ่งบอกว่าไม่มั่นใจว่าโครงการจะทำได้สำเร็จหรือไม่ จึงไม่เสี่ยงเอาที่ดินตัวเองไปทดลองโครงการ จนทำให้จากเดิมที่ตั้งเป้าเกษตรกรไว้ 64,000 ราย แต่สมัครมาจริงแค่ 21,000 ราย ไม่ถึง 1 ใน 3
.
ประเด็นต่อมา การออกแบบแปลนผังโครงการต่างๆ ของทางราชการส่วนกลางที่ส่งมาก็ไม่สอดคล้องกับสภาพพื้นที่จริง เช่น ตอนแรกจะให้ขุดคลองไส้ไก่ยาวเป็นกิโล ในพื้นที่แค่ 3 ไร่ จนผู้รับเหมาออกมาโวยว่าไม่สามารถทำได้จริงแม้จะพยายามแค่ไหนก็ตาม
หรือแม้แต่การตรวจสอบปริมาตรดินที่ขุดขึ้นมาจะต้องได้ 4 พันลูกบาศก์เมตร หรือ 4 คิวดิน แต่ความเป็นจริงขุดตามไซส์แล้วก็ได้ดินไม่ถึง
.
ทำให้ผู้รับเหมาเองก็ถอดใจจากโครงการนี้เช่นกัน จนผู้รับเหมาทั้งหลายก็พยายามเตือนเพื่อนร่วมอาชีพ ว่าอย่ารับงานโคกหนองนา เพราะงานมีความยุ่งยากซับซ้อนและติดขัดขั้นตอนต่างๆ นานา ทั้งการลงมือทำงานจริงและการตรวจรับงาน ทำให้มีการเบิกจ่ายล่าช้า
และก่อนหน้านี้กลุ่มผู้รับเหมาเคยรวมตัวเพื่อร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนว่ามีขบวนการเรียกรับหัวคิวด้วย ใครอยากได้งานจะถูกหักหัวคิวประมาณ 30% ไปให้ ‘นาย’ ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า ‘นาย’ ที่ว่านั่นคือใคร
อุปสรรคเยอะจนแม้แต่เจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่เอง ก็ไม่อยากดำเนินโครงการนี้ต่อไป
.
โครงการโคกหนองนาและเกษตรทฤษฎีใหม่เหล่านี้ หากจะทำให้สำเร็จได้ จะต้องใช้ความพยายามอย่างสูง ทั้งการอบรมให้ความรู้ รวมทั้งต้องมีทรัพยากรสนับสนุนจากภาครัฐ ทั้งพันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ และเงินทุนในการปรับแต่งพื้นที่
สิ่งที่รัฐบาลกำลังทำอยู่ เหมือนเล่นกับความรู้สึกกับความหวังประชาชน ไม่สามารถทำให้เกิดผลจริงได้ เพียงแต่ต้องการผลาญงบประมาณเงินกู้ให้หมดไปวันๆ
.
ส.ส.อภิชาติ แสดงเอกสารจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)ที่ส่งไปยังหน่วยงานต่างๆ ถึงข้อตักเตือนและข้อแนะนำในการแก้ไขปัญหาการใช้งบประมาณที่เป็นปัญหา
ชี้แจงว่า ทั้ง 2 โครงการนี้ ได้แก่ โครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ และโคกหนองนาโมเดล เป็นโครงการที่ สตง. เข้ามาตรวจสอบแล้วพบว่ามีความเสี่ยงที่จะไม่บรรลุเป้าหมาย ไม่คุ้มค่า ไม่สอดคล้อง หรือไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์
.
เริ่มจากโครงการ 1 ตำบล 1 เกษตรทฤษฎีใหม่ ที่สุดท้ายมีการปรับลดวงเงินลงจากเกือบๆ 1 หมื่นล้านเหลือแค่ 3,550 ล้านบาท
สตง.ชี้แจงว่า สำนักปลัดกระทรวงเกษตรขาดความพร้อมที่จะดำเนินโครงการ คนสมัครเข้าร่วมโครงการน้อย สมัครไม่ถึงเป้า
.
นอกจากนี้ยังมีการขอยกเลิกเป้าหมายที่จะปลูกป่าเกือบสองหมื่นไร่ โดยขอปรับลดกิจกรรมการปรับพื้นที่ให้เป็นแปลงเกษตรทฤษฎีใหม่ ให้เหลือแค่การขุดสระ จากเดิมที่มีทั้งโคก ทั้งหนอง ทั้งนา เหลือ “หนอง” อย่างเดียว ไม่มีการขุดเหมืองคลองไส้ไก่ ปั้นโคก ทำคันนาทองคำ แล้ว
นอกจากเหลือแต่หนอง ยังลดขนาดหนองอีก จากที่เคยกำหนด 1,300 ลูกบาศก์เมตร/ไร่ ก็ลดลงครึ่งนึงเหลือ 700 ลูกบาศก์เมตร/ไร่ เพราะเกษตรกรไม่ได้มีที่ดินเหลือพอ สุดท้ายเกษตรกรก็ยังสมัครมาไม่ได้ตามเป้าอยู่ดี
.
จนต้องปรับลดจำนวนเกษตรกรเป้าหมายโครงการ จากตำบลละ 16 ราย เหลือ ตำบลละ 2 ราย ที่เคยตั้งเป้าว่าจะเกิดความร่วมมือกันเมื่อบรรลุเกษตรทฤษฎีใหม่ขั้นที่ 2 ก็อาจจะเป็นไปไม่ได้แล้ว
พอทำเป้าไม่ถึงก็ไปเอาเกษตรกรที่เคยร่วมโครงการอื่นมาใส่ แต่เอาหนองไปอย่างเดียว ปัจจัยการผลิตให้ไปเอาอีกโครงการนึง เรียกว่าตั้งใจทำเป้าตัวเลขกันอย่างเดียวไม่สนอย่างอื่น ว่าจะสำเร็จตามวัตถุประสงค์จริงๆ หรือไม่
.
เห็นชัดว่า สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตร กระทรวงเกษตร หรือแม้แต่กรมพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ไม่ได้มีความรู้ความเข้าใจมากพอที่จะทำโครงการนี้ แต่คนที่ต้องรับผิดชอบ คือคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ที่อนุมัติไปได้ยังไง
สิ่งที่ ส.ส.อภิชาติ ฝากถึงรัฐบาลให้ออกมาตอบให้ชัด คือ
1.ใน พ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท ฉบับที่กำลังพิจารณากันอยู่ มันมีโครงการทำนองนี้อยู่หรือไม่? แล้วถ้ามีจริง ตั้งใจทำต่อ จะแก้ไขปัญหาเดิมที่คาราคาซังมา 1 ปีได้อย่างไร? ไม่งั้นเดี๋ยวกู้ไปก็ทำโครงการเจ๊งอีก เหมือนที่เป็นมา
2.ในเอกสาร สตง. มีข้อเสนอแนะข้อ 2 ท่อนหนึ่งบอกว่า “สำหรับโครงการที่ยังไม่มีความคืบหน้าหรือความพร้อมในการดำเนินการ แม้ดำเนินการต่อไปก็มีแนวโน้มว่าจะไม่บรรลุผลสัมฤทธิ์ตามวัตถุประสงค์ ควรเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณายุติโครงการ เพื่อนำเงินกู้เหลือจ่ายไปใช้ดำเนินการโครงการอื่นที่มีความพร้อมและความจำเป็นเร่งด่วนมากกว่า อันจะช่วยให้การใช้จ่ายเงินกู้เกิดประโยชน์สูงสุด”
.
ส.ส.อภิชาติฝากทิ้งท้ายว่า “โครงการเหล่านี้ เป็นโครงการสืบสานต่อยอดประยุกต์จากแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 แต่รัฐบาลเอามาทำเล่นๆ ไม่จริงจัง ไม่ระมัดระวังรอบคอบกันแบบนี้ เกรงว่าจะไม่ส่งผลดีต่อใครทั้งสิ้น”
#ก้าวไกล