พลังประชารัฐจะอ้างคะแนนดิบอย่างไร ‘เพื่อไทย’ ในฐานะที่มีจำนวน ส.ส.มากกว่า
เดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลไปก่อนแล้ว ร่วมกับอีก ๖ พรรคฝ่ายประชาธิปไตย ในการแถลงข่าวสายวันนี้
(๒๗ มีนา) มีตัวแทนพรรคต่างๆ ไปร่วมกันลงนามในสัตยาบันด้วย
โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย
เลขาธิการพรรคเพื่อไทยแจ้งว่า พรรคเศรษฐกิจใหม่ของ มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ที่ติดภารกิจอยู่ที่
กกต. ไม่สามารถไปร่วมแถลงข่าวได้ แต่ก็ยืนยันแล้วว่าจะร่วมจัดตั้งรัฐบาลในฝ่ายประชาธิปไตยดังที่เคยประกาศไว้แน่นอน
ทั้ง ๗ พรรคที่ร่วมลงสัตยาบัน ได้แก่
เพื่อไทย อนาคตใหม่ เสรีรวมไทย ประชาชาติ เศรษฐกิจใหม่ เพื่อชาติ และพลังปวงชนไทย
ซึ่งมีจำนวนที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรเบื้องต้น เรียงตามลำดับ ๑๓๗+๘๗+๑๒+๗+๖+๕+๑ ก็คือ ๒๕๕ เสียง
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์
กล่าวในนามพรรคเพื่อไทยว่า กลุ่มที่ร่วมกันลงนามสัญญาประชาคมทั้ง ๗ พรรคนี้
มีปณิธานต้องตรงกันคัดค้านการสืบทอดอำนาจของ คสช. แต่ยังมีพรรคอื่นที่มีแนวทางคล้ายกันอีกหลายพรรคที่จะมีการเจรจาต่อไป
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พูดย้ำตามที่เป็นข่าวในช่วงสองวันมานี้ว่าสนับสนุนสุดารัตน์เป็นนายกฯ
แน่นอน ไม่ควรที่ทางฝ่ายที่ต้องการสืบทอดอำนาจยังจะดึงดันตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย
โดยนับรวมคะแนนเสียงของ สว. ๒๕๐ คน
ธนาธรยังเรียกร้องให้
กกต.เปิดผลการเลือกตั้งทั้งหมดทันที เช่นเดียวกับนายวัน มูฮัมหมัด นอร์มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ
ซึ่งนอกจากจะบอกว่ารัฐบาลที่จะมีต่อไปนี้จะต้องเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก ๒๕๐ ขึ้นไปเท่านั้น
ไม่ต้องการให้จัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยโดยอาศัยเสียงของวุฒิสมาชิก
แล้วก็เรียกร้องให้ กกต.แถลงชี้แจงคะแนนดิบทั้งหมดเช่นกัน
ไม่จำเป็นต้องรอวันวันสุดท้ายที่ ๙ พฤษภาคม เพราะคนกำลังสงสัยว่าจะรอเพื่อดึงตัวเลขไปให้ประโยชน์กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งละหรือ
ส่วน นิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย
เรียกเสียงฮาโดยเล่าว่า ที่แม้จะได้ที่นั่งมาแล้วเพียง ๑ คะแนน
กำลังลุ้นคะแนนที่สอง บอกไม่ทราบเป็นเพราะอะไรเมื่อตอนที่ กกต.แจ้งนับคะแนนแล้ว ๙๓% ได้แสนสาม แต่พอนับครบร้อยคะแนนกลับลดไป
ในตอนท้ายของรายการ สุดารัตน์แจ้งว่าหลังจบแถลงข่าวนี้
ทั้ง ๖ พรรคจะพากันเดินทางไป กกต.เจรจาขอให้เปิดเผยคะแนนทั้งหมด ดังที่ ปิยบุตร
แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่เสริมในช่วงตอบคำถามว่า กกต.ทราบคะแนนหมดแล้ว
ประกาศได้แล้ว ทุกฝ่ายทำหน้าที่แล้ว เหลือ กกต.ช่วยทำหน้าที่ของตัวด้วย
ส่วนคำถามเรื่อง ‘ข่าวลือ’ ว่าจะมีการดึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล
หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เข้ามาร่วมกลุ่มด้วยอีกราว ๕๓ เสียง
โดยจะมอบตำแหน่งนายกรัฐมนตรีให้ (นัยว่าเบื้องบนโปรดประทานมา) ภูมิธรรมบอกยังไม่เคยเสนออนุทินเป็นนายกฯ
พรรคเพื่อไทยไม่ได้ใช้ตำแหน่งนายกฯ เป็นเงื่อนไข
ปะเหมาะเจาะลง เมื่อตอน ๓๐
นาฑีก่อนเริ่มรายการวันนี้ มีโพสต์ของอนุทินแจ้งว่า “จะไม่แสดงความเห็นทางการเมืองเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาล
ก่อนที่จะมีการประกาศผลเลือกตั้งอย่างเป็นทางการโดย กกต. คล้องจองกับที่
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ตอบผู้สื่อข่าว
เมื่อถามว่า “ฝ่ายสนับสนุน พลเอกประยุทธ์
จะรอให้มีการจัดพระราชพิธีเสร็จแล้วจึงจะจัดตั้งรัฐบาลใช่หรือไม่” คำตอบดูเหมือนจะต้องมีคำเกริ่นเป็นแม่แบบก่อนว่า
“ผมไม่รู้” แล้วค่อยตามว่า “แต่ที่เราวางแผนกันเอาไว้ หลังพระราชพิธี”
อีกคนที่เป็นเดือดเป็นร้อนกับการรวมตัวของ
๗ พรรคนี้ คือทั่นรองฯ วิษณุ เครืองาม เจ้าของโมเดล “ใครรวมเสียงได้ก่อน
ก็จัดตั้งรัฐบาลก่อน” แสดงความเห็นตัดหน้า การที่พรรคเพื่อไทยและพรรคฝ่ายประชาธิปไตย
ชิงแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกัน “ชี้ว่าเป็นการแถลง แค่มีผลทางจิตวิทยาให้สังคมรับรู้เท่านั้น”
ทำเอาธนาธรคว้าไมค์เอาไปตอบทันทีว่า “ไม่ใช่จิตวิทยา
๒๕๕ เสียง มีตัวเลขจับต้องได้” และการเดินทางไป กกต.ก็เพื่อไปยืนยันตัวเลข ว่าที่รวมกันยังเป็น
๒๕๕ เสียงแน่ๆ และถ้าพรรคอื่นมาร่วมก็จะมีคะแนนเสียงมั่นคง สว. ๒๕๐
เสียงจะไม่มีความหมาย