จำคุกสองเดือน (แบบไม่รอลงอาญา) ๒ ผู้จัดการผับดังทองหล่อ ต้นตอคลัสเตอร์โควิด นี่เป็นละครลิงหลอกสลิ่มใช่มั้ย ปล่อย ‘อ๊อด มิยาบิ’ เจ้าของลอยนวล “เอาอย่าง ‘หลงจู๊สมชาย’ เปี๊ยบ” ดัง ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ว่านั่นใช่เลย
อดีตเจ้าพ่ออ่างลำดับความเปรียบเทียบ “ครั้งแรก สนามมวยฝีมือทหาร ครั้งสอง แรงงานต่างด้าวฝีมือทหาร ครั้งสาม บ่อนการพนันฝีมือตำรวจ ครั้งสี่ คริสตัลคลับฝีมือตำรวจ ผลออกมา เหมอเหมอ ไม่ได้ไม่เสีย” คนละสองครั้งเท่ากัน แต่
“ไม่มีครั้งไหนที่เป็นฝีมือชาวบ้าน ผู้ทำมาหากินสุจริต เดินต้อยๆ ตามนโยบายรัฐเลยสักนิด” ตรงเผง ครั้งนี้ สน.ทองหล่อเพิ่งรู้ “สถานที่อย่างคริสตัลคลับที่ใหญ่โตมโหฬาร...ไม่มีแม้แต่ใบอนุญาตสถานบริการ ตาม พ.ร.บ.สถานบริการ”
แม้จะสั่งปิดเป็นเวลา ๕ ปี เดี๋ยวก็กลับมาเปิดใหม่ได้อย่างชูวิทย์ว่า เพราะเจ้าของไม่ระคายเคืองอะไร ทำมาค้าขึ้นกับกิจการ “เปิดกันยันย่ำรุ่งพระบิณฑบาต ขายเหล้า เอาผู้หญิงมาเปิดโชว์สะดือ โชว์หน้าอกนั่งดื่ม มีโคโยตี้เต้นเด้งหน้าเด้งหลัง” มาหลายปี
เช่นกันกับรัฐมนตรี ส.ส. และนายทหาร นายตำรวจผู้เปี่ยมด้วยอำนาจ ไม่สะทกสะท้าน ด้านๆ เอาหน่อย ทำหน้าตายเดี๋ยวชาวบ้านก็ลืม ประเทศไตแลนเดียแดนกะลาซะอย่าง เรื่องที่รู้กันทั่วว่า “ทั้งผู้คุ้มกัน ทั้งตำรวจ เลขาฯ และพนักงานต่าง ๆ”
แค่ปฏิเสธ ขุ่นๆ คิดว่าคงพอแล้ว หามิได้ เสียงจากประชากรทั่วไปยังคงร้องยี้ ว้า ฮ้า จนกลายเป็นความเคยชิน แต่มีเสียงหนึ่งของ เอกชัย หงส์กังวาน บ่งถึงคุณธรรมอันควรมีควรเป็นที่ว่า “ถ้าลงโทษนอมินีผับ แต่ไม่ลงโทษคนเที่ยวผับ ก็อย่าไล่จับคนร่วมม็อบ”
ส่วนความเสียหายจากการระบาดใหม่ของไวรัส ให้ ‘หมอยง’ จัดการแก้ไข “วัคซีนฯ ที่นำมาฉีดในประเทศไทย ทั้งซิโนแวค และแอสตร้าเซนเนก้ามีประสิทธิภาพดี ป้องกันการป่วยที่มีอาการมากและป้องกันการเสียชีวิตได้ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ไม่ต่างจากวัคซีนยี่ห้ออื่นๆ”
นพ.ยง ภู่วรวรรณ ช่วยแก้ต่าง “ป้องกันเชื้อกลายพันธุ์สายพันธุ์อังกฤษได้ ขอให้ประชาชนมั่นใจ” ไม่รู้ว่าผู้เชี่ยวชาญ ‘ไวรัสวิทยา’ จากจุฬาฯ มั่นใจประสิทธิภาพเกินจรรยามารยาทการแพทย์หรือเปล่า เมื่อบอกว่า “ไม่แตกต่างจากยี่ห้อโมเดอร์น่าและไฟ้เซอร์”
หมอยงยังยอมรับว่าไวรัสกลายพันธุ์สายอาฟริกาใต้ และสายบราซิลอาจแรงเกินกำลังวัคซีนที่มีอยู่ “ทำให้ประสิทธิภาพลดลงบ้าง แต่ก็ยังป้องกันได้ ด้วยวัคซีนที่มีอยู่สองอย่างนี่แหละ แต่ว่าประชากรส่วนใหญ่ที่ไม่มีนิสัยงมงายง่าย ก็จะฟังไว้หูแล้วคอยดูผล
ตราบเท่าที่สามารถควบคุมการแพร่เชื้อ และฉีดวัคซีนป้องกันให้แก่ผู้คนจำนวนมากที่สุดภายในเวลารวดเร็ว อย่าให้เกินหนึ่งเดือน ก็จะไม่มีการตื่นตูม หรือกำกับไม่ให้เกิดอัตราการตายด้วยโควิดมากขึ้นได้ ก็น่าจะขอผ่านไปอีกทีดีอยู่
แต่ถ้าตัวเลขและหลักฐานต่างๆ ในทางร้ายไม่ปรากฏเพราะเก็บกดเอาไว้ เหมือนรัฐมนตรีคมนาคมตอนนี้ไทม์ไลน์ออกมาไม่เคยไปผับทองหล่อ หรือจำนวนผู้เสียชีวิตไม่ปรากฏเพราะต่างนอนตายอยู่บ้าน ถูกโรงพยาบาลปฏิเสธไม่รับรักษา
อย่างนั้นต้องโทษกรรมเก่าของชาติ ที่กงเกวียนเวียนว่ายอยู่กับการเสียเปรียบของผู้ด้อยโอกาส และความได้เปรียบของผู้กำอำนาจ ย้อนยุคไปยังระบบ ‘ตาต่อตา ฟันต่อฟัน’ ผู้ถูกกดขี่ต้องฮึดสู้เพื่อโค่นล้มผู้ปกครองให้ได้ ไม่มีการอยู่ร่วมกันอย่างสันติอีกต่อไป
หากจะเอาอุปมาอุปมัยจากนักการเมืองวัยรุ่น พริษฐ์ (คนที่ไม่ติดคุก) มาเปรียบเปรย ‘ไอติม’ ซึ่งดูจะพ้นบ่วงของพรรคการเมืองแบบ ‘เอาดีใส่ตัว’ มาได้แล้ว พูดถึงตึกรัฐสภาไทยทรงพึลึกคล้ายชาปณสถานยักษ์ ราคา ๑๒,๐๐๐ ล้านบาท ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
เขาอ้างงานวิจัยเป็นเรื่องเป็นราว จาก https://bit.ly/2OGO4qo ว่า “สถาปัตยกรรมของรัฐสภา & วัฒนธรรมการเมืองสัมพันธ์กัน ประเทศเผด็จการ มักมีสภาขนาดใหญ่ สมาชิกนั่งห่างกัน หันหน้าหาประธาน เพราะมีหน้าที่แค่ฟังผู้นำ
ประเทศประชาธิปไตยมักมีสภาขนาดเล็ก สมาชิกนั่งชิดกัน หันหน้าเข้าหากัน เพื่อเอื้อต่อการถกเถียงแลกเปลี่ยน”
(https://www.matichon.co.th/covid19/news_2670034, https://www.amarintv.com/news/detail/74644? และ https://www.facebook.com/ChuvitKamolvisit/posts/4373918705988158)