ธีร์ อันมัย
7h ·
เพนกวิน แถลงต่อศาล
"ข้าแต่ศาลที่เคารพ เนื่องด้วยข้าพเจ้ายังไม่ต้องคำพิพากษาให้มีความผิดตามกฎหมายมาตราใดๆ ซึ่งถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ การที่ศาลคุมขังข้าพเจ้าไว้ทำให้ไม่สามารถต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่ ดังนั้น กระบวนการนี้ไม่ใช่กระบวนการยุติธรรม จึงไม่ขอยอมรับ ขอปฏิเสธทุกกระบวนการ ไม่ลงลายมือชื่อใดๆ จนกว่าจะได้รับสิทธิการประกันตัวและสู้คดีอย่างเต็มที่ " พริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวินแถลงต่อศาลในวันนี้ และยืนยันกับแม่ว่าจะอดอาหารต่อไปจนกว่าจะได้รับ "สิทธิการประกันตัว"
.....
The Reporters
11h ·
UPDATE: ‘เพนกวิน’ แถลงต่อศาลขอถอนทนายความ 3 คน ออกจากกระบวนการพิจารณาคดีม็อบเฟสต์ ‘แม่เพนกวิน’ เผย ลูกชายยืนยันจะอดอาหารต่อเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมหลังจากนี้
วันนี้ (19 เม.ย. 64) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก กรณีที่ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานในคดีที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 7 สำนักงานอัยการสูงสุด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ ในความผิดฐาน “หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาทฯ” จากการชุมนุมกลุ่มม็อบเฟสต์ เมื่อวันที่ 13-15 พ.ย. 63 โดยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้เบิกตัวนายพริษฐ์มาจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นการตรวจพยานหลักฐานว่า คดีนี้นายพริษฐ์เป็นจำเลยตามความผิด ม.112, 116 และมาตราอื่นๆ โดยวันนี้นายพริษฐ์นั่งรถเข็นเข้ามาในห้องพิจารณาคดี ซึ่งครอบครัวและเพื่อนๆ ได้มีโอกาสพูดคุยกับนายพริษฐ์ เพราะตอนนี้นายพริษฐ์มีปัญหาเรื่องการเรียน เนื่องจากไม่ได้เข้าสอบและอาจต้องถูกรีไทม์ ศาลจึงอนุญาต ซึ่งวันนี้ถือว่าได้รับการผ่อนปรนจากศาลพอสมควร
อย่าไงนายกฤษฎางค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้อัยการแถลงสืบพยานทั้งหมด 32 ปาก และนายพริษฐ์แถลงต่อศาลว่า ตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรมในการต่อสู้คดี เพราะไม่ได้รับสิทธิ์ในการปล่อยตัวชั่วคราว ทำให้ไม่มีโอกาสแสวงหาพยานหลักฐานมาต่อสู้คดี และขอไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม จึงขอไม่เข้าร่วมการต่อสู้คดี ปล่อยให้โจทก์ทำหน้าที่สืบพยานต่อไป อีกทั้งได้ขอยื่นถอนทนายความทั้งหมดรวมจำนวน 3 คน โดยให้เหตุผลว่า หากมีทนายความไปก็ไม่สามารถช่วยเหลือได้เพราะตนเองไม่ได้รับสิทธิในการตรวจสอบพยานหลักฐานเพื่อต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังมีการขอศาลด้วยว่าไม่ต้องเบิกตัวตนเองมาขึ้นศาลอีก
อย่างไรก็ตาม ทนายความชี้แจงด้วยว่า หลังจากนี้ต้องทำการนัดสืบพยานโจทก์ต่อไป เพราะนายพริษฐ์ไม่อนุญาตให้ตนเองไปนัดสืบพยาน เพราะคิดว่าไม่อยากเข้าร่วมกระบวนการนี้ จึงไม่ได้ไปร่วมการนัด ซึ่งศาลให้นัดสืบพยานโจทก์จำนวน 9 นัด และฝ่ายจำเลยหากมองในแง่นักกฎหมาย การที่จำเลยไม่มีการตั้งทนายความ ศาลสามารถตัดสินไปตามที่โจทก์กล่าวหาได้ แต่นายพริษฐ์เชื่อว่าตนเองไม่ได้รับโอกาสต่อสู้คดีเนื่องจากไม่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวซึ่งเป็นสิทธิ์ที่ตนเองคิดว่าควรได้รับ อีกทั้งยังมองว่าถึงแม้ตนเองจะแพ้คดี แต่ก็ชนะในแง่ของกระบวนการยุติธรรม ซึ่งท้ายที่สุดศาลก็สามารถมีคำพิพากษาออกมาได้
ส่วนความกังวลหลังจากนี้ทนายความระบุว่า หากพ้นจากการเป็นทนายความให้แก่จำเลยแล้ว ตนเองจะไม่มีภารกิจใดในคดีนี้อีก แต่ความห่วงใยที่มีอยู่คือมีความห่วงกังวลแก่ผู้ที่ออกมาต่อสู้เพื่ออุดมการณ์และเขาเหล่านั้นควรได้รับโอกาสในการพิสูจน์ตามกระบวนการยุติธรรมที่เป็นธรรม จึงมีความเป็นห่วงในฐานะน้องที่รู้จัก แต่ก็ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้แล้ว เพราะเขายืนยันจะไม่เข้าร่วมกระบวนการยุติธรรม โดยมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ด้าน นางสุรีรัตน์ กล่าวว่า วันนี้ดีใจที่ได้เจอลูก เบื้องต้นได้สังเกตว่าลูกมีสุขภาพที่แย่ลง ดูผอมลง น้ำหนักลดกว่า 20 กิโลกรัม รวมทั้งแขนของลูกมีร่องรอยการเจาะสายน้ำเกลือ ส่วนตัวจึงรู้สึกเป็นห่วงลูกอยาก และอยากให้ศาลให้ประกันตัว เนื่องจากทราบมาว่าภายในเรือนจำมีเชื้อโรคเยอะ ลูกมีร่างกายอ่อนแอ จึงเกรงว่าจะทำให้อาการของลูกรุนแรงขึ้น โดยลูกชายยืนยันว่าจะอดอาหารต่อไปเพื่อเรียกร้องความยุติธรรม ซึ่งครอบครัวอยู่ระหว่างหารือกับทนายความในการยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ประกันตัวนายพริษฐ์ต่อศาลเพื่อพิจารณาขอปล่อยตัวอีกครั้งหนึ่ง
สำหรับบรรยากาศภายในห้องพิจารณาคดีวันนี้ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้คุมตัว นายพริษฐ์ขึ้นมาบนห้องพิจารณาคดี โดยนายพริษฐ์ ได้สวมแว่นตา หน้ากากอนามัย นั่งรถเข็น และมีสายน้ำเกลือ โดยมีสภาพร่างกายที่ผอมลง และ อิดโรยอย่างเห็นได้ชัด รวมทั้งมีการดมยาดมอยู่ตลอดเวลา เมื่อเข้ามาภายในห้องพิจารณา นายพริษฐ์ได้ขอให้เพื่อนผู้ชาย 2 คน ซึ่งเป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาตร์ เข้ามาในห้องพิจารณาคดี เพื่อปรึกษาเรื่องการเรียน และศาลได้อนุญาตให้หารือกับเพื่อน ทนายความ แม่ และน้องสาว ประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นนายพริษฐ์ ได้พยายามลุกขึ้นจากรถเข็น แต่ไม่สามารถพยุงตัวลุกได้ ศาลจึงให้นั่งแถลง ซึ่งนายพริษฐ์ได้แถลงต่อศาลโดยการพูดอย่างช้า ๆ ด้วยน้ำเสียงแปลกไปมีเนื้อหาว่า
"ข้าแต่ศาลที่เคารพเนื่องด้วยข้าพเจ้ายังไม่ต้องคำพิพากษาให้มีความผิดตามกฎหมายมาตราใดๆ ซึ่งถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ การที่ศาลคุมขังข้าพเจ้าไว้ทำให้ไม่สามารถต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่ ดังนั้น กระบวนการนี้ไม่ใช่กระบวนการยุติธรรม จึงไม่ขอยอมรับ ขอปฏิเสธทุกกระบวนการไม่ลงลายมือชื่อใดๆ จนกว่าจะได้รับสิทธิการประกันตัวและสู้คดีอย่างเต็มที่"
#TheReporters #เดอะรีพอร์ตเตอร์
.....
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
2h ·
วันนี้ (18 เมษายน 2564) ศาลอาญานัดพร้อมในคดีของ “เพนกวิน” พริษฐ์ ชิวารักษ์ ในคดีความสืบเนื่องจากการร่วมชุมนุมและปราศรัยใน #ม็อบ14พฤศจิกา หรือ Mobfest ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 63 ซึ่งเขาถูกฟ้องร้องใน 4 ข้อกล่าวหา ได้แก่ ประมวลกฎหมายอาญา 112, มาตรา 116, ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และใช้เครื่องเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต
.
คดีนี้พริษฐ์ถูกกล่าวหาว่าได้ขึ้นปราศรัยบนเวทีการชุมนุมดังกล่าวในประเด็นเกี่ยวการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ เรียกร้องให้กษัตริย์ธำรงตนภายใต้รัฐธรรมนูญ พร้อมขอให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งอัยการฟ้องว่าคำปราศรัยเข้าข่ายข้อหาตามมาตรา 112 และมาตรา 116
.
ในวันนี้ พริษฐ์ถูกเบิกตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาที่ศาล ทั้งที่ยังมีอาการอ่อนเพลียและต้องนั่งรถเข็นตลอดเวลา เหตุจากการอดอาหารประท้วงเป็นเวลา 35 วันแล้ว โดยในการนำตัวจำเลยมาที่ศาล เจ้าหน้าที่ยังมีการตั้งฉากกั้นเพื่อปิดบังผู้สื่อข่าวหรือช่างภาพไม่ให้ถ่ายภาพเพนกวินขณะถูกนำตัวมาศาลด้วย
.
ในการนัดสอบคําให้การ และตรวจพยานหลักฐานเพื่อกําหนดวันนัดสืบพยานวันนี้ มีโจทก์คือพนักงานอัยการจากสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 7 สำนักอัยการสูงสุด ศาลได้อ่านและอธิบายคำฟ้องให้จำเลยฟัง จำเลยยืนยันให้การปฏิเสธฟ้องโจทก์ โจทก์ติดใจสืบพยานทั้งหมด 32 ปาก ส่วนจำเลยและทนายจำเลยแถลงไม่รับข้อเท็จจริงของพยานโจทก์ทุกปาก
.
หลังจากนั้นโจทก์ได้แถลงว่า เมื่อฝ่ายจำเลยไม่ยอมรับข้อเท็จจริง โจทก์ติดใจสืบพยานโจทก์ทั้งหมด 32 ปาก โดยจะแถลงเกี่ยวกับพยานที่โจทก์ และจะนำสืบเพื่อขอหมายเรียกมาในภายหลัง ขอใช้เวลาสืบพยานโจทก์จำนวน 9 นัด
.
พริษฐ์จึงแถลงขอให้การปฏิเสธ และปฏิเสธกระบวนการในชั้นศาลนี้ เนื่องจากไม่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ทําให้ไม่สามารถต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่ หากศาลอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว พริษฐ์จะให้การยอมรับในกระบวนการยุติธรรมและจะขอต่อสู้คดี พริษฐ์ยังแถลงขอถอนทนายความที่มีอยู่ทั้งสามคน โดยได้เขียนคำร้องต่อพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด ความว่า
.
“เนื่องด้วยข้าพเจ้ายังมิต้องคำพิพากษาให้มีความผิดสถานใดถือเป็นผู้บริสุทธิ์ตามกฎหมาย แต่ศาลกลับด่วนคุมขังข้าพเจ้าไว้ราวกับเป็นอาชญากรร้ายแรง เป็นผลให้ข้าพเจ้าไม่อาจสู้คดีได้อย่างเต็มที่ กระบวนการที่ดำเนินในกระบวนการนี้จึงไม่ใช่กระบวนการยุติธรรมเป็นเพียงการกลั่นแกล้งทางการเมืองเหมือนกับศาลในระบอบนาซีเยอรมัน ข้าพเจ้าจึงขอถอนทนายและไม่ยอมรับกระบวนการในคดีนี้จนกว่าข้าพเจ้าจะได้รับสิทธิ์ในการประกันตัวให้สู้คดีอย่างเต็มที่
.
“ข้าพเจ้ายืนยันว่าปฏิเสธกระบวนการครั้งนี้เป็นเพราะข้าพเจ้าไม่ได้รับสิทธิ์ในการต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ หากได้รับสิทธิ์การประกันตัวให้ได้ต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ ก็จะให้ความร่วมมือกับกระบวนการยุติธรรม”
.
ด้านทนายความจำเลยแถลงว่าเมื่อพริษฐ์ขอถอนทนายความ แต่เมื่อศาลยังไม่ได้อนุญาตให้ถอน จึงจะขอทําหน้าที่ทนายความต่อไป และได้เคยยื่นบัญชีระบุพยานไว้ฉบับลงวันที่ 5 มีนาคม 2564 มีพยานบุคคล 4 ปาก และในวันนี้ได้เตรียมบัญชีระบุพยานไว้เพื่อยื่นเพิ่มเติม โดยมีพยานบุคคล 11 ปาก รวมทั้งหมด 15 ปาก เพื่อเป็นการรักษาสิทธิในการต่อสู้คดีของจําเลยในขณะที่ยังทําหน้าที่ทนายความ จึงขอกําหนดวันนัดในส่วนของจําเลยไว้ตามที่ได้แถลง
.
ส่วนจํานวนวันนัดของจําเลยขอให้อยู่ในดุลพินิจของศาล หากมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับพยานจะมีการแถลงให้ศาลทราบ
.
ศาลพิเคราะห์ตามคําแถลงของโจทก์และข้อต่อสู้ของจําเลยแล้ว เห็นควรกําหนดนัดสืบพยานโจทก์ 9 นัด นัดสืบพยานจําเลย 5 นัด รวมทั้งหมด 14 นัด พร้อมทั้งอนุญาตให้ถอนทนายความทั้งสามออกได้
.
จากนั้นฝ่ายอัยการโจทก์ได้ไปนัดหมายการสืบพยานที่ศูนย์นัดความของศาลเพียงฝ่ายเดียว โดยไม่มีตัวแทนของฝ่ายจำเลย และได้กำหนดนัดเริ่มสืบพยานโจทก์คดีนี้ในวันที่ 25 มิถุนายน 2564
.
การแถลงขอถอนทนายความของพริษฐ์ในวันนี้ นับเป็นการปฏิเสธกระบวนการยุติธรรม ด้วยการร้องขอถอนทนายเป็นคดีที่ 2 ของเขา หลังแถลงครั้งแรกในคดี #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร เนื่องจากยืนยันว่าตนไม่ได้รับสิทธิในการพิจารณาคดีที่เป็นธรรม จึงต้องจับตาการต่อสู้คดีของจำเลย ที่ยืนยันปฏิเสธกระบวนการที่เขาเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมต่อไป
.
ขณะเดียวกันในช่วงบ่าย หลังการนัดพร้อมคดี นางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ มารดาของเพนกวิน ได้ยื่นขอประกันตัวลูกชายอีกครั้งทั้งในคดีชุมนุม #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร และคดีชุมนุม Mobfest โดยได้ยืนยันในคำร้องว่าจากการได้พบลูกชายที่ศาลในวันนี้ พบว่าสุขภาพของเพนกวินมีอาการทรุดโทรมลงอย่างมาก มีอาการหน้ามืด วิงเวียน อ่อนเพลีย ไม่อาจลุกยืนเดินได้ ในฐานะมารดา เชื่อว่าสุขภาพของจำเลยอยู่ในขั้นอันตรายถึงแก่ชีวิต เนื่องจากเพนกวินมีโรคประจำตัว คือโรคหอบหืด อันอาจทำให้หยุดหายใจได้
.
นางสุรีย์รัตน์ระบุว่าหากศาลให้ปล่อยตัวชั่วคราว สามารถกำหนดให้ไปนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล โดยห้ามออกไปนอกเขตโรงพยาบาลได้ ภายในกำหนดเวลาที่เพียงพอที่จะฟื้นฟูร่างกาย และเมื่อฟื้นตัวแล้ว ให้มารายงานตัวต่อศาล เพื่อฟังคำสั่งที่จะอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวหรือไม่ต่อไป
.
ต่อมา ศาลอาญามีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวพริษฐ์ในทั้งสองคดี โดยระบุว่า “พิเคราะห์แล้ว ศาลนี้และศาลอุทธรณ์เคยสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยในระหว่างพิจารณา โดยระบุเหตุผลไว้ชัดแจ้งแล้ว กรณีไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่้งเดิม จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว” ลงนามคำสั่งโดยนายชนาธิป เหมือนพะวงศ์
.
ทั้งนี้การยื่นประกันตัวดังกล่าว นับเป็นครั้งที่ 8 ในคดีชุมนุม #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร และครั้งที่ 6 ในคดีชุมนุม MobFest แล้ว โดยทุกครั้งศาลยังคงยืนยันไม่ให้ปล่อยตัวชั่วคราว
.
อ่านบนเว็ปไซต์ >>https://tlhr2014.com/archives/28457
.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
.
เปิดคำฟ้องคดีชุมนุม 19 กันยา- คดี MobFest ก่อนศาลไม่ให้ประกันสี่แกนนำ >> https://tlhr2014.com/archives/25821
.
บันทึกสังเกตการณ์ 16 ชั่วโมง ก่อน “ราษฎร” 21 คน ประกาศถอนทนายความคดี #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร >> https://tlhr2014.com/archives/28234
พริษฐ์จึงแถลงขอให้การปฏิเสธ และปฏิเสธกระบวนการในชั้นศาลนี้ เนื่องจากไม่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ทําให้ไม่สามารถต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่ หากศาลอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว พริษฐ์จะให้การยอมรับในกระบวนการยุติธรรมและจะขอต่อสู้คดี พริษฐ์ยังแถลงขอถอนทนายความที่มีอยู่ทั้งสามคน โดยได้เขียนคำร้องต่อพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด ความว่า
.
“เนื่องด้วยข้าพเจ้ายังมิต้องคำพิพากษาให้มีความผิดสถานใดถือเป็นผู้บริสุทธิ์ตามกฎหมาย แต่ศาลกลับด่วนคุมขังข้าพเจ้าไว้ราวกับเป็นอาชญากรร้ายแรง เป็นผลให้ข้าพเจ้าไม่อาจสู้คดีได้อย่างเต็มที่ กระบวนการที่ดำเนินในกระบวนการนี้จึงไม่ใช่กระบวนการยุติธรรมเป็นเพียงการกลั่นแกล้งทางการเมืองเหมือนกับศาลในระบอบนาซีเยอรมัน ข้าพเจ้าจึงขอถอนทนายและไม่ยอมรับกระบวนการในคดีนี้จนกว่าข้าพเจ้าจะได้รับสิทธิ์ในการประกันตัวให้สู้คดีอย่างเต็มที่
.
“ข้าพเจ้ายืนยันว่าปฏิเสธกระบวนการครั้งนี้เป็นเพราะข้าพเจ้าไม่ได้รับสิทธิ์ในการต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ หากได้รับสิทธิ์การประกันตัวให้ได้ต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ ก็จะให้ความร่วมมือกับกระบวนการยุติธรรม”
.
ด้านทนายความจำเลยแถลงว่าเมื่อพริษฐ์ขอถอนทนายความ แต่เมื่อศาลยังไม่ได้อนุญาตให้ถอน จึงจะขอทําหน้าที่ทนายความต่อไป และได้เคยยื่นบัญชีระบุพยานไว้ฉบับลงวันที่ 5 มีนาคม 2564 มีพยานบุคคล 4 ปาก และในวันนี้ได้เตรียมบัญชีระบุพยานไว้เพื่อยื่นเพิ่มเติม โดยมีพยานบุคคล 11 ปาก รวมทั้งหมด 15 ปาก เพื่อเป็นการรักษาสิทธิในการต่อสู้คดีของจําเลยในขณะที่ยังทําหน้าที่ทนายความ จึงขอกําหนดวันนัดในส่วนของจําเลยไว้ตามที่ได้แถลง
.
ส่วนจํานวนวันนัดของจําเลยขอให้อยู่ในดุลพินิจของศาล หากมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับพยานจะมีการแถลงให้ศาลทราบ
.
ศาลพิเคราะห์ตามคําแถลงของโจทก์และข้อต่อสู้ของจําเลยแล้ว เห็นควรกําหนดนัดสืบพยานโจทก์ 9 นัด นัดสืบพยานจําเลย 5 นัด รวมทั้งหมด 14 นัด พร้อมทั้งอนุญาตให้ถอนทนายความทั้งสามออกได้
.
จากนั้นฝ่ายอัยการโจทก์ได้ไปนัดหมายการสืบพยานที่ศูนย์นัดความของศาลเพียงฝ่ายเดียว โดยไม่มีตัวแทนของฝ่ายจำเลย และได้กำหนดนัดเริ่มสืบพยานโจทก์คดีนี้ในวันที่ 25 มิถุนายน 2564
.
การแถลงขอถอนทนายความของพริษฐ์ในวันนี้ นับเป็นการปฏิเสธกระบวนการยุติธรรม ด้วยการร้องขอถอนทนายเป็นคดีที่ 2 ของเขา หลังแถลงครั้งแรกในคดี #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร เนื่องจากยืนยันว่าตนไม่ได้รับสิทธิในการพิจารณาคดีที่เป็นธรรม จึงต้องจับตาการต่อสู้คดีของจำเลย ที่ยืนยันปฏิเสธกระบวนการที่เขาเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมต่อไป
.
ขณะเดียวกันในช่วงบ่าย หลังการนัดพร้อมคดี นางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ มารดาของเพนกวิน ได้ยื่นขอประกันตัวลูกชายอีกครั้งทั้งในคดีชุมนุม #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร และคดีชุมนุม Mobfest โดยได้ยืนยันในคำร้องว่าจากการได้พบลูกชายที่ศาลในวันนี้ พบว่าสุขภาพของเพนกวินมีอาการทรุดโทรมลงอย่างมาก มีอาการหน้ามืด วิงเวียน อ่อนเพลีย ไม่อาจลุกยืนเดินได้ ในฐานะมารดา เชื่อว่าสุขภาพของจำเลยอยู่ในขั้นอันตรายถึงแก่ชีวิต เนื่องจากเพนกวินมีโรคประจำตัว คือโรคหอบหืด อันอาจทำให้หยุดหายใจได้
.
นางสุรีย์รัตน์ระบุว่าหากศาลให้ปล่อยตัวชั่วคราว สามารถกำหนดให้ไปนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล โดยห้ามออกไปนอกเขตโรงพยาบาลได้ ภายในกำหนดเวลาที่เพียงพอที่จะฟื้นฟูร่างกาย และเมื่อฟื้นตัวแล้ว ให้มารายงานตัวต่อศาล เพื่อฟังคำสั่งที่จะอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวหรือไม่ต่อไป
.
ต่อมา ศาลอาญามีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวพริษฐ์ในทั้งสองคดี โดยระบุว่า “พิเคราะห์แล้ว ศาลนี้และศาลอุทธรณ์เคยสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยในระหว่างพิจารณา โดยระบุเหตุผลไว้ชัดแจ้งแล้ว กรณีไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่้งเดิม จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว” ลงนามคำสั่งโดยนายชนาธิป เหมือนพะวงศ์
.
ทั้งนี้การยื่นประกันตัวดังกล่าว นับเป็นครั้งที่ 8 ในคดีชุมนุม #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร และครั้งที่ 6 ในคดีชุมนุม MobFest แล้ว โดยทุกครั้งศาลยังคงยืนยันไม่ให้ปล่อยตัวชั่วคราว
.
อ่านบนเว็ปไซต์ >>https://tlhr2014.com/archives/28457
.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
.
เปิดคำฟ้องคดีชุมนุม 19 กันยา- คดี MobFest ก่อนศาลไม่ให้ประกันสี่แกนนำ >> https://tlhr2014.com/archives/25821
.
บันทึกสังเกตการณ์ 16 ชั่วโมง ก่อน “ราษฎร” 21 คน ประกาศถอนทนายความคดี #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร >> https://tlhr2014.com/archives/28234
ooo