วันศุกร์, มีนาคม 01, 2562

ถุงขยะถ่วงประวิตร คนใหญ่ คสช. อยู่ที่รสนิยมการบริโภคสูง แต่หลวงจ่าย


“เหล็กดี ยิ่งตียิ่งเหนียว” วลีนี้ชักจะเอามาใช้กับหนทางการเมืองของสองหุ้นส่วนพรรค อนาคตใหม่ ได้เหมาะ เมื่อใกล้วันหย่อนบัตรเลือกตั้งเข้ามาอีก ทั้ง ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ ปิยบุตร แสงกนกกุล โดนมาหลายคำรบ แล้วก็ยังโดนต่อไป ข้างหน้าจะมาอีกดังที่ธนาธรคาดการไว้

ล่าสุด ๒๘ กุมภา ปิดท้ายก่อนถึงเดือนเลือกตั้ง มีนา ๖๒ ก็มีคนไปยื่นคำร้องต่อ กกต. ขอให้พิจารณาส่งศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน ยุบพรรคอนค. ข้อหาล้มล้างระบอบประชาธิปไตยไทยๆ ที่มีกษัตริย์เป็นประมุข ตามมาตรา ๔๙ ของรัฐธรรมนูญ และมาตรา ๙๒(๒) ของ พรป.พรรคการเมือง

กฎหมายทั้งสองฉบับที่ใช้อ้างเป็นผลพวงจากการรัฐประหารของคณะยึดอำนาจเมื่อเกือบ ๕ ปีที่แล้ว ที่ใช้ชื่อว่า คสช. ตั้งตนเป็นรัฐบาลครองบ้านผ่านเมืองมาจนได้เวลาเปลี่ยนหน้าตาเสียใหม่ด้วยการเลือกตั้ง ที่มีพรรคการเมืองของตนเองแฝงนาม แฝงเจตนา แฝงศาสตราวุธ รอเป็นเสาค้ำ

ไม่ว่าจะมีตัวช่วยจัดตั้งเตรียมไว้หลากหลาย ใช้พลังดูด ส.ส.เก่ามาเข้าพรรค กับสมาชิกรัฐสภาที่แต่งตั้งเองกับมือเรียกว่า สว. จำนวนสองในสามของความต้องการคะแนนเสียงโหวตให้ใครเป็นนายกฯ  ไหนจะระดมทุนสนับสนุนจำนวนมหาศาลได้อย่างเย้ยหยันตัวบทกฎหมายที่พวกตนเขียนไว้เอง และการซื้อเสียงอย่างโจ๋งครึ่มข้างเวทีปราศรัย นอกเหนือจากที่มอบให้ไล่แจกในนามนโยบายประชารัฐ เป็นอาทิ

กระนั้นยังไม่พอ ทั้งวิชามารและยุทธวิธีเตะตัดขาคู่แข่งงัดออกมาใช้ สกัดกั้นกีดกันพรรคการเมืองที่ทำท่าจะมาแรง หรือสร้างเสริมความแข็งแกร่งให้แก่กระบวนการประชาธิปไตย เป็นพวกไม่เอาเผด็จการทหาร รังเกียจอำมาตยาธิปไตย
 
บุญถาวร ปัญญาสิทธิ์ ในฐานะ “ทีมงานประชาชนปกป้องรัฐธรรมนูญ และสถาบันพระมหากษัตริย์” อ้างเอกสารเป็นหลักฐานประกอบคำร้องไว้สองสามอย่าง เช่น บทสัมภาษณ์ของธนาธรเรื่องการสานต่อภารกิจคณะราษฎร ความเห็นทางวิชาการของปิยบุตร ประเด็นมาตรา ๑๑๒ ในปี ๒๕๕๖

ส่วน ศรีสุวรรณ จรรยา ในฐานะเลขาธิการสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ก็เรียกร้องให้ กกต.ตรวจสอบกรณีเว็บไซ้ท์ของพรรคอนาคตใหม่ลงคุณสมบัติของหัวหน้พรรคไว้ผิดความจริง แม้จะได้มีการแก้ไขแล้วก่อนตนยื่นคำร้อง ก็ไม่สน

กับทั้งยังขอให้ตรวจสอบกรณีคำปราศรัยของเลขาธิการพรรคซึ่งเจ้าตัว นำลงบนหน้าเฟชบุ๊ค เนื้อหาบางประโยคดูเหมือนว่าจะแสดงการดูถูกและใส่ร้าย ชาวอีสาน ทั้งๆ ที่ข้อความเต็มนั้นผู้มีสติปัญญาพออ่านออกเขียนได้เห็นแล้วไม่น่าจะเข้าใจไปทางร้ายตามคำฟ้อง

พิสูจน์ได้ในข้อความสำคัญที่ปิยบุตรเขียน “อีสานถูกทำให้เชื่อว่าเป็นคนตลก เป็นแรงงาน ไม่มีความรู้ แต่แท้จริงแล้ว คนอีสานคือดินแดนกำแพงเหล็ก เป็นดินแดนแห่งนักประชาธิปไตย นักต่อสู้ความอยุติธรรม ขจัดความเหลื่อมล้ำในประเทศนี้”


บุญถาวรและศรีสุวรรณอาจเป็นนักกิจกรรมที่มุ่งมั่นปกปักรักษาประเพณีการปกครองดั้งเดิมของไทย ด้วยการคัดค้าน กีดกัน และกำจัด ถ้อยคำ แนวคิด และกิจการใดๆ อันจะทำให้สิ่งที่พวกเขาเชิดชูมัวหมอง หรือมีคุณค่าด้อยลงไป

แต่ไทมิ่ง หรือจังหวะเวลาในการยื่นคำร้องเป็นอื่นไปไม่ได้ นอกจากมุ่งมาดสกัดกั้นความนิยมและชื่นชมต่อแกนนำพรรคอนาคตใหม่ ในทิศทางการเมืองของพวกเขาที่ได้แสดงให้เห็นช่วงเดือนสองเดือนที่ผ่านมา ว่า จะเป็นพลังอันเชื่อมั่นได้ของอุดมการณ์ประชาธิปไตยแบบสากล

เสร็จแล้วหันไปดูการเอาเปรียบของฝ่ายสนับสนุนอำนาจเผด็จการบ้าง รองหัวหน้า คสช. เพิ่งได้รับการประกาศวางตัวเป็นคนควบคุมการแต่งตั้งสมาชิกวุฒิสภา ตามด้วยเสียงร้องยี้อึงมี่ เพราะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เองเต็มไปคดีความและข้อครหาล้นตัว
ไพศาล พืชมงคล ที่ปรึกษาของ พล.อ.ประวิตร ออกมาอวดอ้างสรรพคุณเจ้านายของตนว่าเป็นคนมีคุณภาพสูง การได้เป็นประธานคัดเลือกสมาชิกวุฒิสภาสรรหาของ คสช. จะทำให้ได้สมาชิกเกรดเอเข้าไปในสภาแต่งตั้งชุดนี้

มิใยถุงขยะ (ฝรั่งเรียกว่า ‘baggage’) ที่ถ่วงพล.อ.ประวิตรอยู่ขณะนี้ล้วนทำให้ไม่มีความน่าเชื่อถือเหลืออยู่ คดีนาฬิกาหรูมูลค่ามหาศาลยืมจากเพื่อนที่ตายแล้วมาตั้ง ๒๕ เรือน ไว้ในครอบครองของตนโดยไม่แจ้งต่อคณะกรรมการปราบคอรัปชั่นตามระเบียบ

นั่นถึงจะหลุดคดีได้ใครๆ ก็เห็นว่าเป็นเพราะเส้นสายและมาตรฐานยุติธรรมของคณะกรรมการต่ำเตี้ยเป็นหลักใหญ่ ไหนจะรสนิยมในการบริโภคสูงไปฮาวายกินคาเวียร์ นี่ก็อีกแล้ว ไปนั่งซดกาแฟริมทางกันสามคนกับที่ปรึกษาแถวๆ สีลม พ่วงรัฐมนตรีอีกสามสี่คน

เพียงแต่ว่าเมื่อเช็คบิลค่ากาแฟมื้อนี้ตัวเลขออกมา ๘๑,๖๓๗ บาท เฉลี่ยสนนราคาตกถ้วยละหมื่นสอง ทำไงได้เพราะเม็ดกาแฟที่ใช้ชงสั่งมาจากนอกไกลถึงอาฟริกา เพียงแต่รสนิยมสูงของทั่นๆ เหล่านี้ล้วนเบิกจ่ายจากงบประมาณแผ่นดิน

ไม่เท่านั้น ทั่นอ้างอย่างคางเชิด “การเบิกงบในแต่ละครั้งเป็นสวัสดิการจากตำแหน่งอยูู่แล้ว ทั้งค่าเดินทางสถานที่และอาหาร “ถึงจะเป็นงบที่มาจากภาษีประชาชนแต่มันเป็นเรื่องของบุคคลระดับสูงอย่างผม” ทั่นย้อนให้


นั่นไง ใครอย่าได้หือเพราะ “มันเป็นเรื่องภายใน และเป็นความลับทางราชการอีกด้วย” เด็ดไหมล่ะ มาดของเบอร์สอง รองฯ ฝ่ายความมั่นคงเผด็จการทหารเพื่อประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

หมายเหตุไทยอีนิวส์ :

เมื่อวันที่ ๒ มีนาคม มีรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจระบุว่า "คสช.แจ้งความเอาผิดเว็บไซต์ iosnews.com บิดเบือนภาพ 'ประวิตร' ดื่มกาแฟแก้วละ 12,000 ผิด พรบ.คอมฯ"

โดยเนื้อข่าวอ้างว่าภาพนั่งดื่มกาแฟกับที่ปรึกษาของรองนายกฯ และ รมว.กลาโหมนั้น "เป็นภาพเก่าที่เกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว"

(http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/828440)

อย่างไรก็ดีไทยอีนิวส์ยังคงยืนยันถ้อยความในบทความของเราข้างต้น ไม่ว่าภาพเหตุการณ์ที่อ้างถึงจะเก่าหรือใหม่เพียงใดก็ตาม กาแฟถ้วยละหมื่นสองย่อมไม่เหมาะควรอย่างแน่นอนถ้าจ่ายด้วยงบประมาณแผ่นดิน