ผมเพิ่งอ่านหนังสือเล่มนึง สนุกดี ชื่อ “How Democracies Die” หรือแปลเป็นไทยว่า “ประชาธิปไตยตายได้อย่างไร”หนังสือเล่มนี้เพิ่งออกมาเมื่อต้นปีนี้เองครับ เขียนโดย Steven Levitsky และ Daniel Ziblit ซึ่งทั้งสองท่านเป็น Professors of Government ที่ Harvard University
เนื้อหาในหนังสือได้อธิบายถึงการเสื่อมถอยหรือการตายของประชาธิปไตยในหลายๆประเทศทั่วโลกซึ่งแบ่งได้เป็นสองรูปแบบ คือ
แบบที่ 1: ตายด้วยปืนซึ่งหมายถึงการปฎิวัติรัฐประหาร โดยมีประเทศตัวอย่างเช่น อาร์เจนตินา บราซิล โดมินิกัน รีพับลิก กาน่า กรีซ กัวเตมาลา ไนจีเรีย ปากีสถาน เปรู ตุรกี อุรุกวัย
แบบที่ 2: ตายด้วยเผด็จการ (Authoritarians) ที่ใจจริงแล้วไม่ได้เลื่อมใสในระบอบประชาธิปไตยแต่แฝงมากับขบวนการตามระบอบประชาธิปไตยหรือการเลือกตั้งเพื่อเข้าสู่อำนาจ เช่น ฮิตเลอร์จากเยอรมัน ฮูโก ชาเวซจากเวเนซูเอลา อัลเบอร์โต ฟูจิโมริจากเปรู
ในหนังสือเล่าว่าผู้นำจากการเลือกตั้งในประเทศเหล่านี้ ได้ทำลายระบอบประชาธิปไตยโดยการใช้องค์กรกลาง เช่น ใช้ขบวนการยุติธรรมเป็นอาวุธ ซื้อหรือกดขี่สื่อไม่ให้แสดงความเห็น เขียนกฎใหม่เพื่อให้ฝ่ายตัวเองได้เปรียบทางการเมือง โดยสิ่งที่น่าเศร้าใจที่สุดคือการใช้สถาบันต่างๆในระบอบประชาธิปไตยในการค่อย ๆ ฆ่าประชาธิปไตยเสียเอง
หนังสือยังให้แนวทางการพิจารณาว่าใครเป็นเผด็จการที่แฝงมากับระบอบประชาธิปไตยนั้นดูได้จากตัวชี้วัดสี่ตัว (Four Key Indicators of Authoritarian Behavior) คือ
1. การไม่ยอมรับกติกาของประชาธิปไตย เช่น การล้มล้างรัฐธรรมนูญ การเปลี่ยนแปลงรัฐบาลโดยใช้กำลัง
2. การปฏิเสธความชอบธรรมของคู่แข่งขันทางการเมือง เช่น การกล่าวหาว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ การกล่าวหาโดยไม่มีหลักฐานว่าอีกฝ่ายเป็นอาชญากร
3. การสนับสนุนให้ใช้ความรุนแรง เช่น การใช้ความรุนแรงกับฝ่ายตรงข้าม
4. การลิดรอนสิทธิเสรีภาพของฝ่ายตรงข้ามและสื่อมวลชน เช่น การใช้กฎหมายในการควบคุมการวิพากษ์วิจารณ์ของฝ่าย
หนังสือยังได้แนะนำว่าในการต่อสู้กับเผด็จการที่แฝงมากับการเลือกตั้งนั้น ฝ่ายที่ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยต้องร่วมมือกัน ถึงแม้จะมีอุดมการณ์ทางการเมืองที่ต่างกันแต่ต้องเอาความอยู่รอดของประชาธิปไตยมาก่อน ซึ่งการร่วมมือกันของฝ่ายประชาธิปไตยจะช่วยหยุดยั้งฝ่ายเผด็จการและรักษาระบอบประชาธิปไตยไว้ได้
เนื้อหาในหนังสือน่าสนใจดีครับ บางเรื่องอาจนำมาใช้กับบ้านเราตอนนี้ได้
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์