อานนท์ นำภา
10h ·
ข้อความฝากจากเรือนจำ
16 เม.ย. 64
ถึงรุ้ง ฟ้า โตโต้ และเพื่อนผู้ต้องขังที่เชียงใหม่
วันนี้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ พวกเราทุกคนยังเข้มแข็ง โดยเฉพาะเพนกวิน ซึ่งแม้จะโรยแรงแต่ก็ยังมีรอยิ้มนักสู้ หวังว่าทุกคนจะยังเข้มแข็งเช่นกัน สิ่งที่เรากำลังเผชิญไม่ใช่การต่อสู้กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งแต่กำลังเผชิญกับความวิปริตของยุคสมัย พวกเราถูกปฎิเสธสิทธิในการประกันตัวทั้งที่เป็นเรื่องพื้นฐาน ถูกเร่งรัดการดำเนินคดีเพื่อไม่ให้ได้รับความเป็นธรรมในการต่อสู้คดี
พวกเขาไม่ได้มองเราเป็นเพื่อนร่วมชาติ เป็นลูกหลานหรืออนาคตของชาติแต่อย่างใด ไม่มีสังคมไหนที่ผู้ใหญ่พาลูกหลานตัวเองมาติดคุกเพียงเพราะลูกหลานกล้าพูดกล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง
เรารู้จักกันในนามของโชคชะตาและโชคชะตาได้กำหนดให้เราทำหน้าที่แห่งยุคสมัย ในความโชคร้าย เรายังโชคดีที่คนนอกคุกยังต่อสู้อย่างเข้มแข็ง อยากให้ทุกคนรักษาสุขภาพ รอวันจะพบกันนอกเรือนจำ
เชื่อมั่นและศรัทธา
อานนท์ นำภา
.....
Panusaya Sithijirawattanakul
7h ·
“ถึงทุกคน
เราเข้าใจทุกคนนะ เข้าใจมากๆนะ ทั้งคนที่อยากให้เรากลับมากินข้าวได้แล้วและคนที่ส่งกำลังใจให้ เรายังโอเคนะ ความดันอะไรก็ยังปกติดี เราขอบคุณและเราดีใจที่ทุกคนไม่ลืมเรา
แต่เราไม่อยากให้ทุกคนลืมเหมือนกันว่าเราทำเพราะอะไร ตอนแรกเราไม่อยากทำแบบนี้หรอกเราเคยคุยกับเพนกวินว่า เราไม่ทำนะ เราอาจจะไม่ไหว แต่เพนกวินมันแน่วแน่มากว่ามันต้องทำเพื่อประท้วงกระบวนการที่ไม่ยุติธรรมกับเราและสื่อสารถึงทุกคน รวมถึงมนุษย์ผู้มีอำนาจด้วยว่า การจองจำเราไว้แบบนี้มันเป็นเรื่องที่โหดร้ายและทารุณ
เราสองคนเป็นแค่นักศึกษาปีสามและปีสี่ เราแค่ออกมาพูดให้ทุกคนได้ยินว่าเราคิดอะไรอยู่และมีความคาดหวังต่อประเทศนี้ยังไงบ้างเรา แค่อยากให้เกิดการพัฒนาไปในทางที่ดีและการเปลี่ยนแปลงบางอย่างอย่างเหมาะสม แต่สุดท้ายคุณก็เอา 112 มาใช้กับเรา และไม่ใช่แค่กับเรา แต่รวมตั้งแต่วัยแก่ยันเด็ก เด็กที่สุดอายุ 14 ปีที่โดนยัดข้อหานี้ โดยที่เจตนาของทุกคนมันไม่มีอะไรไปมากกว่าเขาอยากจะมีชีวิตที่ดีขึ้นและอยากจะมีสถาบันกษัตริย์ที่เขาสามารถกราบไหว้และเทิดทูนได้อย่างเต็มใจ
เมื่อมันมีสิ่งที่ควรปรับปรุงเมื่อมันมีสิ่งที่ผิดพลาดไปเราในฐานะเป็นมนุษย์ด้วยกันย่อมต้องพูดคุยกัน แนะนำกันเพื่อให้สังคมนี้ไปต่อได้และมีการปรับปรุงไปในทางที่ดีขึ้น เป็นสิ่งที่เพื่อนมนุษย์ควรกระทำต่อกันไม่ใช่เหรอ
การอดอาหารประท้วงของเราสองคนตอนนี้มันไม่ใช่แค่เพื่อตัวเราเองที่เรากำลังบอกว่า เราอยากให้เขาปล่อยตัวชั่วคราวเรา ให้เราได้สู้คดีอย่างเต็มที่ แต่มันก็เพื่อคนทุกคนที่ถูกดำเนินคดีทางการเมืองในตอนนี้ มันไม่มีใครเลยที่สมควรจะโดนกระทำแบบนี้
เราขอบคุณแล้วเราเข้าใจในความห่วงใยของทุกคน ก่อนหน้านี้เรากลัวว่าทุกคนจะลืมว่าเราอยู่ในนี้จนถึงวันนี้เราอยู่ในเรือนจำมาเกือบ 40 วันแล้ว เรากลัวคนลืมว่าเรากำลังประท้วงด้วยการอดอาหารอยู่ แต่พอมีแคมเปญนี้เกิดขึ้นเราดีใจนะ ดีใจมากที่ทุกคนไม่ลืมกัน
แต่เราอยากจะขอร้องทุกคนว่าตอนนี้สิ่งที่ทางเราและทุกคนที่เห็นข้อความนี้ต้องทำ คือ การบอกกับคนทั้งโลกว่าพวกเราถูกกักขังอยู่ในนี้เพราะว่าอะไรและเรียกร้องให้ปล่อยตัวเราออกไป
ทุกคนจำได้ไหมเมื่อปลายปีที่แล้วที่เกิดการชุมนุมขึ้นมากมายเกิด กระแสขึ้นมากมายข่าวการชุมนุมในประเทศไทยดังไปถึงต่างประเทศทั่วโลก โดยความช่วยเหลือของพวกเราทุกคนนี่แหละ ที่ทำให้ตอนนั้นเราสามารถพูดถึงการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ได้อย่างเปิดเผย มันเป็นเพราะทุกคนจริงๆ ตอนนั้นเราถึงกล้าออกมาพูดและเรายังถึงคงพูดอยู่เพราะมีทุกคนสนับสนุนเรื่องนี้ไปด้วยกัน ตอนนั้นเรารู้สึกขอบคุณทุกคนจริงๆ
และในตอนนี้เราก็ต้องการการสนับสนุนจากทุกคนอย่างเต็มที่เหมือนตอนนั้นอีกครั้งหนึ่ง เราไม่รู้ว่ามันมากเกินไปไหม แต่ขอได้ไหม ทำให้พวกเราได้ออกไปที บอกทุกคนในประเทศนี้ บอกทุกคนในโลกที ว่าตอนนี้เรากำลังถูกทารุณด้วยกระบวนการอยุติธรรม ทำให้มันเป็นแคมเปญใหญ่ขึ้นมาอีกครั้งได้ไหม
ถ้าหลังจากข้อความนี้จบลงแล้วมันไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราคิดว่าเราคงได้อยู่ในนี้ตลอดไป
เราเชื่อในพลังของคนข้างนอก”
รุ้ง ปนัสยา
16 เม.ย. 64
(โพสต์โดยพี่สาวน้องรุ้ง)